แสวง บุญมี หนึ่งใน กกต.รุ่นตกค้าง เหาะเหินเกินลงกาอีกคน ห้ามหาเสียงชี้นำประชามติ ทีเมื่อก่อนมีคนแจ้งเรื่องฮั้ว สว. บอกรู้แล้วแต่ทำอะไรไม่ได้

แสวง บุญมี หนึ่งใน กกต.รุ่นตกค้างก่อนจะเกิดกระบวนการชุบสี ‘น้ำเงิน’ โดย สว.เสียงข้างมากซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดีฮั้ว เวลานี้ทำหน้าที่เลขาธิการ ทำงานอย่างเป็นอิสระแก่ตัวเอง สมชื่อองค์กร ให้ข้อคิดเห็นเชิงคำสั่งต่อการทำประชามติเรื่องแก้รัฐธรรมนูญที่จะมีมา

เขาบอกว่า พรรคการเมืองสามารถเสนอนโยบายของตนเกี่ยวกับการทำประชามติเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ระหว่างการหาเสียงได้ แต่ห้ามชี้นำ นั่นคือจะบอกว่าควรยอมรับหรือไม่ควรอย่างไรไม่ได้ ใครๆ ฟังแล้วก็งงเป้นไก่ตาแตก หาทางไปไหนไม่ถูก

มันช่างเป็นวาทกรรมย้อนแย้งในตัวเองอย่างหาที่ยุติไม่ได้ หลายพรรคการเมืองมีนโยบายต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่อาจแตกต่างกันในเนื้อหา มากน้อยออกไป หรือกระทั่งบางพรรคบางพวกแสดงออกมาแล้วว่าไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงใดๆ

เช่นนี้ ทาง ไอลอว์ จึงต้องไปเปิดดูกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการ ไม่พบเห็นว่ามีกฎหมายใด “ที่ห้ามพรรคการเมือง นักการเมือง ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ประชาชน หรือกลุ่มองค์กรต่างๆ รณรงค์ในการทำประชามติ” หรือห้าม ‘ชี้นำ’ แต่อย่างใด

“พ.ร.บ.ประชามติฯ มาตรา ๑๗ รับรองไว้ชัดเจนว่า ประชาชน พรรคการเมือง องค์กรเอกชน และกลุ่มต่างๆ ในสังคม ย่อมมีสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญในการจัดกิจกรรมรณรงค์เพื่อการออกเสียงได้โดยเสรี เสมอภาค และเท่าเทียมกัน”

ไอลอว์ยกตัวอย่าง “เช่น การรณรงค์ว่าต้องโหวต ‘เห็นชอบ’ กากบาทในช่องซ้าย ทุกคนพูดได้ทำได้” ซ้ำยังไม่เคยมีระเบียบหรือคำประกาศ อันเป็นข้อจำกัดเสรีภาพดังกล่าวข้างต้น ออกมาเลย มีแต่ข้อจำกัดสำหรับ กกต.เอง ชัดเจนอยู่ในกฎหมายปัจจุบัน

“พ.ร.บ.ประชามติฯ มาตรา ๑๔ กำหนดหน้าที่ให้ กกต.จัดทำและเผยแพร่ข้อความเกี่ยวกับเรื่องที่มีการออกเสียงประชามติ ซึ่งต้องไม่ชี้นำไปทางหนึ่งทางใด” แต่ไม่ใช่ห้ามนักการเมือง พรรคการเมือง หรือประชาชน ที่รณรงค์ชี้นำได้

การห้ามพรรคการเมืองชี้นำ จึงเป็นการให้ความเห็นของเลขาฯ กกต.ด้วยมโนคติของตนเองล้วนๆ แบบเดียวกับที่ศาลรัฐธรรมนูญ เหาะเกินลงกา สั่งห้ามประชาชนใช้สิทธิเสียงต่อการร่างรัฐธรรมนูญ ‘โดยตรง’ เท่ากับว่า เลขาฯ กกต.จัดการงานนอกสั่ง

อนึ่ง แสวง บุญมี ผู้นี้เมื่อครั้งการเลือกกันเองเพื่อให้ได้มาซึ่ง สว. ได้รับแจ้งจากผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัดรายหนึ่งว่า “เกิดการฮั้ว มีนัดไปเจอกันที่โรงแรม สอนวิธีทำโพยอย่างไร เขียนลงใบ สว.๓ อย่างไร” คำตอบที่ได้รับจากทั่นเลขาฯ หน้าตาเฉยว่า

“รู้แล้วละ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เขาคิดวางแผนทำกันมาแบบนี้แหละ” หลังเสร็จการเลือก สว. พ.ต.อ.พนัส นครศรี ผู้ตรวจฯ สมุทรปราการ ทำรายงานร้องเรียน มีการตั้งกรรมการขึ้นมาไต่สวนหาข้อเท็จจริง แต่จนบัดนี้ยังไม่เคยมีอะไรคืบหน้า

(https://www.youtube.com/watch=Witnesses%reveal%Saeng%Boonmee//pptv36.tv/174l, https://www.youtube.com/watch?v=FiNJwEDxZSU และ https://www.facebook.com/iLawClub/posts/oKi3pgZ14R5)