ครั้งนี้เหตุเกิดที่การพิจารณา พรบ.อากาศสะอาดฯ ซึ่งร่างหลักเสนอมาโดย ครม.ชุด เศรษฐา ทวีสิน ปรากฏว่ามีเสียงโหวตเพียง ๒๐๔ เพราะ สส.ไม่เข้าประชุมจำนวนมาก หลักๆ คือพรรคเพื่อไทยแค่ ๒๗% ปชป. ๒๔% รทสช. ๒๒% และกล้าธรรม ๑๒%
ไทยสร้างไทย กับชาติไทยพัฒนา เข้าโหวตพรรคละ ๑ คน จาก สส.ที่มี ๑๐ คนและ ๖ คนตามลำดับ ขณะที่พรรคภูมิใจไทย สส.ทั้งหมด ๖๙ คนเข้าโหวต ๘๐% และพรรคประชาชน สส.๑๔๓ คน เข้าโหวต ๙๐% หรือ ๑๒๘ คน
เนื่องจากเพื่อไทยที่มี สส.๑๔๐ คน เข้าโหวตเพียง ๔๐ กว่าคน ก็เลยโดน วิโรจน์ ลักขณาอดิศร และใครต่อใครฟาดว่า “คนของพรรคเพื่อไทยเป็นถึงประธานฯ การไม่มาเป็นองค์ประชุมให้กับร่างกฎหมายของตัวเอง มันก็เกินไป”
เหตุผลของวิโรจน์ “พ.ร.บ.อากาศสะอาด เป็นกฎหมายที่สำคัญอย่างมากต่อประชาชนคนไทยทั้งประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประชาชนคนไทยในพื้นที่ จ.#เชียงใหม่ และอีกหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ที่ต้องประสบกับปัญหาฝุ่น PM 2.5 อยู่ทุกปี”
คนของเพื่อไทยเรียงหน้ากันมาแก้ไข (อย่างแค้นๆ) ไม่ว่าจะเป็นด็อกเตอร์หญิง ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาฯ หรือขัตติยา สวัสดิผล ต่างบอกว่าหน้าที่การรักษาองค์ประชุมเป็นของรัฐบาลมิใช่หรือ พรรคซ่มก็เคยว่าไว้อย่างนี้
สำหรับ ‘เดียร์’ แซะเพิ่มว่า เพราะน้ำเงินกับส้มผิดเอ็มโอเอกันเอง นายกฯ ให้สัญญาไว้กลางสภาว่าองค์ประชุมรัฐบาลจะครบเสมอ หมายถึงพรรคประชาชนกับภูมิใจไทย และกล้าธรรมด้วยควรเข้าโหวต ๑๐๐% ทุกพรรค แบบตอนโหวตอนุทินเป็นนายก
จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้า พท.ออกมาแจงย้ำด้วย ว่าร่างฯ อากาศสะอาดนี่ไม่ใช่ของเพื่อไทยพรรคเดียวนะ ทุกพรรคร่วมกันเสนอนี่นา เป็นหน้าที่รัฐบาลต้องรักษาองค์ประชุม ทีตอนโหวตอนุทินเป็นนายกฯ ยังมีตั้ง ๓๑๑ เสียง
ครั้งนี้ “ถ้าฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้ำอยู่กันครบจริง จะมาถามหาพรรคเพื่อไทยทำไม” แล้วอ้างว่าที่ตอนโหวต สส.จำนวนมากอยู่นอกห้องเพราะ “มีมติร่วมกันแล้วว่าจะเลื่อนร่างกฎหมายฉบับนี้ไปสัปดาห์หน้า เพื่อเปิดทางให้หารือปัญหาเร่งด่วน”
เรื่องแผ่นดินยุบที่ถนนสามเสนนั่นละ “มีความเชื่อมโยงกับบริษัทที่เกี่ยวโยงกับนายกรัฐมนตรีหรือไม่” นี่ไง ลวดลายมังกรการเมืองฝ่ายค้านพราวเชียว
(https://x.com/jamornvivat/status/1971185911288434853, https://www.facebook.com/wirojlak/posts/BnV3PHEnx และ https://www.facebook.com/nattharavutm/posts/KKhwP6mDiu)
