เพราะความล่าช้าของ กกต.ในการไต่สวนคำร้องของกลุ่ม สว.สำรอง เรื่อง สว.สีน้ำเงิน ๑๓๘ คน ได้เข้ามาเพราะการทุจริต ‘ฮั้ว’ เลือกกัน สว.กลุ่มที่เรียกตนเองว่า ‘ก้าวหน้า’ ได้ทำการล่ารายชื่อเมื่อปลายเดือนพฤษภา ยื่นถอดถอน
แต่ไม่สามารถรวบรวมรายชื่อได้ตามจำนวนที่ต้องการ เนื่องจากครั้งนั้นบรรดา สว.เสียงข้างย้อยยังหวั่นเกรงอิทธิพลของ สว.สีน้ำเงิน ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่มีพรรคการเมืองสำคัญจัดตั้ง แต่หลังจากพรรคภูมิใจไทยแตกหักกับพรรคเพื่อไทย บรรยากาศเปลี่ยนไป
การรวบรวมรายชื่อ สว.เสียงข้างน้อยในต้นเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อยื่นคำร้องขอให้มีคำสั่ง สว.สีน้ำเงินกลุ่มฮั้วหยุดปฏิบัติหน้าที่ ประสบความสำเร็จเพราะมี สว.สามกลุ่มเข้าร่วม นอกจาก สว.สายก้าวหน้า นำโดย นันทนา นันทวโรภาศ
แล้วมีกลุ่ม สว.อิสระ โดย นต.วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ มาด้วย ไม่เท่านั้น กลุ่ม สว.ที่เรียกกันว่า ‘สีขาว’ มี นพ.เปรมศักดิ์ เพียรยุระ เป็นแกนนำ โดดเข้ามาเล่น แม้นว่าจะมี สว.รายหนึ่งไปแจ้งความตำรวจว่า มีชื่อของตนปรากฏอยู่ในคำร้อง ทั้งที่ตนไม่ต้องการ
ถึงอย่างนั้นก็มีจำนวน สว.ยื่นคำร้อง ๒๑ คน ผ่านเกณฑ์ ๑ ใน ๑๐ ของวุฒิสมาชิกทั้งหมด ๒๐๐ คน ทว่าขวากหนามไม่ได้หมดไป โดยที่การยื่นคำร้องนี้ต้องผ่านประธานวุฒิสภา นำส่งต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อการวินิจฉัย
ทั้งที่ มงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา และแม้กระทั่ง พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง ต่างอยู่ในรายชื่อ สว.ที่ถูกร้องให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ มีหรือที่จะยอมส่งเรื่องไปให้ศาล รธน.มาเอาผิดกับตน ข้ออ้างให้ปฏิเสธมีหลายประเด็น
ประเด็นแรกเนื่องจากมีองค์กรอิสระ คือ กกต.อยู่ในระหว่างไต่สวนคดีที่มีข้อเท็จจริงแห่งคดีเดียวกันอยู่ การยื่นเรื่องซ้ำซ้อน โดยใช้ช่องทางมาตรา ๘๒ วรรคหนึ่ง ของ รธน. ประธานวุฒิสภาไม่สามารถทำได้ ไม่เพียงเท่านั้น ศาล รธน.เองก็จะไม่รับ
อุปสรรคเห็นๆ อยู่ที่ กกต.เป็นผู้มีอำนาจและหน้าที่โดยตรงในเรื่องนี้ จักต้องเป็นผู้ส่งคำร้องไปยังศาลฎีกาแผนกคดีการเมืองเป็นผู้พิจารณา เมื่อศาลฎีการับคำร้องแล้ว จึงสั่งให้ สว.ทั้ง ๑๓๖ คนหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวได้ จนกว่าจะมีคำพิพากษาออกมา
(https://www.nationtv.tv/politic/378965159, https://www.facebook.com/nationweekend/posts/n48fSPyh6zKWX, https://www.facebook.com/thestandardth/posts36wws4jMCXR และ https://prachatai.com/journal/2025/08/114065)