@joe_black317 โพสต์บนเอ็กซ์เช้านี้ (๒๔ กรกฎา) “#ข่าวด่วน!! พลเรือนไทยเสียชีวิตแล้ว 8 รายที่ศรีสะเกษ ตำรวจภูธรกันทรลักษ์รายงานว่า กัมพูชายิงปืนใหญ่ใส่ศรีสะเกษทั้งหมด 5 จุด เป็นที่อยู่อาศัยของพลเรือนไทย มีคนไทยเสียชีวิตรวมแล้ว 8 ราย”
@BangkokPostNews แจ้งว่าทางไทยมีการตอบโต้ด้วยการส่งเครื่องบินไปทิ้งระเบิด ยังฐานที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาสองแห่ง รายงานว่าประสบความสำเร็จ เครื่องบินกลับมายังฐานทัพของไทยแล้ว ด้าน @MatichonOnline รายงานไร่เรี่ยกันว่า
ลูกปืนใหญ่เขมรยิงเข้ามาถึง อ.บ้านกรวด บุรีรัมย์ ระเบิดจรวด ๖ ลูกตกลงในเขตชุมชนใกล้กับโรงพยาบาลบ้านกรวด “ส่งผลให้นายบุญนำ อายุ ๕๓ ปี ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณแขนและขา เป็นแผลฉีกขาด และมีวัวของชาวบ้านตายจำนวน ๒ ตัว”
จรวดเหล่านั้นที่ทหารเขมรใช้เป็นแบบ BM-21 ซึ่งก็คือจรวดหลายลำกล้องเช่นเดียวกับที่กัมพูชาเคยใช้เมื่อปี ๒๕๕๔ @ThaiArmedForce ระบุว่าคราวนี้เป็นการยิงทีละคัน “เป็นเครื่องบ่งชี้หนึ่งว่ากัมพูชามีจรวดน้อย โดยการยิงทีละคันให้ผลน้อยเพราะจรวดมีความแม่นยำต่ำ”
จึงมีความเสี่ยงสูงที่จะตกใส่เป้าหมายอื่นที่ไม่ใช่ทางทหาร เช่น บ้านเรือนประชาชน ดังปรากฏในรายงานข่าว ส่วน @Thairath_News บอก “สื่อกัมพูชาอ้าง กองกำลังกัมพูชาเข้าควบคุมปราสาทตาควายได้อย่างสมบูรณ์” แล้ว
บ่ายวันนี้ @KhaosodOnline แจ้งข่าวด่วนว่า ฮุนมาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งหนังสือถึงประธานคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ กล่าวหาว่าไทยเป็นฝ่ายยิงก่อน ทำให้วิจารณ์กันว่านี่เป็นส่วนหนึ่งของชั้นเชิงฝ่ายเขมร
ที่จะใช้เวทียูเอ็นเข้าครอบครองปราสาทสามแห่งแบบเดียวกับกรณีเขาพระวิหาร ตลอดกรณีพิพาทเต็มไปด้วยการยั่วยุและกวนน้ำให้ขุ่น ความตึงเครียดกลับมาหลังจากทหารเขมรลอบวางทุ่นระเบิดบริเวณใกล้เคียงกับปราสาทหนักข้อ
ว่ากันว่าผู้นำรัฐบาลนั่นเองสร้างสถานการณ์ให้เกิดการกระแทกกระทั้น ที่จะนำไปสู่สงคราม ดังที่ กานดา นาคน้อย @kandainthai โพสต์ข้อความสั้นๆ บนเอ็กซ์ ชวนให้คิดว่า “จะมีอะไรทำให้ผู้คนโหยหาผู้นำที่อำนาจนิยมมากกว่าสงคราม?”
(https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_9862762, https://x.com/ThaiEnquirer/status/1948268531444793646, https://x.com/joe_black317/status/1948265189645988313 และ https://x.com/ThaiArmedForce/status/1948224250206400757)
