“การจัดสรรงบประมาณในกระทรวงเกษตรฯ อาจไม่ได้เป็นไปตามหลักการของความจำเป็นและความเดือดร้อนของพื้นที่จริง แต่กลับมีปัจจัยอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัจจัยทางการเมือง” รักชนก ศรีนอก ตั้งข้อสงสัยด้วยข้อมูล ๗ จังหวัด
โดยแบ่งเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรก ๔ จังหวัดที่ สส.พรรคกล้าธรรมคุมโควต้างบประมาณการเกษตร ได้แก่ กำแพงเพชร พะเยา ฉะเชิงเทรา และราชบุรี อีกกลุ่มมี ๓ จังหวัดที่เป็น ยักษ์ใหญ่แห่งภาคเกษตรกรรมของไทย ๓ อันดับแรก
ได้แก่ นครราชสีมา อุบลราชธานี และสุรินทร์ ทั้งสามเป็น “แหล่งผลิตสำคัญที่หล่อเลี้ยงคนทั้งประเทศ จากการที่จังหวัดเหล่านี้มีพื้นที่เกษตรกรรมกว้างใหญ่และมีเกษตรกรจำนวนมหาศาล โคราชมีพื้นที่เกษตรกรรม ๘.๙๑ ล้านไร่มากที่สุดในประเทศ
“ได้งบจากกระทรวงเกษตร ๑,๓๕๔ ล้านบาท” เทียบกับแปดริ้วและพะเยา ซึ่งมีพื้นที่เกษตรกรรมราวๆ ๒ ล้านไร่กว่าๆ ใกล้เคียงกัน น้อยกว่าโคราชหลายเท่า แต่ได้งบประมาณจากกระทรวงเกษตร ๑,๒๘๐ ล้าน และ ๑,๒๒๗ ล้าน ตามลำดับ เกือบเท่าโคราช
แล้วไปดูที่กำแพงเพชร “พื้นที่เกษตรกรรม ๓.๖ ล้านไร่ พืชเศรษฐกิจหลัก ข้าวโพด อ้อย มันสำปะหลัง และข้าว ซึ่งต้องพึ่งพาระบบชลประทานอย่างมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ฝั่งตะวันตกกินพื้นที่เขต ๒ และ ๓ รวมพื้นที่เกษตรกรรม ๒,๐๐๐,๐๐๐ ไร่”
ไอ๊ซ์บอก “แต่เขต ๑ ของ สส.ไผ่ ลิกค์ พรรคกล้าธรรม พื้นที่เกษตรกรรม ๕๐๐๐,๐๐๐ ไร่ ได้รับงบถึง ๔๙๗.๒ ล้านบาท ๔๔% ของงบทั้งจังหวัด” ขณะที่เขต ๔ ซึ่งมีลักษณะทางภูมิศาสตร์แบบเดียวกัน เนื้อที่เกษตร ๘๕๐,๐๐๐ ไร่ “ได้งบแค่ ๑๒๘ ล้านบาท”
พอถึงฉะเชิงเทรา มี ๔ เขต “บังเอิญว่าเขต ๒ จากพรรคกล้าธรรม ที่ได้งบมากที่สุด” มี อรรถกร ศิริลัทธยากร เป็น สส.เขต “พ่อเป็นรัฐมนตรีช่วยกระทรวงเกษตร แต่อาจจะเป็นการจัดงบตามความเร่งด่วนของพื้นที่ก็ได้นะ อย่าคิดมาก” ไอ๊ซ์ว่า
แล้วชวนย้อนไปดูกำแพงเพชร ซึ่ง ไผ่ ลิกค์ เป็น สส.มาแล้ว ๓ สมัย ก่อนหน้านั้น เรืองวิทย์ ลิกค์ ผู้เป้นบิดา ก็เป็น สส.มา ๘ สมัยติดต่อกัน ส่วนใหญ่ทั้งพ่อและลูกได้ร่วมรัฐบาล “มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างจับต้องได้บ้างไหมคะ”
ไอ๊ซ์ว่า “การโยกเอางบไปลงพื้นที่ตัวเอง ท่านคิดว่าเค้าเอามาแก้ปัญหาให้ประชาชนจริงๆ หรือเอามาให้ผู้รับเหมา”
(https://www.facebook.com/nationweekend/posts/28e1Jg8T4H, https://www.facebook.com/springnewsonline/posts/d31CnYsGcx55 และ https://www.facebook.com/sorrayuth9115/posts/0nXyCUF9)
