“เพ้อเจ้อ” ไหม “ฟั่นเฟือน” หรือเปล่า ไอเดียที่ว่า ‘ใหม่’ ของ ทักษิณ ชินวัตร แก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนของประชาชน ด้วยการให้เอกชนเข้ามารับซื้อหนี้ เอาออกจากระบบธนาคาร แล้วให้ประชาชนค่อยๆ ผ่อน มีโอกาสเริ่มต้นชีวิตใหม่
“เพ้อเจ้อ หนี้ ๑๗.๕๗๕ ล้านล้านบาท” MayaLoveSUA พูดถึงตัวเลขทางการโดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย ว่าหนี้ครัวเรือนอยู่ที่ ๑๖.๓๒ ล้านล้านบาท ซึ่งทักษิณบอกแก้ปัญหาได้ “ไม่ต้องใช้เงินรัฐสักบาท” แต่โดน @b_B1B2B3 สัพยอก
“จะมีคน #ตบเข่าฉาด อีกไหม พูดจริงๆ นะ ใครมันจะโม้แบบนี้ก็ทำได้ พูดลอยๆ แต่ไม่มีวิธีการทำ แต่การโม้นี้มันไปหลอกคนให้มีความหวังให้เลือก แถมไม่ต้องรับผิดรับชอบอะไรเพราะไม่มีตำแหน่ง แต่มีอำนาจ” ก็มีแล้วคนดักคอ
พิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ ว่าการคลัง โวไอเดียนี้ตน “คิดมาก่อน” เตรียมไว้แล้ว ๒-๓ แผน “คือ การปรับโครงสร้างหนี้ โดยอาจจะใช้การเจรจา ยืดหนี้ ลดดอกเบี้ย” หรือไม่ก็ใช้โมเดลตั้งแต่ครั้งแก้วิกฤต ‘ต้มยำกุ้ง’ซึ่งต้องมีการ ‘ร่วมทุน’
คร่าวๆ ก็คือ “จัดตั้งกิจการร่วมทุนเพื่อรองรับการแก้ไขปัญหาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (AMC) โดยการดำเนินการต้องร่วมกับธนาคารผู้เป็นเจ้าของหนี้ รวมถึงเอกชนบางรายที่อยากจะเข้ามาบริหาร” แต่ก็นี่ยังเป็นเพียง “แค่วิธีคิด”
ส่วนจะเป็นไปได้หรือไม่ “ขอดูข้อมูล และความเห็นจากทุกฝ่ายทั้งหมดก่อน...และอาจจะต้องใช้เวลาเคลียร์กันอีก แต่อาจจะดำเนินกันอยู่นอกธนาคาร” ซึ่งพ่อนายกฯ ก็ดักทางไว้แล้วว่า “พูดง่ายแต่ทำยาก แต่ต้องทำ” เนื่องเพราะ
“ทำวันนี้มันไม่เหมือนสมัยอยู่ไทยรักไทย เพราะพรรคเรามีขนาดเล็กลง มีรัฐมนตรีที่ดูแลกระทรวงน้อยลง รัฐมนตรีผสมทำงานด้วยกันไม่คล่องตัว...การแก้ปัญหาต้องใช้เวลา และยากกว่าเดิม เพราะทหารวางระบบไว้เลอะพอสมควร แย่พอสมควร ปฏิวัติทีก็ถอยไปที”
แล้วยังไง ก็ไม่พ้นโดนวิพากษ์ยับสิ สมชัย ศรีสุทธิยากร เหน็บแรง “ใครก็ตามที่กล่าวคำใหญ่โต” แบบนี้ “จะให้มีการรับซื้อหนี้ประชาชนจากธนาคารโดยเอกชน” เพื่อให้ไม่เป็นหนี้ “ไม่ติด black list ของเครดิตบูโร หากไม่อัจฉริยะเกินไป ก็คงสติฟั่นเฟือน”
อดีตกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) บอกถ้าจะทำอย่างนั้น “ต้องใช้งบต่อเนื่อง ๔.๖ ปี โดย ไม่มีการจ่ายเงินเดือนข้าราชการ ไม่มีโครงการลงทุนหรือใช้คืนหนี้ใด ๆ เลยในช่วงเวลาดังกล่าว” เขาสมมุติว่าได้บริษัทยักษ์ใหญ่ขนาดสินทรัพย์ ๕ แสนล้านมาดำเนินการ
ก็ต้องใช้บริษัทขนาดนั้นถึง ๓๒ บริษัท “แล้วเอกชนที่มารับซื้อหนี้ คิดดอกเบี้ยไหม หากคิด ก็เหมือนธนาคาร และยังผิด พ.ร.บ. ธุรกิจสถาบันการเงิน เพราะท่านไม่ใช่ธนาคารจะให้กู้และเก็บดอกเบี้ยเหมือนธนาคารไม่ได้”
ลงท้าย สมชัยว่า “ฟังเพลิน ฟังแล้วอึ้ง ทึ่งในความเป็นอัจฉริยะ อย่าลืมไปบอกคนในครอบครัวให้ทำให้ได้ด้วย”
(https://www.matichon.co.th/politics/news_5096950, https://www.matichon.co.th/economy/news_5097009 และ https://www.facebook.com/ThePoliticsByMatichon/posts/WfG4eHYXU)