.....
ฝ่าฝุ่น
13 hours ago
·
เล่นเผาต้นลมประชิดกรุงเทพแบบนี้ จะไม่ให้แย่ได้อย่างไร?
ข้อมูลภัยพิบัติด้านไฟป่าจาก GISTDA แสดงจำนวนจุดความร้อนของวันที่ 22 มค 68 ซ้อนทับกับพื้นที่การเกษตรจาก Agri-Map ของกระทรวงเกษตร (เหลือง=ข้าว ชมพู=อ้อย)
ไม่น่าแปลกใจเลยที่กรุงเทพต้อง WFH เพราะจังหวัดที่มีจุดความร้อนหลักลำดับ 1 2 3 นั้นอยู่ต้นลมประชิดกรุงเลย ได้แก่
1. ปราจีนบุรี
พื้นที่รอยต่อนครนายก-ปราจีนบุรีนั้นเป็นพื้นที่อันตรายฝุ่นของกรุงเทพฯและปริมณฑล เพราะต้นลมประชิดเมืองมาก พื้นที่นี้เผานาข้าวเป็นหลัก และเผากันมาช้านานแล้ว แต่ก่อนเผานับแสนไร่ก็มี ฝุ่นนั้นลอยเข้าเมืองได้แทบจะทันที
เหตุการณ์นี้คล้ายกับการเผาข้าว basmati ในนิวเดลลี คือเผากันต้นลมหน้าเมืองหลวงเลย
บางทีถึงเวลาที่ชาวกรุงเทพฯอาจจะต้องเริ่มคิดทบทวนก่อนจะซื้อข้าวบ้างว่าถ้ามาจากพื้นที่นี้เราควรจะซื้อไหม?
2. กาญจนบุรี
3. ลพบุรี
แผนที่ชี้ว่าเป็นการเผาอ้อยเป็นหลักทั้งคู่ ทั้งสองจังหวัดเป็นนครหลวงแห่งการเผาอ้อยของชาติ ลพบุรีเผามาราว 40 วันแล้ว แต่กาญจนบุรีพึ่งจะเริ่มสัก 7 วันที่ผ่านมานี่เอง
ส่วนการเผาในกัมพูชานั้นเยอะจริง และต้นลมด้วย แต่ขอไม่พูดถึงแล้วกัน ไม่ใช่เพราะมันกระทบความสัมพันธ์หรืออะไร แต่เพราะเราไม่มีอำนาจในการควบคุมแก้ไขนอกจากข้อร้องทุกปี
อยากจะสรุปว่าชาวกรุงเทพฯต้องสนใจการเผาในที่โล่ง!!! ไล่มาตั้งแต่ภาคอีสาน และต้องสนใจหนักคือการเผานาข้าวและอ้อยที่อยู่ประชิดกรุงนี่แหละ
ขอให้เริ่มก้าวแรกด้วยการสนับสนุนร่างพรบอากาศสะอาด ที่กำลังจะเข้ารัฐสภาในเดือน กพ-มีค นี้ พรบนี้เป็นพรบแรกที่ร่างมาโดยประชาชน และมีประชาชนเข้าไปรวบรวมร่างต่างๆมากว่า 1 ปีแล้ว ผู้ก่อการเผาทั้งหลายคงจะพยายามขอให้สสและสวของพวกเขาทำหมันพรบนี้จะได้ไม่ต้องมีต้นทุนเพิ่มในธุรกิจของพวกเขา เรากำลังพูดถึงกำไรระดับหมื่นล้าน ทั้งที่การลดการเผานั้นไม่ได้เพิ่มต้นทุนอะไรอีกมากมาย สำหรับอ้อยนั้นเราเพิ่มราคาน้ำตาลให้ 1บาทต่อกก มาตั้งแต่ปี 2566 ไปแล้ว ได้เงินเพิ่มเกือบ 1 หมื่นล้านบาทต่อปีให้ไปแก้การเผาอ้อย เงินนั้นได้รับไปมหาศาลเลยและได้รับทุกปีด้วย
แล้วมันได้อะไรขึ้นมา? ทุกอย่างยังเหมือนเดิม
https://disaster.gistda.or.th/fire/main#4.85/13.76/100.34
https://agri-map-online.moac.go.th/
https://www.facebook.com/farfoon.th/posts/1110015581134597