วันศุกร์, พฤศจิกายน 14, 2568

วิธีคิดและตรรกะของคนหลายคน ป่วยจัด อ้างความมั่นคง ไม่ต้องโปร่งใสก็ได้


พลอย เพชรรัตน์ ใหม่ชมภู - Phetcharat Maichompoo is at กองบิน41.
19 hours ago
·Chiang Mai, Thailand ·

“เมื่อความมั่นคงกลายเป็นข้ออ้าง? บริจาคหรือบังคับจ่าย??
.
จาก “ถนนของภาษีประชาชน” สู่ “เส้นทางผลประโยชน์” ของกองบิน 41?
.
จากที่พลอยเคยผลักดันและสื่อสารเรื่องที่ กองบิน 41 เปิดให้ประชาชนสัญจรในช่วงเวลาเร่งด่วน ถือเป็นมาตรการที่ช่วยลดการจราจรและอำนวยความสะดวกให้กับคนเชียงใหม่จำนวนมาก
.
แต่หลังจากเหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา
มาตรการดังกล่าวได้ถูก “ยกเลิก” ไปด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง
และกลับมาใช้ระบบเดิม คือให้เฉพาะผู้ที่ ขออนุญาตทำบัตรกองบิน “เท่านั้น” ที่สามารถผ่านได้
.
ในฐานะส.ส. และ ประชาชน พลอยเข้าใจและเคารพในเหตุผลเรื่อง “ความมั่นคงของประเทศ” อย่างเต็มที่ จึงได้เดินทางไปทำบัตรผ่านกองบินด้วยตนเองตามช่วงเวลาที่มีกองบินมีการเปิดให้ทำ
.
แต่ในขณะเดียวกัน สิ่งที่พลอยพบเมื่อเข้าไปทำบัตรกองบิน 41 เพื่อขออนุญาตใช้เส้นทางตามขั้นตอน
กลับสะท้อนให้เห็น “อีกมุมหนึ่ง” ของระบบที่อาจไม่โปร่งใสเท่าที่ควร
.
สิ่งที่พลอยพบในวันนั้น
1. เรื่อง “บริจาค” ที่ไม่ใช่การบริจาคจริง
.
อ้างอิงคำให้สัมภาษณ์ต่อสื่อของอดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ ว่า
.
“ทางกองบินไม่ได้เก็บค่าใช้จ่าย แต่เปิดให้ประชาชนบริจาคตามสมัครใจ อาจปีละ 100–200 บาท และหากไม่ประสงค์บริจาคก็สามารถทำบัตรได้เช่นกัน”
(อ้างอิง: Dailynews https://www.dailynews.co.th/news/3132210/)
.
แต่ในทางปฏิบัติ พลอยกลับพบว่า ไม่มีช่องทางให้เลือก “ไม่บริจาค” ได้จริง
และขั้นตอนทั้งหมดถูกทำให้เข้าใจว่า “ต้องบริจาค” เพื่อทำบัตรได้เท่านั้น เริ่มต้นจากที่มีป้ายให้คําแนะนํากรอกฟอร์มแบบรายงานขอบัตรยานพาหนะ หมายเลข 3 (บุคคลภายนอก)
และหนังสือแสดงเจตจำนงมอบเงินบำรุง
ที่มีการให้ติ๊กถูก ในช่องบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือราชการ โดยส่วนท้าย มีการแนะนําให้ใส่ตัวเลขยัง 100 บาทด้วย
.
ซํ้าด้วยเจ้าหน้าที่ที่ประจำจุดต่างๆตั้งแต่ จุดขอเอกสารแบบรายงานขอฯ จุดตรวจเอกสาร และจุดชําระเงิน ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "เป็นค่าธรรมเนียม 100 บาท" ไม่ใช่การบริจาค และพลอยได้ถามย้ำว่าเราสามารถบริจาคให้กองบิน 41 มากกว่าหรือน้อยกว่านี้ได้หรือไม่? เจ้าหน้าที่ก็ยังคงยํ้าชัดเป็นจํานวน 100 บาท เท่านั้น
.
และ 100 บาทนี้ ไม่นับรวมค่าแบบรายงานขอฯ จํานวน 10 บาท กลายเป็นประชาชนต้องเสียจริงเป็นจํานวนเงินทั้งสิ้น 110 บาท
.
ซึ่งคำว่า “บริจาค” ในลักษณะนี้ จึงกลายเป็น “ค่าธรรมเนียมแฝง” ที่ประชาชนจำใจต้องจ่ายเพราะถ้าไม่จ่ายก็ไม่สามารถทำบัตรกองบินได้
.
2. สิ่งที่ผิด อาจไม่ใช่คนที่รับทำบัตรแทน แต่คือ ‘ระบบ’ ที่เปิดช่องให้ผลประโยชน์เกิดขึ้นในที่ซึ่งควรจะโปร่งใสที่สุด
.
คำถามที่อยากสะท้อนกลับไปยังกองทัพอากาศ
ในฐานะหน่วยราชการที่ได้รับ งบประมาณจากภาษีของประชาชนปีละกว่า 2-3หมื่นล้านบาท
กองทัพควรเป็นตัวอย่างของความโปร่งใส ไม่ใช่ใช้ “ความมั่นคง” เป็นข้ออ้างในการสร้างระบบผลประโยชน์เชิงธุรกิจ
.
คำถามสำคัญที่พลอยอยากฝากไว้คือ
• เงิน “บริจาค” ที่เก็บจากประชาชนนี้ เข้าระบบงบประมาณของรัฐจริงหรือไม่?
• ถูกนำไปใช้ตาม “วัตถุประสงค์ที่บังคับให้กรอกในแบบฟอร์ม” หรือไม่?
• ที่สำคัญ เราจะตรวจสอบเงินก้อนนี้ว่าถูกใช้งานอย่างคุ้มค่าหรือไม่ ได้อย่างไร?
.
พลอยขอเรียกร้องให้กองทัพอากาศชี้แจงเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา
เพราะ “ความมั่นคงของชาติ” ไม่ควรถูกใช้เป็นเหตุผลในการเปิดช่องผลประโยชน์ที่พ้นสายตาประชาชน


https://www.facebook.com/ployphetcharatofficial/posts/1401663321970075
.....

Pavin Chachavalpongpun 
13 hours ago
·
เรื่องของกันจอมพลัง ที่ก่อนหน้านี้ดูเหมือนจะเพลี้ยงพล้ำ แต่สุดท้ายต่อให้กดก็ไม่จม ทั้งๆ ที่คำพูดหรือพฤติกรรมบางมีความสุดโต่ง แถมเรื่องบริจาคก็ไม่โปร่งใส อาจเป็นเพราะเค้าไม่ได้อยู่ในสนามเดียวกับฝ่ายตรงข้ามค่ะ คือ เค้าไม่ได้เล่นเกมที่ใช้เหตุผล ข้อเท็จจริงหรือหลักการทูตเลย แต่เค้าอยู่บนสนามของอารมณ์ ความเชื่อและความมั่นคง นี่แหละคือเหตุผลหลักที่ทำให้ "บังเกอร์" ของเขาแข็งแกร่งมาก และการโจมตีด้วยเหตุผลจึงไม่สามารถทะลุทะลวงได้เลย
...บังเกอร์ของเขาไม่ได้มีแค่กลุ่มคน แต่เป็นจุดตัดทางอุดมการณ์ของกลุ่มอำนาจเก่าและกลุ่มชาตินิยมสุดโต่ง กันจอมพลังทำหน้าที่เป็น "กระบอกเสียงนอกระบบ" ให้กับกลุ่มทหารและกลุ่มอนุรักษ์นิยมที่ต้องการความเด็ดขาด เค้าพูดในสิ่งที่ฝ่ายรัฐหรือทหารพูดตรงๆ ไม่ได้เพราะจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่เมื่อกันจอมพลังพูดในฐานะ "ประชาชนผู้รักชาติ" เค้าก็จะได้รับการปกป้องเป็นพิเศษ หรือได้ "ไฟเขียว" ให้ดำเนินการได้ในระดับหนึ่ง เพราะวาทกรรมของเค้าเอื้อประโยชน์ต่อการรักษาอำนาจของรัฐบาล/ทหารที่เน้นความมั่นคง
...พลังขับเคลื่อนหลักของกันจอมพลังคือกระแสชาตินิยม ค่ะ วาทกรรมของเค้าคือการแบ่งโลกเป็นขาว-ดำ เล่นกับความรู้สึก "รักชาติ" "เสียดินแดนไม่ได้" อย่างตรงไปตรงมาที่สุด การโจมตีเค้าด้วยเหตุผลด้านการทูตจึงไม่มีผล เพราะคนในบังเกอร์เค้ามองว่า "รักชาติต้องมาก่อน" ใครที่มาแย้งเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศก็เท่ากับไม่รักชาติไปเลยทันที ยิ่งไปกว่านั้น บทบาทของเค้ายังช่วย "เลี้ยงไฟ" ความขัดแย้งกับกัมพูชาไว้ด้วย เพราะตราบใดที่ชายแดนยังไม่สงบ หรือยังมีความขัดแย้งอยู่ ฐานอำนาจของกองทัพที่ผูกติดกับการ "ปกป้องอธิปไตย" ก็จะยังคงแข็งแกร่งอยู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่กลุ่มอำนาจบางกลุ่มยังต้องการให้เป็นแบบนั้น
...นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการโต้แย้งจากฝ่ายที่เน้นเหตุผลอย่างไอซ์ถึงเอากันจอมพลังไม่ลง เพราะฝ่ายหนึ่งใช้ตรรกะและหลักการสากล แต่อีกฝ่ายตอบโต้ด้วยการ "เคลมความรักชาติ" และการย้อนกลับสู่จุดยืนทางศีลธรรมที่ง่ายและสุดโต่ง ตราบใดที่แรงกดดันจากชาตินิยมและกลุ่มอำนาจเก่ายังมีพลังอยู่ กันจอมพลังก็ยังคงมีบทบาทและ "บังเกอร์" ของเค้าก็จะยังคงอยู่ต่อไป เพราะเค้าคือตัวแทนอารมณ์ที่กลุ่มอำนาจใช้เป็นเครื่องมือในการรักษาเสถียรภาพภายในนั่นเองค่ะ อีเด็กหนวดมันแน่

https://www.facebook.com/pavinchachavalpongpun/posts/24412559845085782