วันพุธ, ตุลาคม 01, 2568

การทำประชามติ MOU ไทย-กัมพูชา ที่อยู่บนอันตราย นึกถึง ประชามติ Brexit ของอังกฤษ ในปี 2559 ที่สร้างความเสียหายยาวนาน แต่ด้วยบริบทแบบไทยๆ คิดว่าอาจจะ "ฉิบหาย" กว่าแน่นอน


Noppakow Kongsuwan 
7 hours ago
·
การทำประชามติ MOU ไทย-กัมพูชา ที่อยู่บนอันตราย
อีกประเด็นที่ถูกตั้งคำถามคือ การทำประชามติ MOU ไทย-กัมพูชา ภายในระยะเวลาเพียง 4 เดือน ซึ่งคุณจาตุรนต์อภิปรายเรื่องนี้ในสภา ในวาระรัฐบาลคุณอนุทินแถลงนโยบายสั้นๆ และมองว่า การทำประชามติในช่วงนี้ เป็นเรื่องล่อแหลมและเสี่ยงต่อความเสียหาย เพราะประชาชนยังไม่มีข้อมูลที่ครบถ้วนและยังคงมีอารมณ์โกรธแค้นอยู่
ทั้งยังยกตัวอย่างว่า ที่ผ่านมาเรื่อง MOU ต้องประชุมลับในสภาเพื่อไม่ให้ข้อมูลรั่วไปถึงฝ่ายกัมพูชา แต่รัฐบาลกลับประกาศว่าจะทำประชามติในเวลาสั้นๆ โดยไม่มีใครศึกษาอย่างจริงจัง
"ฝ่ายต่างๆ คิดยังไง จะไปทำประชามติในบรรยากาศที่ประชาชนยังมีความรู้สึกโกรธแค้น ยังมีความรู้สึกไม่พอใจ แล้วไม่มีใครศึกษาจริงจัง เสี่ยงต่อความเสียหายอย่างมาก 4 เดือนนี้ ท่านเตรียมการอะไรแค่ไหน และเตรียมรับกับผลที่จะเกิดแค่ไหน"
....
เรื่องนี้เห็นด้วยกับคุณจาตุรนต์ เรื่องนี้เรื่องใหญ่เกินกว่าจะเอา "อารมณ์" และ "ความถูกใจ" มานั่งตัดสินแล้วตีความว่าเป็น "ความถูกต้อง" และสถานะของ MOU นี้ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจอีก "มาก" ในระยะเวลา 4-6 เดือน กว่าจะทำให้เข้าใจอย่างถ่องแท้
และด้วยบรรยากาศที่เห็นกันว่าอีกฝ่าย เสี่ยงที่จะถูกสังคมประชาทัณฑ์ว่าเป็นพวก "ไม่รักชาติ" ไม่ได้ฟังด้วยซ้ำว่า "ไม่เห็นด้วยให้ยกเลิก...เพราะอะไร" ยิ่งอันตราย
....
ทำให้กลับไปอ่านข่าวเก่าๆ สมัยทำประชามติ Brexit ของอังกฤษ ในปี 2559 และสุดท้าย หลายฝ่ายก็ได้ข้อสรุปว่า การทำประชามติในประเด็นซับซ้อน โดยปล่อยให้ "อารมณ์" มากำหนดทิศทาง ย่อมเสี่ยงต่อผลลัพธ์ที่เป็นปัญหาเรื้อรัง
มีบทวิเคราะห์จำนวนมาก อธิบายไปในทิศทางเดียวกันว่า การโหวตให้ออกจาก EU ในปี 2559 ก็ถูกขับเคลื่อนด้วยคำอธิบายที่เน้นความรู้สึกเป็นหลัก เช่น เส้นทางสู่ความเจริญรุ่งเรือง อำนาจอธิปไตย และการควบคุม หรือการ “ทวงคืนความยิ่งใหญ่ของสหราชอาณาจักร” มากกว่าการอธิบายข้อเท็จจริงเชิงเศรษฐกิจและกฎหมายที่ซับซ้อน ขณะที่เวลาที่ให้กับสาธารณชนก็ไม่เพียงพอ ทำให้คนจำนวนมากไม่เข้าใจผลกระทบจริง
ผลตามมาคือ อังกฤษเผชิญความปั่นป่วนทั้งเศรษฐกิจ เงินปอนด์ตกต่ำ การลงทุน การค้าหดตัว เกิดปัญหาต่อเนื่อง และใช้เวลานานกว่าจะเจรจาเงื่อนไขการออกจาก EU ได้จริง แม้กระทั่งปัจจุบันที่อำนาจในการต่อรองก็น้อยลงกว่าเก่า ฯลฯ
หากสังคมยังไม่ได้รับข้อมูลครบถ้วน แต่ถูกผลักดันให้ลงประชามติในเวลาสั้นๆ และบรรยากาศเต็มไปด้วยความโกรธแค้น แบบปัจจุบันที่เป็นอยู่ ซึ่งหมอกควันแห่งอารมณ์บดบังข้อเท็จจริงและคำอธิบายของผู้เห็นต่างอย่างมิดชิด
ผลที่ออกมามีโอกาสสูงที่จะสร้างความเสียหายยาวนานคล้างคลึงกับกรณี Brexit
และด้วยบริบทแบบไทยๆ คิดว่าอาจจะ "ฉิบหาย" กว่านั้นแน่นอน

https://www.facebook.com/Noppakow.kong/posts/2109999099408508