วันพฤหัสบดี, ตุลาคม 30, 2568

บริษัทรัฐวิสหกิจจีนเร่งขยายเหมืองแร่แรร์เอิร์ธและทองคำริมแม่น้ำกกในรัฐฉาน ขณะความกังวลด้านสิ่งแวดล้อมเพิ่มสูง


Lanner
17 hours ago
·
28 ตุลาคม 2568 มูลนิธิสิทธิมนุษยชนไทใหญ่ (Shan Human Rights Foundation-SHRF) ได้เผยแพร่รายงานโดยระบุ ภาพถ่ายดาวเทียมล่าสุดเผยให้เห็นการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของเหมืองทองคำและเหมืองแร่หายาก (แรร์เอิร์ธ) บริเวณริมแม่น้ำกก ในพื้นที่เมืองยอน ทางใต้ของเมืองสาด รัฐฉานตะวันออก โดยมีบริษัทรัฐวิสาหกิจจีน ‘ไชนา อินเวสเมนต์ ไมนิ่ง จำกัด’ (China Investment Mining Company) เป็นผู้ดำเนินการ

ภาพจากดาวเทียมเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2568 แสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่อย่างชัดเจน มีการตัดถนนและก่อสร้างเหมืองใหม่บริเวณเชิงเขาที่เคยเป็นพื้นที่ป่า และมีร่องรอยของการปล่อยกากแร่และโลหะหนักลงสู่แม่น้ำกกโดยตรง พื้นที่ดังกล่าวอยู่ห่างจากพรมแดนไทยบริเวณอำเภอท่าตอน จังหวัดเชียงใหม่ เพียงราว 30 กิโลเมตร

ขยายเหมืองเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

รายงานของมูลนิธิสิทธิมนุษยชนไทใหญ่ (Shan Human Rights Foundation) เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา ระบุว่า เหมืองแร่แรร์เอิร์ธสองแห่งที่ตั้งอยู่คนละฝั่งของแม่น้ำกก มีการขยายพื้นที่และเพิ่มการผลิตอย่างต่อเนื่อง เหมืองเหล่านี้ใช้เทคนิค ‘การชะละลายในแหล่ง’ (in-situ leaching) ซึ่งเป็นกระบวนการที่ฉีดสารเคมีเข้าไปในชั้นดินและหินเพื่อละลายแร่ ทำให้เกิดการปนเปื้อนสารพิษในระบบนิเวศโดยรอบ

ภาพถ่ายเมื่อเดือนพฤษภาคม 2568 ของเหมืองฝั่งตะวันตกเผยให้เห็นบ่อแต่งแร่ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง แต่จากภาพล่าสุดในเดือนตุลาคม การก่อสร้างได้เสร็จสมบูรณ์ มีการสร้างหลังคาสีดำคลุมไว้เหนือบ่อทั้งหมด ขณะที่เหมืองฝั่งตะวันออกยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถเห็นสารเคมีเหลวสีน้ำเงินสดในบ่อแต่งแร่และอาคารใหม่จำนวนมากที่เพิ่งสร้างขึ้น

ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนชายแดน

การขยายเหมืองทั้งทองคำและแรร์เอิร์ธเกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลต่อการปล่อยสารพิษลงสู่แม่น้ำกก ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักที่ไหลผ่านรัฐฉาน เข้าสู่ไทยที่อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ และต่อเนื่องไปยังจังหวัดเชียงราย ก่อนลงสู่แม่น้ำโขง

ชาวบ้านและนักสิ่งแวดล้อมแสดงความกังวลว่า การปนเปื้อนอาจส่งผลต่อประชาชนกว่า 1 ล้านคนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกกในไทย และผู้คนอีกหลายสิบล้านคนในลุ่มน้ำโขงตอนล่าง
หน่วยงานไทยได้ตรวจคุณภาพน้ำในแม่น้ำกกทุกสองสัปดาห์ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา และพบสารหนูและตะกั่วเกินค่ามาตรฐานหลายครั้ง

บริษัทรัฐวิสาหกิจจีนอยู่เบื้องหลัง

เมืองยอนอยู่ภายใต้การควบคุมร่วมระหว่างกองทัพว้า (United Wa State Army - UWSA) และรัฐบาลทหารเมียนมา การทำเหมืองในพื้นที่ต้องได้รับอนุญาตจากทั้งสองฝ่าย

บริษัทรัฐวิสาหกิจจีน ไชนา อินเวสเมนต์ ไมนิ่ง จำกัด เป็นผู้ดำเนินการเหมืองเหล่านี้ โดยถือหุ้นใหญ่ถึง 90% ภายใต้โครงสร้างร่วมทุนกับบริษัทเซี่ยงไฮ้ ฉือจิน เซียะหวู่ เมทัล รีสอร์สเซส (Shanghai Chijin Xiawu Metal Resources Co., Ltd.) ก่อตั้งในปี 2565 เพื่อพัฒนาเหมืองแร่ในลาวและเมียนมา

บริษัทนี้มีความเชื่อมโยงกับสองยักษ์ใหญ่ของจีน คือ

1. บริษัทเซียะเหมิน ทังสเตน จำกัด (Xiamen Tungsten Corporation) รัฐวิสาหกิจรายใหญ่ด้านแรร์เอิร์ธ

2. บริษัทฉือเฟิง โกลด์ (Chifeng Gold) ผู้ผลิตทองคำเอกชนรายใหญ่ที่สุดของจีน

การขยายเหมืองในลาวและภูมิภาค

ภาพถ่ายดาวเทียมล่าสุดยังพบว่า บริษัทเดียวกันนี้มีการทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ธในแขวงเชียงขวาง ทางตอนเหนือของลาว โดยมีการปล่อยน้ำเสียลงลำน้ำที่ไหลเข้าสู่แม่น้ำคาน ก่อนลงสู่แม่น้ำโขงที่เมืองหลวงพระบาง ซึ่งสร้างความกังวลว่าจะเกิดผลกระทบข้ามพรมแดนเช่นเดียวกับกรณีแม่น้ำกก

จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการแถลงอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลไทยต่อการขยายกิจกรรมเหมืองในฝั่งรัฐฉาน แม้จะมีหลักฐานเชิงประจักษ์จากภาพดาวเทียมและผลตรวจคุณภาพน้ำที่ยืนยันถึงความเสี่ยงของสารพิษโลหะหนักที่ไหลเข้าสู่แม่น้ำกก ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญของชุมชนในภาคเหนือของประเทศไทย

https://www.lannernews.com/29102568-01/