
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
16 hours ago
·
วันนักโทษการเมืองสากล ภาพรวม 5 ปี ในไทย: สถิติขึ้นลงสัมพันธ์กับสถานการณ์ทางการเมือง-แนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน
.
.
วันที่ 30 ตุลาคม ของทุกปี องค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศหลายองค์กรได้รณรงค์ให้เป็น “วันนักโทษการเมืองสากล” (International Day of Political Prisoners) เนื่องจากเคยเป็นวันที่นักโทษการเมืองในอดีตสหภาพโซเวียตได้ประกาศอดอาหารประท้วงครั้งใหญ่ระหว่างถูกคุมขังในคุกและค่ายกักกัน เมื่อปี 1974 เพื่อเรียกร้องสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน การกำหนดวันดังกล่าวจึงเป็นการพยายามรำลึกถึงการเรียกร้องสิทธิของผู้ถูกจองจำด้วยเหตุผลทางการเมือง รวมทั้งยังเป็นการร่วมกันแสดงออกถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของผู้ต้องขังทางการเมืองทั่วโลก และเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ต้องขังทางการเมืองที่ยังดำรงอยู่ในหลายประเทศ
.
ในประเทศไทย ภายหลังการเคลื่อนไหวทางการเมืองของคนรุ่นใหม่ในช่วงปี 2563 มีประชาชนและนักกิจกรรมทางการเมืองต้องถูกคุมขังในคดีต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบการถูกคุมขังระหว่างพิจารณา และถูกคุมขังตามคำพิพากษาถึงที่สุด
.
จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนพบว่าตลอดราว 5 ปี มีผู้เคยถูกคุมขังในเรือนจำไปรวมแล้วอย่างน้อย 208 คน (สถิติตั้งแต่กลางปี 2563 ถึงวันที่ 30 ต.ค. 2568) บางรายได้รับการประกันตัว หรือพ้นโทษในคดี บางรายถูกคุมขังหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา บางรายก็ยังคงถูกคุมขังอยู่ในปัจจุบัน โดยสถิติตัวเลขนี้นับข้อมูลผู้เคยถูกคุมขังในเรือนจำทั้งหมด แม้ระหว่างรอคำสั่งของศาลในการประกันตัวด้วย
.
แนวโน้มสถานการณ์ของการคุมขังนั้น สัมพันธ์กับสถานการณ์ทางการเมือง และกระแสการประท้วงเรียกร้องในช่วงปีต่าง ๆ อย่างยิ่ง รวมทั้งในช่วงหลังยังเกี่ยวข้องกับการกระบวนการในคดี ที่หลายคดีดำเนินมาสู่ชั้นอุทธรณ์หรือฎีกา หรือคดีสิ้นสุดลงไปมากขึ้น ทำให้มีแนวโน้มของผู้ถูกคุมขังเพิ่มมากขึ้นในปี 2568
.
ขณะเดียวกัน สถานการณ์ที่ควรบันทึกไว้คู่ขนานกับสถิติและแนวโน้มของการคุมขัง คือการเคลื่อนไหวเรียกร้องของผู้ต้องขังทางการเมือง ที่ยังพยายามต่อสู้เรียกร้องภายใต้ข้อจำกัดด้านอิสรภาพ การสื่อสาร และเครื่องมือที่สามารถใช้เรียกร้อง โดยเฉพาะแต่ละช่วงปียังคงมีสถานการณ์การอดอาหารประท้วงของผู้ต้องขังในเรือนจำเป็นระยะ
.
.
 อ่านบทความบนเว็บไซต์
อ่านบทความบนเว็บไซต์
https://tlhr2014.com/archives/79542
https://www.facebook.com/photo?fbid=1231822232121578&set=a.656922399611567
วันนักโทษการเมืองสากล ภาพรวม 5 ปี ในไทย: สถิติขึ้นลงสัมพันธ์กับสถานการณ์ทางการเมือง-แนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน
.
.
วันที่ 30 ตุลาคม ของทุกปี องค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศหลายองค์กรได้รณรงค์ให้เป็น “วันนักโทษการเมืองสากล” (International Day of Political Prisoners) เนื่องจากเคยเป็นวันที่นักโทษการเมืองในอดีตสหภาพโซเวียตได้ประกาศอดอาหารประท้วงครั้งใหญ่ระหว่างถูกคุมขังในคุกและค่ายกักกัน เมื่อปี 1974 เพื่อเรียกร้องสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน การกำหนดวันดังกล่าวจึงเป็นการพยายามรำลึกถึงการเรียกร้องสิทธิของผู้ถูกจองจำด้วยเหตุผลทางการเมือง รวมทั้งยังเป็นการร่วมกันแสดงออกถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของผู้ต้องขังทางการเมืองทั่วโลก และเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ต้องขังทางการเมืองที่ยังดำรงอยู่ในหลายประเทศ
.
ในประเทศไทย ภายหลังการเคลื่อนไหวทางการเมืองของคนรุ่นใหม่ในช่วงปี 2563 มีประชาชนและนักกิจกรรมทางการเมืองต้องถูกคุมขังในคดีต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบการถูกคุมขังระหว่างพิจารณา และถูกคุมขังตามคำพิพากษาถึงที่สุด
.
จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนพบว่าตลอดราว 5 ปี มีผู้เคยถูกคุมขังในเรือนจำไปรวมแล้วอย่างน้อย 208 คน (สถิติตั้งแต่กลางปี 2563 ถึงวันที่ 30 ต.ค. 2568) บางรายได้รับการประกันตัว หรือพ้นโทษในคดี บางรายถูกคุมขังหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา บางรายก็ยังคงถูกคุมขังอยู่ในปัจจุบัน โดยสถิติตัวเลขนี้นับข้อมูลผู้เคยถูกคุมขังในเรือนจำทั้งหมด แม้ระหว่างรอคำสั่งของศาลในการประกันตัวด้วย
.
แนวโน้มสถานการณ์ของการคุมขังนั้น สัมพันธ์กับสถานการณ์ทางการเมือง และกระแสการประท้วงเรียกร้องในช่วงปีต่าง ๆ อย่างยิ่ง รวมทั้งในช่วงหลังยังเกี่ยวข้องกับการกระบวนการในคดี ที่หลายคดีดำเนินมาสู่ชั้นอุทธรณ์หรือฎีกา หรือคดีสิ้นสุดลงไปมากขึ้น ทำให้มีแนวโน้มของผู้ถูกคุมขังเพิ่มมากขึ้นในปี 2568
.
ขณะเดียวกัน สถานการณ์ที่ควรบันทึกไว้คู่ขนานกับสถิติและแนวโน้มของการคุมขัง คือการเคลื่อนไหวเรียกร้องของผู้ต้องขังทางการเมือง ที่ยังพยายามต่อสู้เรียกร้องภายใต้ข้อจำกัดด้านอิสรภาพ การสื่อสาร และเครื่องมือที่สามารถใช้เรียกร้อง โดยเฉพาะแต่ละช่วงปียังคงมีสถานการณ์การอดอาหารประท้วงของผู้ต้องขังในเรือนจำเป็นระยะ
.
.
 อ่านบทความบนเว็บไซต์
อ่านบทความบนเว็บไซต์https://tlhr2014.com/archives/79542
https://www.facebook.com/photo?fbid=1231822232121578&set=a.656922399611567
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
