วันเสาร์, ตุลาคม 11, 2568

ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับฮามาสครั้งนี้เป็นเพียงแผนระยะเริ่มต้น และรายละเอียดมากมายเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปในฉนวนกาซายังคงต้องได้รับการพิจารณาเพิ่มเติมต่อไป อนาคตของฉนวนกาซาหลังมีข้อตกลงหยุดยิงจะเป็นอย่างไร


อนาคตของฉนวนกาซาหลังมีข้อตกลงหยุดยิงจะเป็นอย่างไร
แคทเธอรีน ฮีธวูด
บีบีซี เวิล์ด เซอร์วิส
10 ตุลาคม 2025

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เผยว่าอิสราเอลและฮามาสได้ตกลงกันในแผนหยุดยิงระยะแรกแล้ว โดยข้อตกลงของทรัมป์มีทั้งหมด 20 ประการ

ข้อตกลงเบื้องต้นซึ่งประกาศเมื่อวันพฤหัสบดี คาดว่าจะนำไปสู่การปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลที่เหลืออยู่ทั้งหมดและนักโทษชาวปาเลสไตน์อีกหลายร้อยคน การถอนกำลังทหารอิสราเอล และการให้ความช่วยเหลือเข้าสู่ฉนวนกาซา ทว่าขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับรายละเอียดและกรอบเวลาของขั้นตอนเหล่านี้

วันอังคารที่ผ่านมาเป็นวันครบรอบ 2 ปี นับตั้งแต่การโจมตีของฮามาสเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2023 ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 1,200 คน และอีก 251 คนถูกจับเป็นตัวประกัน

ข้อตกลงนี้เป็นเพียงระยะเริ่มต้น และรายละเอียดมากมายเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปในฉนวนกาซายังคงต้องได้รับการพิจารณาเพิ่มเติมต่อไป

ใครจะเป็นผู้บริหารจัดการฉนวนกาซาภายใต้แผนสันติภาพของทรัมป์ ?

แผนสันติภาพของทรัมป์เสนอให้กาซาอยู่ภายใต้การปกครองของคณะกรรมการชั่วคราวของคณะเทคโนแครตชาวปาเลสไตน์ ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ "คณะกรรมการสันติภาพ" ซึ่งมีทรัมป์เป็นประธาน และมีโทนี แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษเข้าร่วมด้วย

การบริหารฉนวนกาซาจะถูกส่งมอบให้กับทางการปาเลสไตน์ในที่สุด เมื่อทางการปาเลสไตน์ "ดำเนินโครงการปฏิรูปเสร็จสิ้น" ตามเนื้อหาในแผนซึ่งเผยแพร่โดยทีมงานของทรัมป์

ฮามาสจะไม่มีบทบาทในการบริหารฉนวนกาซาอีกต่อไป ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม

แผนดังกล่าวยังระบุด้วยว่า สมาชิกฮามาสจะได้รับการนิรโทษกรรม หากพวกเขามุ่งมั่นที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสันติ หรือได้รับการอำนวยความสะดวกในการเดินทางที่ปลอดภัยไปยังประเทศอื่น


การตอบโต้ทางทหารของอิสราเอลต่อการโจมตีเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2023 ได้ทำลายอาคารและโครงสร้างพื้นฐานส่วนใหญ่ของกาซา

ข้อตกลงหยุดยิงจะสร้างความแตกต่างอย่างไรให้กับผู้คนในฉนวนกาซา ?

โฆษกรัฐบาลอิสราเอลกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (9 ต.ค.) ว่า การหยุดยิงจะมีผลบังคับใช้ภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากคณะรัฐมนตรีอิสราเอลอนุมัติ

ฮิวจ์ โลวัตต์ นักวิจัยอาวุโสด้านตะวันออกกลางแห่งคณะมนตรียุโรปว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ (European Council on Foreign Relations – ECFR) ในกรุงลอนดอน กล่าวว่าโดยสรุปแล้ว ข้อตกลงหยุดยิงควรทำให้ชาวกาซา "ไม่ต้องหวาดกลัวต่อชีวิตอีกต่อไป"

"สามสิ่ง คือ การไม่ถูกฆ่า ไม่ถูกขับไล่ และไม่ถูกทำให้อดอยาก เป็นสามเกณฑ์ที่สำคัญที่สุดสำหรับชาวกาซาในขณะนี้" เขากล่าวกับบีบีซีนิวส์

"หลังจากความปลอดภัยส่วนบุคคลและเมื่อผู้คนได้กลับบ้านแล้ว แน่นอนว่าพวกเขาจะหันมาสนใจว่าจะสร้างชีวิตใหม่ได้อย่างไร" โลวัตต์กล่าว

และนั่นก็คือเรื่องจริงเพราะผู้คนในกาซากำลังชื่นชมยินดีกับข่าวนี้

จูมา รามาดาน อาบู อัมโม ผู้อาศัยอยู่ในกาซา บอกกับบีบีซีแผนกภาษาอารบิกว่า "สิ่งแรกที่ฉันจะทำคือ เริ่มรื้อถอนเศษซากบ้านของเราเพื่อนำร่างของปู่ย่าตายายของฉันกลับคืนมา

"หลังจากนั้น เราจะเริ่มสร้างบ้านหลังนี้ขึ้นใหม่ หากพระเจ้าทรงประสงค์ เราจะสร้างกาซาทั้งหมดขึ้นใหม่ และมันจะกลับมาดีขึ้นกว่าเดิม"

การตอบโต้ทางทหารของอิสราเอลต่อการโจมตีเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2023 ได้ทำลายอาคารและโครงสร้างพื้นฐานส่วนใหญ่ของกาซา

สงครามครั้งนั้นได้คร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ไปแล้วกว่า 67,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเรือน รวมถึงเด็กมากกว่า 18,000 คน ตามข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขของรัฐบาลฮามาสในกาซา

ตัวเลขข้างต้นได้รับการยอมรับว่า เชื่อถือได้โดยสหประชาชาติและองค์กรระหว่างประเทศอื่น ๆ


ในระยะหลังการเข้าถึงความช่วยเหลือกลายเป็นเรื่องที่ยากลำบากมากขึ้นสำหรับประชาชนในฉนวนกาซา

ประเด็นด้านความช่วยเหลือจะต้องมีอะไรบ้าง

แผนสันติภาพ 20 ข้อของทรัมป์รวมถึงการอนุญาตให้ส่ง "ความช่วยเหลือเต็มรูปแบบ" ในทันทีไปยังฉนวนกาซา เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติออกมายืนยันแล้วว่า ในกาซาเกิดภาวะอดอยากมาแล้วตั้งแต่เดือน ส.ค. ที่ผ่านมา

แผนดังกล่าวยังระบุว่า จำนวนความช่วยเหลือควร "สอดคล้องกับข้อตกลงเมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2025 เกี่ยวกับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม"

สำนักข่าวรอยเตอร์ อ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่อิสราเอลที่ระบุว่า จะมีการส่งมอบความช่วยเหลือทางรถบรรทุกวันละ 600 คัน และยังอ้างคำพูดของแหล่งข่าวชาวปาเลสไตน์ที่ระบุว่า ในเบื้องต้นจะมีการส่งมอบความช่วยเหลือขั้นต่ำวันละ 400 คัน และจำนวนจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากนั้น

อย่างไรก็ตาม โลวัตต์ย้ำว่า จำเป็นต้องมีสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการมอบความช่วยเหลือที่ปลอดภัย จึงจะทำให้หน่วยงานช่วยเหลือระหว่างประเทศชั้นนำรู้สึกมั่นใจที่จะทำงานเพื่อช่วยเหลือผู้คนในฉนวนกาซา

แผนของทรัมป์ไม่ได้ระบุรายละเอียดว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับมูลนิธิมนุษยธรรมกาซา (Gaza Humanitarian Foundation - GHF) ที่เป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งเข้ามาแทนที่ระบบการแจกจ่ายอาหารที่นำโดยสหประชาชาติก่อนหน้านี้

โลวัตต์กล่าวกับบีบีซีว่า "ผมคิดว่า เราต้องยอมรับให้ได้ก่อนว่า สภาพแวดล้อมด้านความปลอดภัยรอบ ๆ จุดให้ความช่วยเหลือเสื่อมลงอย่างมากนับตั้งแต่การหยุดยิงครั้งล่าสุดล้มเหลว"

ข้อตกลงจะยั่งยืนหรือไม่ ?

ข้อตกลงนี้ถือเป็นความก้าวหน้าที่เห็นได้ชัดที่สุดจากทั้งสองฝ่ายคู่ขัดแย้งนับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้นเมื่อสองปีก่อน

แต่แผนสันติภาพ 20 ประการของทรัมป์นั้นแท้จริงแล้วเป็นเพียงกรอบการทำงานที่มีความยาวเพียงไม่กี่หน้า ทอม เบนเน็ตต์ ผู้สื่อข่าวบีบีซีในนครเยรูซาเลม ชี้

เขากล่าวว่า ยังคงมีประเด็นสำคัญที่ทั้งสองฝ่ายต้องหาทางออกร่วมกันเพิ่มเติม

ประเด็นเหล่านี้รวมถึงข้อเรียกร้องสำคัญของอิสราเอลที่ว่า ฮามาสต้องยอมปลดอาวุธ รวมถึงขอบเขตของการถอนกำลังของอิสราเอล และแผนการที่ว่า ใครจะเป็นผู้ปกครองฉนวนกาซา

โลวัตต์บอกกับบีบีซีว่า เขาคิดว่าแผนระยะแรกของทรัมป์สามารถนำไปสู่การปฏิบัติได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นมีก็มีความไม่แน่นอน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพราะ "ขอบเขตที่เกินจะรับได้" ของอิสราเอล

"เนทันยาฮูกล่าว รวมถึงท่าทีของเขาทันทีหลังการแถลงข่าวกับทำเนียบขาว [ว่า] จะไม่มีการถอนกำลังของอิสราเอลออกจากฉนวนกาซาอย่างเต็มรูปแบบ และจะไม่มีรัฐปาเลสไตน์" โลวัตต์กล่าว

"เห็นได้ชัดว่า นี่เป็นอุปสรรคสำคัญสองประการในการดำเนินการตามแผน เนื่องจากจะเป็นเรื่องยากที่จะรักษาความมุ่งมั่นของปาเลสไตน์ต่อแผนนี้ หากอิสราเอลไม่ถอนกำลังออกจากฉนวนกาซาโดยสมบูรณ์ในระยะเวลาอันใกล้นี้" เขาเสริม

ประธานาธิบดีทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลพบกันเมื่อปลายเดือน ก.ย.

ทรัมป์มีส่วนร่วมในเรื่องนี้อย่างไรบ้าง ?

ความแตกต่างหลักในความพยายามสันติภาพเหล่านี้คือการมีส่วนร่วมแบบส่วนตัวของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งไม่เพียงแต่กดดันฮามาสเท่านั้น แต่ยังกดดันอิสราเอลให้บรรลุข้อตกลงด้วย ฮูโก บาเชกา ผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำนครเยรูซาเลมกล่าว

การบรรลุข้อตกลงครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จด้านนโยบายต่างประเทศครั้งใหญ่ที่สุดของประธานาธิบดีทรัมป์ นับจนถึงปัจจุบัน เขาไม่ได้ปิดบังความจริงที่ว่า เขาต้องการรางวัลที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลกรางวัลหนึ่งสำหรับความพยายามนี้ของเขา นั่นคือรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ซึ่งจะประกาศผลในวันนี้ (10 ต.ค.)

โลวัตต์กล่าวว่า "สหรัฐฯ มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการทูตอิสราเอลหรือตะวันออกกลางมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทูตระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ และมีอำนาจต่อรองที่เหนือชั้น อย่างน้อยก็ในทางทฤษฎี ที่สามารถใช้กับอิสราเอลได้ ผมคิดว่าทรัมป์อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมอย่างยิ่งในเรื่องนี้ เนื่องจากการเมืองภายในประเทศและการวางตำแหน่ง"

คาดว่าทรัมป์จะเดินทางไปยังอียิปต์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งคณะเจรจาของเขากำลังดำเนินการเพื่อบรรลุข้อตกลง ทำเนียบขาวกล่าวด้วยว่า ทรัมป์กำลังพิจารณาที่จะเดินทางไปยังภูมิภาคดังกล่าวในวันนี้ (10 ต.ค.)

https://www.bbc.com/thai/articles/cy8565qv2zqo