Sulak Sivaraksa
20 hours ago·
"ลำพังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง เพียงให้มีรัฐธรรมนูญ ให้มีรัฐสภา โดยไม่แก้ไขพื้นฐานทางวัฒนธรรมแล้วไซร้ นายปรีดีจะไม่ต้องกระทบกระเทือนกับอำนาจแห่งสถานะเลย
.
"ทั้งนี้เพราะนายปรีดีเป็นคนสุภาพ ไม่มักใหญ่ใฝ่สูง ทั้งยังยอมไกล่เกลี่ยกับผู้คนอีกด้วย แต่เป็นเพราะนายปรีดีต้องการพลิกแผ่นดิน คือต้องการให้ฝุ่นเมืองกลายเป็นพลเมือง ให้ไพร่ฟ้าข้านิกรเป็นประชาราษฎร และให้คนที่อาศัยใบบุญเจ้านายอยู่ ได้เป็นเจ้าของแผ่นดิน มีสิทธิ์ มีเสียงในการตัดสินชะตากรรมของตนเอง ตลอดจนของประเทศชาติ
.
"นี่เอง คือการปฏิวัติวัฒนธรรมที่สำคัญยิ่ง และนี่คือรากฐานทางการเมืองแบบประชาธิปไตย ซึ่งฝ่ายตรงข้ามจำต้องกำจัดนายปรีดีเสียจากประเทศนี้ หาไม่ ไหนเลยคนอื่นๆ ที่ร่วมงานกับนายปรีดีจึงไม่ถูกรังแกถึงขนาดนั้นเล่า และเมื่อขับไสไล่ส่งนายปรีดีไปได้แล้ว ได้มีการถอยหลังเข้าคลองไปสู่สถานะเดิมในทุกๆ ทาง
.
"อากัปกิริยาภายนอก เช่น การมอบคลานก็กลับมาเป็นที่นิยมกันอีก ความคิดทางวิทยาศาสตร์หมดไป หากมีไสยศาสตร์เข้ามาแทนที่
.
"แม้จะรักษาประชาธิปไตยไว้ในรูปแบบ แต่โดยเนื้อหาสาระเป็นเผด็จการ"
.
ส. ศิวรักษ์
จาก ข่าวครูไทย - ปักษ์แรก พฤษภาคม ๒๕๒๗
-------------
อ่านต่อได้ในหนังสือ "เรื่องนายปรีดี พนมยงค์ ตามทัศนะ ส. ศิวรักษ์" (พิมพ์ครั้งที่ ๗, ปรับปรุงใหม่ ๒๕๖๔)
(https://www.facebook.com/photo/?fbid=990553662439316&set=a.235486911279332)