เขาว่า ความลุกลี้ลุกลน ออกตัวแรงเร็วเกินไปของทักษิณ ทำให้มาถึงจุดที่รัฐบาลเศรษฐา ต้องใช้บริการเนติบริกรรุ่นเก๋า วิษณุ เครืองาม เพื่อแก้ปมผิดจริยธรรม ราคาที่ต้องจ่ายจะมากน้อยแค่ไหน ไม่เท่าคู่สัญญาปีศาจได้เอาเชือกร้อยจมูกไว้แล้ว
รายการ 'ทูเดย์' ถกประเด็นการเมือง ปริญญา เทวานฤมิตรกุล นักกฎหมายคนดังของ มธ. เอ่ยถึงผลโพลของสถาบันพระปกเกล้าฯ ว่าไม่เพียงทำให้ทักษิณหน้าแตก หากแต่พรรคเพื่อไทยราคาตกในหมู่พรรคร่วมมือรอง ตั้งแต่ภูมิใจไทยลงไปถึงพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติ
มิใยนายแบกพยายามปลอบใจตนว่า ถ้าผลเลือกตั้งออกมาอย่างที่โพลว่า พรรคก้าวไกลก็ยังตั้งรัฐบาลไม่ได้ เพราะไปชี้หน้าพรรคอื่นๆ ไว้หมดแล้วว่าเป็นพวกสนับสนุนเผด็จการ นายแบกผู้นี้อาจจะจมอยู่แต่ในปลักของตนจนรู้แต่เรา ไม่รู้เขา
หากเงี่ยหูฟังเสียงสะท้อนจากวกด้อมไว้บ้างจะรู้ว่าคนก้าวไกลพูดไว้บ่อยๆ ว่าจะตั้งหน้าตั้งตาทำงานกับประชาชนเท่านั้น ไม่ยอมไขว้เขวกับเสียงโหวกเหวกจากฝั่งตรงข้าม ไม่ต้องโคว้ท ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก็ได้
ที่ว่าถ้าได้ ๒๐๘ เสียงก็ไม่หวังจะตั้งรัฐบาลกับเพื่อไทย ๑๐๕ เสียง ลองฟังจากติ่งก้าวไกลรายหนึ่ง @thecervine93 เล่าว่าได้ฟัง พงศกร รอดชมภู ให้สัมภาษณ์ ‘พีพีทีวี’ ต่อคำถามว่า ก้าวไกลกับเพื่อไทยจะจับมือกันไหม
พงศกรตอบว่า ถือตนเองเป็นคนนอก มองเห็นว่าการที่ก้าวไกลจะไปจับมือกับเพื่อไทยนั้น “ไม่มีประโยชน์อะไรเลย” ก้าวไกลควรทำการเมืองของตัวเองไปเคียงข้างกับประชาชน ใครจะช่วงชิงอำนาจกันอย่างไรให้เขาทำกันไป ไม่ต้องสนใจ
ทั้งที่พอถึงจุดนี้ สิ่งที่นายแบกเคยบริภาษณ์พรรคก้าวไกลที่เห็นแย้งการจัดกระบวนเศรษฐกิจของรัฐบาล ครม.เศรษฐาต้องจำยอมรับแล้ว “เห็นภาพชัดเจนตรงกันว่า เศรษฐกิจไทยแม้จะไม่ถึงขั้นวิกฤตเฉียบพลัน แต่ก็ตกอยู่ในสภาพเติบโตต่ำกว่าศักยภาพที่ควร”
และ “สาเหตุหลักเกิดจากไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางเศรษฐกิจมานานกว่า ๑๐ ปี” ถึงอย่างนั้นมาตรการที่ออกมาจากการประชุม ครม.ล่าสุดเมื่อวาน ยังคงแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน (ตามที่นายแบกเล่า) ได้แก่
“มาตรการด้านการเงินในการปล่อยสินเชื่อเข้าสู่ระบบให้กับ sme โดยธนาคารของรัฐและของธนาคารพาณิชย์” โดยให้ บสย. (บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมย่อย) ในสังกัดกระทรวงการคลัง เป็นผู้เข้ามาค้ำประกัน จะได้ผลอย่างไรคงต้องดูกันไป
(https://x.com/MorChai_PTP/status/1795252340876050774 และ https://x.com/MemeForward/status/1795092121017336241)