ไหนๆ มาดูภาพเศรษฐกิจสี่เดือนแรกปีนี้เป็นอย่างไร หน่อยนะ เอาภาพสะท้อนเฉพาะกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมใหญ่ๆ อย่างรายนี้มหึมาเกือบจะหายใจรดต้นคอ ‘ส.ทรัพย์สินฯ’ อยู่เหมือนกัน ไม่ใช่ใครอื่น ปตท.ไง
เขาว่า ๗ บริษัทรวมกันได้บ้างเสียบ้างหักกลบลบแล้วเหลือเป็นกำไร ๕.๙ หมื่นล้านบาท จึงตัดส่วนอุทิศเป็นค่าตอบแทนรัฐไทย ในรูปภาษีเงินได้ ถึง ๑.๐๖ หมื่นล้านบาทนั่นเลยทีเดียว คนเก่งที่สุดของกลุ่มไตรมาสนี้เป็น IRPC ชื่อเดิม ‘ทีพีไอ’
บริษัทนี้ผลิตจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันปิโตรเลียม และเปโตรเคมิคอน มีกำไรถึง ๔๑๕% ส่วนรายที่ห่วยสุดในกลุ่มเป็น PTTGC บริษัทที่ทำธุรกิจน้ำมันครบวงจร กลั่นแล้วนำมาผลิตเปโตรเคมี (พวกพล้าสติก) ทั้งที่ตกอับอย่างนี้กูรูหุ้นแนะให้ตักซื้อไว้
พวกเซียนมหภาคต่างเปรยกันว่า ปตท.หรือ PTT นี่ละจะเป็นตัวดันจีดีพี แต่คอเศรษฐกิจฝ่ายการเงินก็ยังไม่วายบ่นอยู่อีกว่า แต่ ‘หนี้สาธารณะ’ ยังเป็นแรงฉุดไม่เสื่อมคลาย สำนัก thaipublica.org ชี้ถึงการเพิ่มอย่างรวดเร็วของหนี้สาธารณะว่า
สำหรับปี ๒๕๖๗ “ปรากฏว่างบฯ ก้อนใหญ่ที่สุดคืองบฯ ที่ถูกชำระเป็นค่าดอกเบี้ย” คาดว่าอยู่ที่ ๒๔๙,๗๕๓ ล้านบาท “แต่มีการตั้งงบฯ ชำระค่าดอกเบี้ย ขาดไปประมาณ ๔๐,๐๐๐ ล้านบาท รัฐบาลจะเอาเงินจากไหน” อ้าวแล้วกัน เงินหมื่นของฉันล่ะจะมาจริงไหม
ก็ตั้งแต่ต้นปีนี้เป็นต้นมา “สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP และภาระหนี้ต่อรายได้ของไทย สูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก” สำนักวิจัยของแบ๊งค์กรุงศรีแฉ “ณ สิ้นปี ๒๕๖๖ หนี้ครัวเรือนของไทยปรับขึ้นสู่ระดับ ๙๑.๓%” เข้าไปแล้ว
“จากการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล (เพิ่มขึ้น ๙.๕% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน) และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (เพิ่มขึ้น ๔.๓% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน)” โอ๊ย เรื่องปากท้องฉันทั้งนั้น
ก็ได้แต่บ่นอย่างเราๆ บ้านๆ เนี่ยละ แหม ถ้าสูบน้ำมันขึ้นมากินเองได้ก็จะดี
(https://thaipublica.org/.../krungsri-research-on.../, https://thaipublica.org/.../05/20-years-of-thai-public-debt/ และ https://today.line.me/th/v2/article/WBYNoKE)