ท้วงทักกันมากปีนี้ รำลึก ๑๔ ปีสลายชุมนุม เมษา-พฤษภา ๕๓ มีถึง ๔ เวทีแยกกัน หนึ่งในนั้นถูกป้าย ‘สีส้ม’ ว่ามาเปื้อนสีแดง แถมมีคนสวมเสื้อพรรคการเมืองไปตะโกนอยู่ตรงข้ามเวทีว่า “เรารักทักษิณ เรารักทักษิณ เรารักทักษิณ”
Puangthong Pawakapan บ่น “เฮ้อ ออออ” ส่วน Punsak Srithep ว่า “สหายหลายท่านรู้สึกเสียใจและพูดไม่ออก” คนแรกนั้นเป็นแกนของคณะกรรมการที่ภาคประชาชนก่อตั้งขึ้นมาค้นหาความจริงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
จนได้ทราบจำนวนผู้ตาย ผู้เจ็บ มาช่วยกันเยียวยา เพราะทางภาครัฐไม่ยอมทำ ส่วนคนหลังเป็นพ่อของเยาวชนที่ตายคนหนึ่งในเหตุการณ์ เขารำพึงเป็นลายลักษณ์ออกมาว่า “ไม่รู้ว่าจะเกลียดชังอะไรกันนักกับ #พวกแดงล้มเจ้า”
เขาแจงปรากฏการณ์ที่ “หมอเหวง อ.ธิดา ถูกกล่าวหาว่าไม่ใช่เวทีเสื้อแดง เวทีแม่น้องเกดถูกหาว่าเป็นเวทีส้ม” แม่น้องเกดก็คือนางพะเยาว์ อัคฮาด มารดาของ น.ส.กมลเกด พยาบาลอาสา ที่ถูกพลสไน๊เปอร์ของ ศอฉ.ยิงตายในเขตอภัยทานวัดปทุมฯ
และที่วัดปทุมวนารามราชวรวิหารมีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิต มีนักกิจกรรมทั้งอดีตและปัจจุบันไปร่วมพิธีกันคับคั่ง เช่น จตุพร พรหมพันธุ์ และชัยธวัช ตุลาธน ตกบ่ายมีกิจกรรมบนเวทีหน้าห้างเซ็นทรัลเวิร์ลด์ นำด้วยพิธีสงฆ์
คนสำคัญร่วมงานเวทีนี้ก็มี ธิดา ถาวรเศรษฐ์ นพ.เหวง โตจิราการ สมยศ พฤกษาเกษมสุข ศรีไพร นนทรีย์ ภัสสร บุญรีย์ และณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นอกนั้นที่แยกราชประสงค์ มีซุ้มกิจกรรมโดยกลุ่มญาติคนเสื้อแดง ผู้ชุมนุมจากหน้าเซ็นทรัลเวิร์ลด์ข้ามมาร่วมจุดเทียนไว้อาลัยกับกลุ่มนี้
บนเวทีของกลุ่มคณะประชาชนทวงคืนความยุติธรรม ๒๕๕๓ (กลุ่ม อจ.ธิดา-หมอเหวง) ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ขึ้นปราศรัยโดยกล่าวตอนหนึ่งว่า “เราต้องปกป้องและสนับสนุน ปกป้องจิตวิญญาณของคนหนุ่มสาวที่เขาต่อสู้ต่อเนื่องจากวันเวลาของเรา”
และเอ่ยถึงการเรียกร้องนิรโทษกรรมทางการเมืองในรุ่นนี้ นอกจากเพื่อผู้ต้องคดีสืบเนื่องมาจากการเคลื่อนไหวทางการเมืองแล้ว ยังต้อง “รวมคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ ด้วยอย่างไม่มีข้อยกเว้น”
(https://prachatai.com/journal/2024/05/109274 และ https://www.facebook.com/punsak.srithep.9/posts/pfbid=%2CO%2CP-y-R)