"...เกมของ ‘ชินวัตร’ หาก ‘ทักษิณ’ ได้รับการพักโทษ หรือพ้นโทษ คือการกลับมาคอนโทรลภายในพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง ผ่าน ‘อุ๊งอิ๊ง’ เพื่อเป็นตัวแทน ‘กลุ่มอนุรักษ์นิยม’ สู้กับ ‘กลุ่มหัวก้าวหน้า’ อย่าง ‘ก้าวไกล’ แต่กว่าจะถึงเวลานั้น สิ่งที่ ‘ทักษิณ’ ต้องฝ่าด่านพิสูจน์ ‘ความจริง’ เรื่องอาการป่วยให้ได้เสียก่อน..."
จับตา อาการป่วย ‘ทักษิณ’ จุดตาย ‘รบ.เศรษฐา’? ความไม่เท่าเทียมหลัก 'นิติรัฐ-นิติธรรม'
28 ตุลาคม 2566
สำนักข่าวอิศรา
เป็นเวลากว่า 2 เดือนแล้ว ที่ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับประเทศไทย แลนดิ้งที่สนามบินสุวรรณภูมิ
หลังจากกลับเข้าไทย เขาถูกควบคุมตัวไปศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง เพื่อฟังคำพิพากษา จำคุกรวม 3 คดี 8 ปี และถูกส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครทันที
ก่อนที่จะได้รับพระราชทานอภัยลดโทษเหลือจำคุก 1 ปี
แต่ในช่วงเวลาที่ ‘ทักษิณ’ ถูกคุมตัวในเรือนจำวันแรกนั้น เขาอยู่ได้ไม่ถึง 1 วันเต็ม เพราะช่วงกลางดึกระหว่างคืนวันที่ 22 ส.ค.เขาถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ด้วยสารพัดโรคที่อาการกำเริบ ก่อนถูกส่งตัวต่อไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจในช่วงคืนวันเดียวกัน
ท่ามกลางการตั้งคำถามถึง ‘ความเท่าเทียม’ ในการรักษาตัวผู้ต้องโทษ ที่มีหลายคนอาการหนักกว่านี้ แต่กลับให้กินแค่ยา หรือรักษาภายในโรงพยาบาลราชทัณฑ์เท่านั้น?
แม้แต่ ‘เดอะคึก เทพไท เสนพงศ์’ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ซึ่งถูกต้องโทษจำคุกคดีทุจริตการเลือกตั้ง ยังส่งสารผ่าน ‘น้องชาย’ ออกมาตั้งคำถามถึงประเด็นนี้ เพราะตัวเองก็ป่วยเหมือนกัน
ประเด็นนี้โด่งดังอย่างมาก ท่ามกลางกระแสข่าวเชิงซุบซิบว่า บรรดา ‘บิ๊กเนม’ ทางการเมืองบางคนต่อสาย บางคนเข้าพบ ‘นายใหญ่’ เพื่อคอนโทรลเกมทางการเมืองได้
อย่างไรก็ดีทายาทตระกูลชินวัตร และกรมราชทัณฑ์ได้ออกมาปฏิเสธเรื่องนี้ มีแค่ทนายความและเครือญาติใกล้ชิดเท่านั้นที่ได้เข้าพบ และต้องทำหนังสือขออนุญาตกรมราชทัณฑ์ก่อน
‘เศรษฐา’เผยอาการ ‘ทักษิณ’ เจาะรูที่หัวไหล่ ‘แพทองธาร’ ยังไม่ตอบขอพักโทษ
ถัดจากนั้นราว 1 เดือนเศษ มีการปล่อยภาพ ‘ทักษิณ’ ป่วยหนักนอนอยู่บนเตียงของโรงพยาบาล และมีพยาบาลช่วยกันเข็นเตียง ท่ามกลางกระแสวิจารณ์อย่างหนักว่าเป็นการ ‘เซ็ตอัพ’ จงใจปล่อยออกมา เพื่อหวังผลทางการเมืองหรือไม่?
ร้อนถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ต้องออกมาชี้แจงด่วนว่า ‘ทักษิณ’ ป่วยจริง และภาพที่หลุดออกมาดังกล่าว คือการเข็นไปสแกน MRI ที่โรงพยาบาลตำรวจ
อีกหนึ่งประเด็นร้อนต่อเนื่องคือ ปัจจุบัน (นับถึง 26 ต.ค. 2566) เป็นเวลาเกิน 60 วันแล้วที่นำตัว ‘ทักษิณ’ รักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งถือเป็น ‘โรงพยาบาลนอก’ มิใช่โรงพยาบาลของกรมราชทัณฑ์
โดยเมื่อวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา กรมราชทัณฑ์ อ้างรายงานจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครว่า ขณะนี้ทักษิณ รักษาตัวที่โรงพยาบาลภายนอกครบ 60 วัน ในวันที่ 21 ต.ค. โดยความเห็นจากแพทย์โรงพยาบาลตำรวจผู้ทำการรักษา เห็นว่ายังมีความจำเป็นต้องรักษาตัวอยู่ ณ โรงพยาบาลตำรวจ ต่อไป ส่วนรายละเอียดของการเจ็บป่วย เป็นไปตามหลักการคุ้มครองสิทธิผู้ป่วยและ ตามจรรยาบรรณของแพทย์ ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลออกสู่สาธารณชนได้ ตามพ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ ที่เกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ป่วย
ทั้งนี้ตามกฎกระทรวงในการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ.2563 กำหนดให้ผู้ต้องโทษรักษาตัวที่โรงพยาบาลนอกเรือนจำได้ 3 ส่วนคือ เกิน 30 วัน เกิน 60 วัน และเกิน 120 วัน
ในส่วนของการส่งตัวไปรักษาเกิน 60 วันนั้น กฎกระทรวงฯ ระบุว่า ให้มีหนังสือขอความเห็นชอบจากอธิบดี พร้อมกับความเห็นแพทย์ผู้ทำการรักษา และหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง และรายงานให้ปลัดกระทรวงทราบ
ดังนั้นกรณีของ ‘ทักษิณ’ จึงเข้าข่ายให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ทำหนังสือพร้อมความเห็นไปยังปลัดกระทรวงยุติธรรมเพื่อรับทราบแล้ว
ประเด็นที่น่าสนใจ เรื่องนี้ถูก นักร้องชื่อดัง ‘ศรีสุวรรณ จรรยา’ ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน และ ‘หมอวรงค์ เดชกิจวิกรม’ ประธานพรรคไทยภักดี ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบแล้ว
‘หมอวรงค์’ มือปราบจำนำข้าว ให้ความเห็นถึงเรื่องนี้ว่า “จุดนี้เป็นจุดตายของรัฐบาลของเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ในเรื่องของความเท่าเทียมที่พยายามพูดถึงหลักนิติรัฐ นิติธรรม” เลยทีเดียว
เขาพยายามชี้ให้เห็นว่า การส่ง ‘ทักษิณ’ รักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจนั้นเป็นเรื่องตบตาประชาชน และอาจมีคอนเนกชั่นบางอย่างกับกรมราชทัณฑ์
วรงค์ เดชกิจวิกรม
ขณะที่ ‘ศรีสุวรรณ’ ซึ่งยื่นเรื่องร้องต่อ ป.ป.ช. มองว่ากรณีการปล่อยภาพ ‘ทักษิณ’ หลุดออกมานั้นเป็น ‘การละคร’ พร้อมขอให้มีการตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นมาสอบสวนเรื่องดังกล่าว นอกจากนี้เขายังร้องเรียนต่อแพทยสภา ขอให้ตรวจสอบจริยธรรมแพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ด้วย
ศรีสุวรรณ จรรยา
ประเด็นที่น่าสนใจในเรื่องร้องเรียนคือ การกล่าวหาว่า กรมราชทัณฑ์ และแพทย์ที่โรงพยาบาลตำรวจ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ซึ่งเป็นคดีอาญา มีโทษถึงจำคุก
โดยทั้ง ‘ศรีสุวรรณ-หมอวรงค์’ เห็นตรงกันว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการ ‘เลือกปฏิบัติ’ กับผู้ต้องขังรายอื่น ๆ
กลับมาในทางการเมือง การเดินเกมของ ‘ชินวัตร’ ที่ผลักดัน ‘อุ๊งอิ๊ง’ นั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และเซ็ตอัพแผนเตรียมดันนั่งเก้าอี้เสนาบดีช่วงกลางปี 2567 ซึ่งพอเหมาะพอเจาะกับช่วงเวลาเดียวกับที่ ‘ทักษิณ’ พ้นโทษ หรืออาจได้รับการพักโทษ เป็นการกระชับอำนาจภายใน ‘เพื่อไทย’ ให้แน่นขึ้น
ในสถานการณ์การเมืองไทยแบ่งคู่ขัดแย้งใหม่ ‘ขั้วแดง’ และ ‘ขั้วส้ม’ บรรดากลุ่มอนุรักษ์นิยมจำนวนมาก ต่างกางปีกปกป้อง ‘เพื่อไทย’
กลายเป็น ‘นาย-นางแบก’ กันทั้งหมด
ขณะที่คนรุ่นใหม่จำนวนมากพาเหรดสถาปนาตัวเองเป็น ‘ด้อมส้ม’ ทำให้สงครามทางความคิด ก้าวเข้าสู่จุดไคลแม็กซ์ทางการเมืองอีกครั้ง
ดังนั้นเกมของ ‘ชินวัตร’ หาก ‘ทักษิณ’ ได้รับการพักโทษ หรือพ้นโทษ คือการกลับมาคอนโทรลภายในพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง ผ่าน ‘อุ๊งอิ๊ง’ เพื่อเป็นตัวแทน ‘กลุ่มอนุรักษ์นิยม’ สู้กับ ‘กลุ่มหัวก้าวหน้า’ อย่าง ‘ก้าวไกล’
แต่กว่าจะถึงเวลานั้น สิ่งที่ ‘ทักษิณ’ ต้องฝ่าด่านพิสูจน์ ‘ความจริง’ เรื่องอาการป่วยให้ได้เสียก่อน
มิฉะนั้นอาจ ‘ตกม้าตาย’ ไม่ถึงฝัน มิใช่หมายถึงแค่ตัว ‘ทักษิณ’ แต่หมายถึง ‘รัฐบาลเศรษฐา’ ด้วย
เพราะต้องไม่ลืมว่ามีสถานะเป็นแค่ ‘ลูกไก่’ ในกำมือของ ‘ฝ่ายอนุรักษ์นิยม’ เท่านั้น หากทำอะไรขัดหูขัดตาขึ้นมา อาจเพลี่ยงพล้ำได้
สุดท้ายกลายเป็นแค่ ‘เบี้ย’ ในกระดานการเมือง ถูกหลอกใช้เหมือนที่ผ่าน ๆ มาอีก!
ตำรวจคุ้มกันเป็น10
— ฮ.นกฮูก(สีส้ม) (@skongki2000) October 27, 2023
นี่มาเยี่ยมนักโทษหรือนายกทักษิณวะครับ pic.twitter.com/kcSPKvU5p0
