เมื่อไม่นานมานี้ (ก่อนที่ผู้นำพรรคทั้งสองจะออกมาประกาศเรื่องนี้) ผมได้ฝากสื่อสารไปยังผู้เกี่ยวข้องกับพรรคใหม่ (ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับพรรค แต่เป็นธรรมดาที่ผมพอรู้จักผู้คนที่เข้าร่วมกิจกรรมก่อตั้งพรรคอยู่) ว่า กรณีกฎหมาย 112 นั้น น่าจะสามารถเสนอนโยบายต่อไปนี้ได้
"พรรคให้การสนับสนุนข้อเสนอของคณะกรรมการตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ที่แต่งตั้งโดยรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยมีศาสตราจารย์ ดร.คณิต ณ นคร เป็นประธาน เรื่องการแก้ไขปรับปรุงประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒"
..............
#ผมเชื่อว่านี่เป็นสิ่งที่ทำได้และน่าจะทำ ไม่เพียงแต่ด้วยเหตุผลในทางหลักการว่า พรรคของ "คนรุ่นใหม่" ไม่สมควรหลีกหนีปัญหาซึ่งทุกคนรู้ดีว่าเป็นปัญหาสำคัญต่ออนาคตของประเทศชาติ ที่สำคัญนโยบายในลักษณะนี้ มาจากข้อเสนอของบุคคลอย่างคณิต ณ นคร และคณะกรรมการที่รัฐบาลอภิสิทธิ์เป็นคนตั้่งขึ้น (ไม่ใช่จากของผู้นำพรรคในอดีต หรือแบบที่ผมเองเคยเสนอ)
ไม่ว่าจะมีคนเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของคณิตในรายละเอียดเฉพาะอย่างไร แต่การเสนอนโยบายในลักษณะนี้ของพรรคใหม่ #จะเป็นการสร้างบรรทัดฐานสำคัญทางประวัติศาสตร์การเมืองไทย และนี่เป็นสิ่งสำคัญมากที่ควรทำ
................
ข้อเสนอโดยสรุปของ คอป.และคณิต ที่ยื่นต่อรัฐบาลเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2554 เป็นดังนี้
"ในส่วนของระวางโทษของความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒ นั้น ชอบที่จะมีความเป็นเสรีนิยมมากกว่าในปัจจุบัน กล่าวคือ ชอบที่จะให้เบาลง ซึ่งอย่างน้อยชอบที่จะกลับไปถือเอาระวางโทษจำคุกเดิมของประมวลกฎหมายอาญาเมื่อประกาศใช้บังคับใหม่ ๆ คือระวางโทษจำคุกไม่เกิน ๗ ปีโดยไม่มีโทษจำคุกขั้นต่ำ และให้มีระวางโทษปรับด้วย.....
จากข้อเสนอแนะดังกล่าวมา ร่างมาตรา ๑๑๒ แห่งประมวลกฎหมายอาญาที่จะนำเสนอต่อรัฐสภาจึงเป็นดังต่อไปนี้
“มาตรา ๑๑๒ ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นความผิดที่ต้องให้อำนาจ
การสอบสวนดำเนินคดีในความผิดตามวรรคหนึ่งจะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับอำนาจจากเลขาธิการพระราชวัง”
ดูข้อเสนอของคณิตโดยละเอียดได้ที่นี่ https://goo.gl/FxhgCB
...............
ในช่วงเวลาเดียวกัน คณิตได้ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ ดังนี้ (https://goo.gl/7UFyhh)
"เท่าที่ค้นคว้า ไม่มีประเทศไหนรุนแรงเท่าเรา เมื่อเร็วๆนี้ผมก็ค้นเจอและอ้างอิงไปยังข้อเสนอว่าที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ เขาปรับแค่ 400-600 ยูโร.....
เรื่อง มาตรา 112 ผมศึกษามันย้อนไปถึง รศ.118 ที่สมัยโน้นมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 1,500 บาท ต่อมาเรามีประมวลกฎหมายอาญาใน รศ.127 เราก็มาแก้ว่าให้มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ต่อมาเราก็มีประมวลกฎหมายอาญาอย่างที่เราใช้ในปัจจุบันประกาศใช้เมื่อปี 2500 ก็ระบุจำคุกไม่เกิน 7 ปีเหมือนกัน คำว่าไม่เกินแสดงว่าอาจจะวันเดียวก็ได้ หรือน้อยก็ได้ และถ้าน้อยก็รอการลงโทษก็ได้ แต่ต่อมาเมื่อมีการยึดอำนาจของรัฐบาลพล.ร.อ.สงัด ชลออยู่ ในปี 2519 #ก็แก้โทษขึ้นมา #แบบไม่มีเหตุผลใดๆทั้งสิ้น แค่บอกว่าโทษไม่เหมาะสม...."
..........................
ผมคิดว่า เป็น irony หรือ ตลกร้ายพอสมควรว่า ในขณะที่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่มีความเป็นไปได้ (แม้จะยังมีความยากลำบาก) ที่สังคมไทยจะมาอภิปรายปัญหาเรื่องสถาบันกษัตริย์โดยเฉพาะเกี่ยวกับกรณีกฎหมาย 112 อย่าง "ผู้ใหญ่" อย่างใช้เหตุใช้ผล (มิหนำซ้ำ ดังที่พอรู้กันว่า กษัตริย์องค์ใหม่เอง ก็มีคำสั่งบางอย่างในทิศทางที่ให้ผ่อนปรนอย่างจำกัดกับบางคดี) แล้วพรรคของ "คนรุ่นใหม่" ที่ต้องการเห็นอนาคตแบบใหม่ของสังคมไทย จะหลีกหนีปัญหานี้โดยสิ้นเชิงไป....