วันอังคาร, เมษายน 17, 2561

‘เอกชัย-โชคชัย’ ถูกปล่อยตัวแล้ว เผย จนท.กดหัว-รุนแรง! ขณะกำลังเดินทางไปทำกิจกรรม รดน้ำดำหัว พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ


...



...






‘เอกชัย-โชคชัย’ ถูกปล่อยตัวแล้ว เผย จนท.กดหัว-รุนแรง! เหตุมีคำสั่งห้ามให้ไปถึงหน้าบ้าน ‘ประวิตร’


Apr 16, 2018
ที่มา คมข่าว


สองนักกิจกรรมทางการเมืองได้รับการปล่อยตัวแล้วหลังเตรียมไปรดน้ำ พล.อ.ประวิตร เผยถูกใช้ความรุนแรงกว่าทุกครั้ง

จากกรณีที่นายเอกชัย หงส์กังวาล และนายโชคชัย ไพบูลย์รัชตะ 2 นักกิจกรรมทางการเมือง ที่ประกาศจะเดินทางมาร่วมรดน้ำสงกรานต์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม จนถูกควบคุมตัวไปไว้ที่ สน.หัวหมากนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. เจ้าหน้าที่ได้ปล่อยตัวทั้งสองโดยไม่มีเงื่อนไข

โดยหลังจากที่นายเอกชัย และนายโชคชัยได้รับการปล่อยตัว จากสถานีตำรวจนครบาลหัวหมากแล้ว ได้เดินทางไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลรามคำแหง ได้ย้ำข้อเท็จจริงว่า การควบคุมตัว มีนายตำรวจชื่อ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล เป็นผู้สั่งการ

สำหรับการควบคุมตัว ใช้ตำรวจประมาณ 10 นาย โดยจุดเกิดเหตุ บริเวณป้ายรถเมล์ปากซอยลาดพร้าว 109 เจ้าหน้าที่ตำรวจ จากสถานีตำรวจนครบาลโชคชัย ไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา และตลอดเส้นทางที่ควบคุมตัวขึ้นรถตู้ ถูกจับกดหัว จนทำให้หูรู้สึกชาไปชั่วขณะ

นายโชคชัย ตั้งข้อสังเกตว่า การควบคุมตัวในครั้งนี้ ถือว่ามีความรุนแรง กว่าทุกครั้งที่ผ่านมา และรุนแรงกว่าทุก สน. ที่เข้ามาควบคุมตัวจากการจัดกิจกรรม

ด้านนายเอกชัย แปลกใจ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความรุนแรงในการควบคุมตัว พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ประชาชนกำลังเผชิญหน้ากับสิ่งใด เพราะทุกครั้งที่ผ่านมา การแสดงกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ แม้แต่ที่หน้าบ้านพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งถือเป็นผู้มีบารมี นายเอกชัยยังไม่ถูกใช้ความรุนแรง เช่นเดียวกับกรณีที่เกิดขึ้นนี้

นางสาวณัฏฐา มหัทธนา นักกิจกรรมทางการเมือง เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวของเธอว่า “เช้านี้พี่โชคชัยถูกกดหัวจนหูดับ เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับคำสั่งว่ายังไงก็ปล่อยให้ เอกชัย หงส์กังวาน กับ โชคชัย ไพบูลย์รัชตะไปทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์รดน้ำดำหัวที่หน้าบ้านพล.อ.ประวิตรไม่ได้ สิ่งที่พี่สองคนทำ เป็นการใช้เสรีภาพในการแสดงออกโดยสันติ เพื่อให้ประเด็นทุจริตเรื่องนาฬิกาพล.อ.ประวิตรไม่หายไปจากกระแสสื่อ สิ่งที่ตำรวจทำคือการปกป้องชื่อเสียงนายและยอมตนเป็นเครื่องมือปกป้องอำนาจรัฐบาลเผด็จการ คสช. ไม่ต่างกับวัฒนธรรมมาเฟีย คนไทยอยู่ใต้ระบอบแบบนี้มาสี่ปีแล้ว คนไทยถูกกดหัวมาสี่ปีแล้ว”






...

โชคชัยบอกว่า “ระหว่างที่ถูกนำตัวขึ้นรถตู้ ผมมองอะไรไม่เห็น หายใจอึดอัดมากจากการถูกบังคับให้นั่งขดกับพื้นรถระหว่างเบาะที่นั่งผู้โดยสาร ถูกเอาเสื้อคลุมหัว และมีเจ้าหน้าที่ผลัดเปลี่ยนกันยึดแขนทั้งสองข้าง มีคนนั่งบนเบาะ แล้วใช้เข่ากดบนแผ่นหลังให้หัวและตัวของผมแนบกับพนักเบาะด้านหน้าตลอดเวลา เป็นเวลา 30 นาที” โดยระบุว่าหัวหน้าชุดเจ้าหน้าที่ ที่เข้าทำการจับกุมเขาและอยู่บนรถตู้ด้วยมีชื่อว่า พ.ต.ท. กันตภณ โพธิ์อ๊ะ จาก สน.โชคชัยโดยการเข้าควบคุมตัวนั้นเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการแสดงตัว สังกัด หน่วยงาน รวมถึงไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาหรือข้อกฎหมายในการควบคุมตัวแต่อย่างไร

(https://prachatai.com/journal/2018/04/76406)

..

...  (16 เม.ย. 2561) เวลา 8.30 น. ผม-โชคชัย ไพบูลย์รัชตะ จะเดินทางไปที่บ้านพักของ ประวิตร วงษ์สุวรรณ ใน ซ.ลาดพร้าว 71 เพื่อร่วมรดน้ำสงกรานต์
- จุดธูป 36 ดอกเพื่อดลให้เกิดสิ่งดีๆในปีนี้
- มอบพวงมาลัยนาฬิกาให้กับ ประวิตร วงษ์สุวรรณ
- สีซอให้ออเจ้า ประวิตร วงษ์สุวรรณ ฟังด้วยเพลง "ออเจ้าเอย"
หากใครสนใจเข้าร่วมรดน้ำในครั้งนี้ คุณสามารถเตรียมอุปกรณ์ เช่น ปืนฉีดน้ำ, ขันน้ำ, น้ำอบไทย และดินสอพอง มาร่วมงานนี้
.


เอกชัย หงส์กังวาน

ooo





“บัดซบ”

เช้าตรู่วันนี้ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบมากกว่า 10 คน ยกกำลังมาอุ้มตัวสองนักกิจกรรมคือ นายเอกชัย หงส์กังวาล และนายโชคชัย ไพบูลย์รัชตะ ที่บริเวณปากซอยลาดพร้าว 109 จากนั้นลากตัวบุคคลทั้งสองขึ้นรถโดยไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาหรือแสดงหมาย คลุมหัว ยึดโทรศัพท์ แล้วนำไปควบคุมตัวที่ บก.น. 4

สาเหตุที่สองนักกิจกรรมถูกอุ้ม เพราะผู้ใหญ่ไม่สบายใจและไม่ต้องการให้ไปทำกิจกรรมที่บ้านของพลเอกประวิตรที่ซอยลาดพร้าว 71 ซึ่งมีพิธีรดน้ำดำหัวเนื่องในโอกาสวันสงกรานต์ ผมเชื่อว่าการที่ตำรวจต้องยอมประพฤติตัวเป็นมาเฟียยกกำลังมาอุ้มสองนักกิจกรรมเพราะได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา แต่ผมก็เชื่ออีกเช่นกันว่าคงไม่มีผู้บังคับบัญชาคนใด “หน้าตัวผู้” พอที่จะออกมาแสดงความรับผิดชอบ ผู้บังคับบัญชาแบบนี้คงไม่มีถ้อยคำใดเหมาะสมไปกว่าคำว่า “บัดซบ” เพราะผลของคำสั่งอาจทำให้ลูกน้องต้องรับกรรมถูกดำเนินคดีอาญาในความผิดฐานทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309 และ 310

การกระทำของสองนักกิจกรรมเป็นการใช้เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ แต่ผู้รักษากฎหมายกลับเป็นฝ่ายกระทำความผิดเสียเอง ทั้งยังเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะที่รัฐบาลประกาศให้สิทธิมนุษยชนเป็นวาระแห่งชาติ ผมไม่คาดหวังจะเห็นการแสดงความรับผิดชอบจากรัฐบาลหรือบุคคลในรัฐบาลที่รับผิดชอบด้านความมั่นคง จึงขอเตือนสติเผื่ออาจจะผ่านเข้าไปในสมองได้บ้างว่า ทุกคนที่กินเงินเดือนจากภาษีของประชาชนเป็นบุคคลสาธารณะ หากไม่สบายใจหรือยอมรับการตรวจสอบจากประชาชนไม่ได้มีทางเดียวคือ “ออกไป” แล้วกลับไปอยู่บ้าน ผมรับรองว่าคนอย่างพวกคุณไม่มีราคาพอที่ประชาชนจะมาเสียเวลาด้วย นอกจากจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายบ้านเมืองที่จะเอาตัวมาดำเนินคดีที่ทำกรรมไว้กับประชาชน รักษาชีวิตไว้ให้ดีอย่ารีบหนีไปก่อนแล้วกัน

วัฒนา เมืองสุข
16 เมษายน 2561