เลือกตั้งน่ะฟันธงได้ว่ามาแน่ แต่
แต่ช้าแต่ น่าจะมาสายสัก ๒ ถึง ๔ เดือน จากที่เลื่อนครั้งที่ ๕ มาเป็นกุมภา ๖๒
ที่ต้องสายเพราะรอศาลรัฐธรรมนูญตีความร่างกฎหมาย ส.ส. และ ส.ว. นั่นข้ออ้าง
จริงๆ แล้วรอความพร้อมของพรรคใหม่ๆ พวก ‘ข้ารองบู๊ต’ ทั้งหลาย จึงเป็นอันว่าฝ่ายประชาธิปไตยที่กระสันต์
‘อยากเลือกตั้ง’ จะต้องรอกันอีก ๑
ปีนับแต่นี้ไป แก่อ่อน ๒ เดือน ประเด็นอยู่ที่ ‘ไหวไหม’
ในสภาพต่อไปนี้
ทางมหภาค สำนักบริหารหนี้สาธารณะ
แจ้งตัวเลขล่าสุดเมื่อปลายกุมภา ๖๑ ด้วยฝีไม้ลายมือ คสช. ที่ยำการคลังมาเกือบสี่ปี
เราได้หนี้สาธารณะคงค้างอยู่ที่ ๖.๔๖ ล้านล้านบาทไทย “คิดเป็น ๔๑.๓๔% ของจีดีพี เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ๒.๒๓ หมื่นล้านบาท”
สบน. อธิบายตัวเลขเหล่านั้นว่า เนื่องจากหนี้โดยรัฐบาล
คสช. เพิ่มขึ้นอีก ๑.๓๖ หมื่นล้าน เป็น ๕.๑๓ ล้านล้าน เพราะรัฐบาลตู่ไม่ ‘กู้อีจู้’ แต่กู้ดะมากกว่าเดิม ๒.๐๘ หมื่นล้าน
แล้วยังกู้เพื่อสร้างความเข้มแข็งยั่งยืน (กู้เอามาใส่คลังไว้ให้เต็ม) อีก ๒.๓๕
หมื่นล้าน ทั้งที่ตั๋วเงินคงคลังหดไปเพียง ๒ พัน ๖ ร้อยล้าน
คงจะเป็นเพราะคำเตือนของเวิร์ลด์แบ๊งค์ละมังว่า
เศรษฐกิจไทยโตต่ำสุดในหมู่ประเทศอาเซียน “ต้องระมัดระวังความเสี่ยงเรื่องการขาดดุลการคลัง”
เลยต้องกู้เข้ามาอุดช่องโหว่
หลังจากที่ธนาคารโลกคาดการไว้ตั้งแต่ ตุลา
๖๐ ว่าการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ปีนี้ (๖๑) ได้ ๓.๖ แต่ปีหน้า (๖๒) จะลดลงไปเหลือ ๓.๕
ซึ่งก็ยังเป็นความจริงแท้แน่เชียวไม่เสื่อมคลาย
ขณะที่สถานการณ์คอรัปชั่นยังบานตะไทไม่จืด
มีเรื่องใหม่ๆ โผล่มาให้เห็นไม่ขาด เช่น จากข่าวของ ‘MGROnline’ :“ตะลึง! ‘เขตกรุงเทพกลาง’ จ้างผู้รับเหมา ๑๐ ล้าน ๖ เดือนลอกท่อระบายน้ำ เสร็จแค่ ๑ ซอย จาก ๗๐๐
ซอย”
เพราะมันเป็นอย่างที่ @unclevid1 คอมเม้นต์ “อยู่มาสี่ปีเพื่อมาปราบโกง ไม่เคยวางระบบตรวจสอบ
มีแต่สื่อเข้าไปขุดคุ้ยถึงรู้ว่า ตรงนั้นโกง ตรงนี้...ส่อทุจริต...แล้วจะอยู่ต่อเพื่ออะไร?”
แม้แต่ชาวนาที่ คสช.อ้างนักอ้างหนาว่า ตรากตรำทำงบประมาณขาดดุลด้วยการกู้แหลกเอาไปหว่านให้
ตอนนี้ร้องจ๊าก “จะอดตายกันอยู่แล้ว ยิ่งช่วงนี้ใกล้เปิดเทอมโรงเรียน
จะเอาเงินที่ไหนไปให้ค่าเทอม ค่าไปซื้อหนังสือลูก”
นั่นก็เป็นเสียงบ่นจากชาวนาพิจิตร
ที่ราคาข้าวเปลือกหล่นเหลือตันละ ๓,๙๐๐ ถึง ๔,๕๐๐ บาทเท่านั้น นายสิน ทางาม
ผู้ใหญ่บ้านไผ่รอบเล่าว่าตนเองขายข้าวเปลือกได้ตันละ ๔ พัน แต่ลูกบ้านได้แค่ ๓,๙๐๐
ถูกกดราคาต้องยอม “ไม่ขายก็ไม่รู้จะเอาไปไว้ที่ไหน”
แต่ว่า
ราคาข้าวสารในท้องตลาดไม่ยักถูกกดบ้าง ดังที่ อชิ-กัน @BFood1717 ถาม “ข้าวสารถุง
๕ กิโล ราคา ๒๐๐ บาท อยากทราบว่ารัฐบาลจะมีวิธีแก้ไขกลไกลทางการตลาดอย่างไร เพื่อให้ชาวนาขายข้าวได้ราคาที่เหมาะสม
กับราคาข้าวสารที่ขายตามท้องตลาด”
ถามไปก็ไล้ฟ์บอย พวกลิ่วล้อ
คสช.ที่มีหน้าที่เรื่องเหล่านี้มัวแต่สาระวนเรื่องตั้งพรรคใหม่กันอยู่ ไม่รับรู้อะไรหรอก
รมว.พาณิชย์ก็มัวแต่ฝันหวานรอบริทิชกลับมาลงทุนอีอีซีเมื่อเสร็จเรื่องเบร็กสิท
(ดูข่าวการสนทนาระหว่างนายเลียม ฟ็อกซ์
ของสหราชอาณาจักร กับนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ของไทย ที่ http://www.komchadluek.net/news/economic/319592?re=)
น่าจะรู้นะว่า ‘เบร็กสิท’ ที่ลากถูลู่ถูกังมาหลายเดือนแล้วนี่
ถึงจะมีน้ำมีนวลบ้างตอนนี้ เสร็จแล้วอาจทำให้อังกฤษเฉาลงไปหนักกว่าเก่าอีกก็ได้
‘อียู’ นั่นสิที่ไทยควรจะพยายามคืนสัมพันธ์การค้าให้ได้
ข้อแม้ของเขาแค่กลับไปเป็นประชาธิปไตย มีรัฐบาลพลเรือนจากการเลือกตั้งเท่านั้น
พวกสลิ่มโลกสวยยังดึงดันขออยู่ใต้กะลากับพี่หมื่นต่อไป
ทั้งที่พวกนกหวีดเอง เดี๋ยวนี้อึดอัด
ฮึดฮัดกับ คสช. กันขรม ดูได้จากการเดินขบวนของพนักงานทีโอทีและกสท. เมื่อ ๓๐ มีนา
(ที่สื่อสายหลักพากันปิดปากสนิท) คัดค้านการแปรรูป ว่า “เป็นการเอื้อผลประโยชน์ต่อนักลงทุน
เหมือนเป็นการขายสมบัติชาติ...
ด้วยการจัดตั้งเป็นบริษัทโครงข่ายบอร์ดแบรนด์แห่งชาติ
(บริษัท NBN) และ
บริษัทโครงข่ายระหว่างประเทศ และศูนย์ข้อมูลอินเตอร์เน็ต (NGDC)”
มีการ “จัดแถวปล่อยรถจากแจ้งวัฒนะเย้ย
กม.ห้ามชุมนุมเกิน ๕ คน มีการเดินเท้าจากหน้ากระทรวงการคลังถึงทำเนียบรัฐบาล” แถมประกาศกร้าวเสียด้วยว่า
“ถ้าถูกจับ ไฟ-น้ำหยุด”
งานนี้ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ออกโรงสนับสนุนทันที
แต่พวก คสช. ยังนิ่ง สงสัยจะกลัวปาก ‘E-Thing’
ยังไม่หมด พวก
‘ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง’
ก็ฟึดฟัดกับ คสช.ด้วยเหมือนกัน รสนา โตสิตระกูล นักปฏิรูปพลังงานไม่สำเร็จเพราะหลงประเด็น
และตีผิดคน หันมาเล่นเรื่องค่างวดใบอนุญาตคลื่น ๔ จี
โวยว่า คสช. ใช้ ม.๔๔ ผ่อนผันให้บริษัทเอไอเอสและทรูจ่ายค่าดอกเพียง
๑.๕ เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่กับคนจนติดหนี้นอกระบบ ที่ให้ไปกู้จากธนาคารออมสิน
ด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ ๐.๘๕ ต่อเดือน ซึ่งเท่ากับเกือบ ๑๘.๘๓%
ต่อปี
“คนจนที่ควรได้รับการช่วยเหลือ
ก็ยังต้องจ่ายดอกเบี้ยประมาณ ๑๙% แล้วเหตุใดเราต้องช่วยเหลือคนรวยแบบเอาเนื้อหนูไปปะเนื้อช้างเช่นนี้”
รสนาว่า
นี่ละความชั่วร้าย เหลวแหลกของ
คสช.เป็นอย่างนี้ สมแล้วที่พวกคนรุ่นใหม่ฟื้นฟูประชาธิปไตย รังสิมันต์ จ่านิว โบว์ณัฏฐา
ทนายอานนท์ ฯลฯ เร่งเร้าให้ล้มเลิก คสช. และเลือกตั้งโดยเร็ว
ดูแล้วไม่มีทางไหนดีกว่านี้ จึงต้องช่วยพวกเขาดันต่อไปให้ถึงที่สุด