ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2558
ชั่วโมงนี้ แสงไฟการเมือง ทุกดวง ฉายจับไปที่ วันที่ 23 มกราคม วันที่ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ลงมติ ถอดถอน นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะ ไม่ว่าผล จะออกมาอย่างไร ย่อมส่งผลสะเทือนต่อการเมืองไทย
รูปแบบแรก คือ "ยิ่งลักษณ์รอด" นั่นคือ เสียงของสมาชิก สนช. ไม่ถึง 132 เสียง หรือไม่ถึง 3 ใน 5 นางสาวยิ่งลักษณ์ ไม่ถูกถอนถอน ไม่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี เป็นแนวทางแห่งการ สร้างบรรยากาศปรองดอง และประนีประนอม ระหว่างระบอบทักษิณกับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาและคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือ คสช. แต่แนวทางนี้ จะเกิดคำถามใหญ่ที่"บิ๊กตู่"จะต้องตอบสังคมให้ได้ คือ ตกลงแล้ว "รัฐประหารเสียของ" ใช่ไหม หรือ แรงกว่านั้นคือ นี่คือการเกี้ยเซียะ ของขั้วอำนาจ ใช่หรือไม่ ?
รูปแบบที่สอง คือ "ยิ่งลักษณ์ไม่รอด" โดย สนช. กลุ่ม 40 สว. ใช้ความช่ำชองในสภา ล็อบบี้ สนช. สายตำรวจ สายข้าราชการประจำ สายนักวิชาการ สายนักธุรกิจ ตุนเสียงได้ 100 เสียง และเดินหน้า ล็อบบี้จาก สนช.จากสายทหาร ที่มีอยู่กว่า 100 เสียง ขอแค่เพียง 32 เสียง รวมกันได้ถึง 132 เสียง ถ้าทำได้สำเร็จ ยิ่งลักษณ์ก็จบเห่ ทันที
ถ้ามองผ่านเกมของ สนช. ฝ่ายที่ต้องการถอดถอนยิ่งลักษณ์ จะพบว่า 132 เสียง ไม่ใช่เรื่อง ยากเกินไป เพราะย้อนกลับไปในช่วงการรับหรือไม่รับคดีจำนำข้าว เสียงให้รับคดี 85 คะแนน ไม่รับคดี 75 ห่างกันไม่มาก
เหตุผลหลักคือ สนช.สายทหาร ติดภารกิจกฐินพระราชทาน ครั้งนั้น ฝ่ายยิ่งลักษณ์ นอนใจ เชื่อว่า รอดแน่ เพราะ 85 เสียงห่างจาก 132 ค่อนข้างมาก แต่ในเกมช็อตต่อมา ในเกม บีบให้ ยิ่งลักษณ์ ต้องมาตอบคำถามด้วยตนเองใน สนช. มติที่ประชุมลับ เพิ่มเป็น 153 ต่อ 1 เสียง เห็นชอบให้ดำเนินการสอบถามต่อไป นี่คือ ตัวเลขที่พุ่งขึ้นจนฝ่ายยิ่งลักษณ์นอนไม่หลับ
ฉะนั้นแล้ว การพบปะสังสรรค์ของ สมาชิก สนช. ที่สโมสรกองทัพบก เทเวศน์ ก่อนการลงมติลับ ในช่วงค่ำวันที่ 22 มกราคม ย่อมถูกจับตามองว่าเป็น เกมล็อบบี้ หยั่งเสียง ครั้งสุดท้ายว่าเสียงจะถึง 132 เสียงหรือไม่ และดินเนอร์ครั้งนี้ ห้ามสื่อเข้าไปทำข่าวเด็ดขาด
แต่เอาเข้าจริง แม้ไม่ต้องรอผลมติลับ ถอดถอนหรือไม่ถอนถอน ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทั้งนายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย และนายจตุพร พรหมพันธ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ต่างฟันธง ตรงกันว่า ยิ่งลักษณ์ รอดยาก
ทั้งนี้ อาจเห็นได้จาก ความ"บังเอิญ"ของ คณะกรรมการป้องกันและปราบการการทุจริตแห่งชาติหรือ ป.ป.ช. ในการเลือกฟัน นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และพวก ในคดีทุจริตขายข้าวระหว่างรัฐ หรือ จีทูจี เพียง 2 วันก่อน สนช. นัดลงมติลับ ถอดถอน ยิ่งลักษณ์ นับเป็นความบังเอิญ ที่ดูคล้ายความจงใจ
ฉะนั้น โอกาส รอดของ อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ในวันที่ 23 มกราคม จึงริบหรี่ ยิ่งนัก