
'ปราย พันแสง
Yesterday
·
ขนลุกไปเลยสิ ตอนเช้าพรรคเพื่อไทยส่งฟ้องศาลรัฐธรรมนูญ ตอนบ่ายคุณหญิงส่งช่อดอกไม้ร่วมยินดีไปให้
แยกเวลา แยกศัตรู แยกมิตร
โคตรของ Strategic grace ไทยๆ
กลยุทธ์แบบเซียนเหยียบเมฆไร้ร่องรอย
ไม่ใช่ทุกคนจะทำได้
ปกติมนุษย์มนาแล้ว
ช่อดอกไม้คือสื่อแทนใจคือไมตรี
มันไม่มีใครส่งดอกไม้ราคาแพงไปให้ใคร
โดยที่ในใจไม่คิดไม่รู้สึกอะไรเลยหรอก
โดยเฉพาะช่อดอกไม้จากคุณหญิงพจมาน
ในสถานการณ์การเมืองแบบนี้
น่าจะผ่านการคิดมาเยอะมาก

วันนี้ทุกสื่อตีข่าว คุณอนุทิน ชาญวีรกูล ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกฯ คนที่ 32 เป็นการเริ่มทำงานของรัฐบาลใหม่อย่างเป็นทางการ ท่ามกลางผู้คนมากมายร่วมแสดงความยินดีคับคั่ง
ในท่ามกลางความชื่นมื่นนั้น มีช่อดอกไม้ขนาดใหญ่ท่วมหัวของ‘คุณหญิงอ้อ’พจมาน ดามาพงศ์ส่งมาร่วมยินดีด้วย สื่อพากันถ่ายรูปมาลงพรึ่บพรั่บ
The Standard เคยเรียกคุณหญิงอ้อว่าเป็น The Prime Minister-Maker หมายถึงผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างหรือสนับสนุนให้คนขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี ตำแหน่งสูงสุดในระบบนิเวศน์การเมืองหลายคน ไม่ว่าจะเป็นคุณทักษิณ ชินวัตร,คุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์,คุณเศรษฐา ทวีสินรวมถึงนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ลูกสาวของเธอเอง คุณแพทองธาร ชินวัตร
ฉายานี้บอกถึงมุมมองสื่อที่เห็นว่าคุณหญิงอ้อมีอิทธิพลและบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางการเมืองของตระกูลชินวัตรและพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างมาก
เอาจริงแล้ว แม้แต่คุณอนุทิน นายกฯ คนใหม่แกะกล่องวันนี้ คุณหญิงอ้อก็ถือว่ามีส่วนได้ “สร้าง” ขึ้นมาด้วยเช่นกัน การจะส่งดอกไม้ไปร่วมยินดีวันนีัจึงไม่ใช่เรื่องแปลก

ความสัมพันธ์ระหว่างคุณอนุทิน ชาญวีรกูล กับตระกูลชินวัตร โดยเฉพาะกับคุณทักษิณ, คุณยิ่งลักษณ์ รวมถึงคุณแพทองธาร“อดีตนายกฯ”หมาดๆ นี้เป็นความสัมพันธ์ทางการเมืองที่ซับซ้อน
มีทั้งช่วงเวลาที่หวานชื่นเป็นพันธมิตร
และช่วงเวลาที่ขัดแย้งไล่ล่า
ในอดีต คุณอนุทินเคยเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทย ซึ่งก่อตั้งและนำโดยคุณทักษิณ โดยในช่วงปี 2547-2549 คุณอนุทินดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขในรัฐบาลของคุณทักษิณด้วย
นอกจากนี้ คุณอนุทินยังเคยเป็นผู้ประสานให้คุณทักษิณพบปะกับพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน (ผู้นำรัฐประหารปี 2549 ที่โค่นคุณทักษิณ) ในต่างประเทศราวปี 2555 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ยังคงมีอยู่ในระดับหนึ่งแม้หลังรัฐประหาร
หลังพรรคไทยรักไทยถูกยุบในปี 2550 คุณอนุทินถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี แต่ต่อมาพรรคภูมิใจไทยมีสมาชิกจำนวนมาก (ราว 80%) ที่มาจากอดีตสมาชิกพรรคไทยรักไทยหรือเครือข่ายตระกูลชินวัตร ซึ่งคุณอนุทินเคยกล่าวถึงความสัมพันธ์นี้ในปี 2566 ว่าเป็นทั้งระดับส่วนตัวและทางการเมือง
ในปี 2562 หลังเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยเคยเสนอชื่อคุณอนุทินเป็นแคนดิเดตนายกฯ ในแนวร่วมฝ่ายค้าน แม้สุดท้ายจะไม่เกิดขึ้นจริง

หลังเลือกตั้งปี 2566 พรรคภูมิใจไทยเข้าร่วมรัฐบาลผสมกับพรรคเพื่อไทย นำโดยคุณแพทองธาร คุณอนุทินดำรงตำแหน่งรองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยตั้งแต่ปี 2566 จนถึงมิถุนายน 2568
การร่วมงานไม่ราบรื่น มีความขัดแย้งเรื่องนโยบาย เช่น พรรคเพื่อไทยต่อต้านการใช้กัญชาเพื่อสันทนาการ (ซึ่งเป็นนโยบายหลักของพรรคภูมิใจไทย) รวมถึงนโยบายปราบแก๊งคอลเซนเตอร์ในการดูแลของกระทรวงมหาดไทยที่คุณอนุทินคุมอยู่ทำงานล่าช้า จนคุณอุ๊งอิ๊งบ่นผ่านสื่อว่าสั่งแล้วสั่งอีกก็ยังไม่ทำ
วงการเมืองรับรู้ทั่วกันว่ามีรอยร้าวเกิดขึ้นแล้ว จนในเดือนมิถุนายน 2568 หลังมีคลิปเสียงหลุดระหว่างคุณแพทองธารกับสมเด็จฮุนเซน รัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทยลาออก และพรรคถอนตัวจากรัฐบาลผสม ทำให้รัฐบาลเพื่อไทยเหลือเสียงข้างมากแบบฉิวเฉียด
คุณอนุทินให้สัมภาษณ์ว่าความสัมพันธ์กับคุณทักษิณ “ไม่เหมือนเดิม” แล้ว เพราะหาก “รักกันจริง” คุณทักษิณคงไม่ยึดคืนเก้าอี้รัฐมนตรีมหาดไทย ซึ่งเป็นตำแหน่งสำคัญของเขาและตอนนั้นพรรคภูมิใจไทยเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล นอกจากนี้ คุณอนุทินยังเคยปกป้องความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลชินวัตรกับฮุนเซน โดยยืนยันว่าจะยังไงก็ไม่มีทางเหนือกว่าอธิปไตยชาติ

หลังศาลรัฐธรรมนูญสั่งถอดถอนคุณแพทองธาร จากตำแหน่งนายกฯ เมื่อ 29 สิงหาคม 2568 ด้วยข้อหาผิดจริยธรรม คุณอนุทินแข่งขันชิงตำแหน่งนายกฯ กับนายชัยเกษม นิติสิริ จากพรรคเพื่อไทย และได้รับเลือกจากรัฐสภาเมื่อ 5 กันยายน 2568 ด้วยคะแนนท่วมท้น โดยได้รับการสนับสนุนจากพรรคประชาชน และกลุ่มอำนาจเก่า ทำให้พรรคภูมิใจไทยกลายเป็นแกนนำรัฐบาล เป็นการยุติอิทธิพลของตระกูลชินวัตรและตัวคุณอนุทินก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งนายกฯรัฐมนตรีแทนอย่างที่เห็นกันในวันนี้

การที่คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์
ส่งดอกไม้ช่อใหญ่ไปร่วมแสดงความยินดี
กับคุณอนุทินในวันนี้
แสดงให้เห็นถึงการเล่น‘การเมือง’
ที่่โคตรจะชาญฉลาด
คุณหญิงอ้อมีประสบการณ์ผ่านมิตรผ่านศัตรู
ในแวดวงการเมืองไทยมายาวนาน
จึงรู้จักรักษาสัมพันธ์และเปิดประตู
สำหรับการเจรจาในอนาคต
แม้ในสถานการณ์ที่ตนเองเสียเปรียบ
อย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้
ช่อดอกไม้ของคุณหญิงอ้อ
จึงเป็นตัวแทนของ political sophistication
ความซับซ้อนทางการเมือง
ที่ต้องใช้ทั้งสติปัญญาที่ลุ่มลึก
และจิตใจที่แข็งแกร่งมาก

การกระทำแบบนี้แสดงถึงระดับของความฉลาดทางอารมณ์ที่สูงมาก มันเป็นความแกร่งที่ต้องใช้สติกำกับอารมณ์อย่างยิ่งยวด ไม่ให้ความขมขื่นหรือความโกรธครอบงำ
มันผ่านคิดระยะยาว มองเกมใหญ่แทนที่จะติดอยู่กับความเจ็บปวดชั่วขณะ เป็นยอมรับสภาพความจริง รับรู้สถานการณ์ใหม่โดยไม่ปฏิเสธหรือต่อต้าน เป็นการปรับตัว เปลี่ยนกลยุทธ์ให้เหมาะกับสถานการณ์ได้อย่างยอดเยี่ยมน่าศึกษาอย่างยิ่ง
’ปัญญา’ที่ซ่อนอยู่ในช่อดอกไม้นี้ บอกให้เรารู้ว่าการแสดงความขัดแย้งจะไม่ช่วยอะไร เป็นความเข้าใจว่าการรักษาสัมพันธ์เป็นการลงทุนระยะยาว เห็นภาพใหญ่ที่ว่าการเมืองเป็นเกมที่ยาวนาน มีขึ้นมีลงเป็นปกติวิสัย
คุณหญิงพจมานแสดงให้เห็นว่าเธอเป็น “grandmaster” ในเกมการเมือง รู้จักเสียเล็กเพื่อได้ใหญ่ รู้จักถอยเพื่อจะได้เดินหน้าในเวลาที่เหมาะสม
นี่คือเหตุผลสำคัญที่เธอได้รับสมญานามเรียกว่า “The Prime Minister-Maker”เพราะเธอเล่นเกมนี้ด้วยสติปัญญาและความยาวไกล ไม่ใช่แค่อารมณ์ชั่วขณะ
การกระทำครั้งนี้อาจดูเป็นแค่การส่งดอกไม้
แต่จริงๆ แล้วเป็นการแสดงพลังที่จริงแท้
นั่นคือพลังของการควบคุมตัวเองยิ่งยวด
พลังจากการมองการณ์ไกล
สำหรับเกมที่ดูท่าว่าจะไปต่ออีกยาวๆ

นี่คือตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด
ของ political genius
ที่เรียกได้ว่าเป็น “masterclass”
ในการเล่นการเมืองระดับสูงสุด!
ก็อย่างที่บอก ช่วงเช้าพรรคเพื่อไทยยื่นฟ้องร้องคุณอนุทิน ช่วงบ่ายคุณหญิงอ้อส่งดอกไม้แสดงความยินดี ดูดีๆ เราจะเห็นเลยว่านี่คือการแยกระดับการเล่น
เลเวล 1 คือพรรคการเมือง ต้องทำหน้าที่ต่อสู้ป้องกันผลประโยชน์ ฟ้องร้องเมื่อเห็นว่าผิดกฎหมาย
เลเวล 2 เป็นระดับครอบครัวหรือส่วนบุคคล คุณหญิงพจมานเล่นในระดับที่สูงกว่า เธอมองเห็น big picture ที่ว่าการเมืองมีขึ้นมีลง แต่ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลสำคัญกว่า
ช่อดอกไม้นี้ส่งสัญญาณว่า “เรื่องของพรรคเป็นเรื่องของพรรค แต่ในระดับส่วนตัวเราไม่มีปัญหาใดต่อกัน”เป็นการเปิดช่องทางสำหรับการเจรจาในอนาคต
แสดงให้เห็นว่าเธอเล่นเกมในระดับที่สูงกว่าการต่อสู้แบบผิวเผิน ความหมายที่ซ่อนอยู่ก็คือ“พรรคจะฟ้องร้องก็ฟ้องไป แต่เรายังเคารพกันในฐานะนักการเมือง และพร้อมทำงานร่วมกันเมื่อเวลาเหมาะสม”

ในแวดวงการเมือง ธุรกิจ หรือการงานใดๆ เวลาใครพูดถึงกลยุทธ์ระดับสูง มักจะมีการพ่วงคำว่า “กุนซือ” หรือที่ปรึกษามากประสบการณ์คอยชี้ช่องให้
แต่สำหรับคุณหญิงพจมาน ช่อดอกไม้ของเธออาจจะไม่ได้มาจากกุนซือไหน แต่อาจจะเป็น innate wisdom ที่แท้จริงของเธอก็ได้
มันอาจจะเป็น‘ปัญญา‘ที่หล่อหลอมมาจากประสบการณ์ชีวิตยาวนาน บุคลิกภาพส่วนลึก และการเรียนรู้จากการผ่านร้อนผ่านหนาวมากมาย
ทำไมเราจึงคิดว่ามันมาจาก wisdom หรือสติปัญญาของเธอเองรู้มั้ย นั่นเพราะเราคิดว่า มันคงไม่มีกุนซือคนไหนกล้าแนะให้นางพญาของนายใหญ่ส่งดอกไม้ไปแสดงความยินดีกับคนที่เพิ่งโค่นล้มตัวเองจนเจ็บสาหัสขนาดนี้หรอก คงไม่มี

การทำอะไรแบบนี้
มันเป็นการตัดสินใจที่ต้องใช้ intuition
มากกว่าการคำนวณแบบคณิตศาสตร์
มันเป็นเรื่องของ “ความรู้สึก” ว่าควรทำ
มันสอดคล้องกับบุคลิกเธอ
ที่มีคนมักจะพูดกันว่า
“นิ่ง แต่เด็ดเดี่ยว”
นี่เป็นระดับของ emotional mastery
ที่ไม่สามารถสอนกันได้
มันต้องมาจากข้างในเท่านั้น
คุณหญิงพจมานเคยผ่านร้อนหนาวมาหลายทศวรรษแล้ว จากสตรีหมายเลข 1 ภรรยานายกฯ มาเป็นคนต้องรับมือกับรัฐประหาร การหย่าร้าง การถูกฟ้องร้อง การลี้ภัย มันมาจากความผิดพลาดบอบช้ำครั้งแล้วครั้งเล่า
ความเจ็บปวดและการเรียนรู้เหล่านี้
คงหล่อหลอมให้เธอเข้าอกเข้าใจ
ธรรมชาติของการเมืองไทยในระดับที่ลึกมาก
รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญ
อะไรเป็นแค่เสียงรบกวน
การส่งช่อดอกไม้ครั้งนี้
จึงเป็นการแสดงออก
ของสติ ของภูมิปัญญาสั่งสม
ที่น่าจะมาจากตัวของเธอเอง
ไม่ใช่จากคำแนะนำจากกุนซือ
ไม่ใช่จากคู่มือการเมืองเล่มไหน
มันคงมาจากหัวใจ มาจากประสบการณ์
มาจากการผ่านร้อนผ่านหนาว
รวมถึงความเจ็บปวดบอบช้ำ
จากความผิดพลาดครั้งแล้วครั้งเล่า
…ล้วนๆ
ตัวเธอเองที่เคยบอกว่าไม่อยากเล่นการเมืองเลย
อยากใช้ชีวิตคนรวย สบายๆ มาตลอด
ถึงตอนนี้คุณหญิงพจมานเองก็อาจจะยังงงไม่หาย
ว่าคุณทักษิณจะพลาดอะไรซ้ำซากได้ขนาดนี้


ปกติมนุษย์มนาแล้ว
มันไม่มีใครส่งดอกไม้ราคาแพงไปให้ใคร
โดยที่ในใจไม่คิดไม่รู้สึกอะไรเลยหรอก
โดยเฉพาะช่อดอกไม้จากคุณหญิงพจมาน
ที่เพิ่งเจอสภาพนายกฯ ลูกสาวเก้าอี้หลุด
ทักษิณโฉบขึ้นเครื่องบินหายตัวไปเมืองนอกอีกรอบ
ปล่อยพรรคเพื่อไทยระส่ำ
เหมือนใกล้แตกสาแหรกขาดแบบนี้
คุณหญิงพจมานต้องรับมือความผันผวน
ต้องปรับท่าทีขนาดว่าเช้าแบบหนึ่ง
บ่ายอีกแบบหนึ่งลักษณะนี้
ดอกไม้ช่อใหญ่ราคาแพงช่อนี้
มันน่าจะต้องผ่านกระบวนการคิดมาเยอะมาก
ในฐานะประชาชนคนไทย
ดอกไม้ช่อนี้มันอาจจะพลิกชะตาเรา
พลิกการเมืองเราได้อีกรอบ
หากเพื่อไทยและภูมิใจไทยกลับมาคุยกันใหม่
หวานชื่น เป็นพันธมิตรต่อกันได้อีก
ก็อย่างที่พวกเรารู้กัน
ในระบบการเมืองไทยมันเอาแน่เอานอนไม่ได้
จะไว้ใจคำมั่นสัญญาอะไรใครก็ไม่ได้หรอก
ทุกคนรู้ดีว่า‘ดีลใหม่‘มันเกิดขี้นได้ตลอด
และอาจจะเริ่มต้นจากดอกไม้ช่อนี้
ก็เป็นได้…
https://www.facebook.com/photo?fbid=1353515112800214&set=a.1046212803530448