‘ครูไหม’ ได้ยินแล้วเซ็ง ดร.เผ่าภูมิ ‘แถ’ ตาบอดตาใสไม่รู้จำ พูดออกมาได้ “ข้อมูลโบราณ” เรื่องกระสุนด้านแจกเงินดิจิตอล “บิดกันได้ขนาดนี้ ดัชนีบริโภคไม่ดู แล้วคุณดูตัวไหน เฉพาะตัวที่มันขึ้น คือ VAT เท่านั้นเหรอ”
ไหนลองเทียบปีต่อปีดูซิ ศิริกัญญา ตันสกุล เลยต้องทบทวนเศรษฐศาสตร์มหภาค ๑๐๑ ให้นักลองผิดลองถูกยัดใส่ที่รองผม เอาละ “เรามาดูไปพร้อมกันทีละตัว” นะ
คือ ๑.ดัชนีการบริโภคภาคเอกชน ตัวรวม ไม่ต้องปรับฤดูกาลก็ได้ เธอว่า “ของจริงน่ากลัวกว่ากราฟชีพจรคนตายอีก” ให้ดูการเจริญเติบโตเทียบกับเดือนเดียวกันของปี ๖๗ “ตั้งแต่ มกรา ๖๖ ถึงสิงหา ๖๗ เคยโตเฉลี่ย ๕%” แล้วไง
“หลังแจก (เงินดิจิตอล) โตเฉลี่ยที่ ๐% พี้คสุดๆ เดือนธันวา ๖๗ ยังไม่เท่าช่วงเมษา เลย” เธอก็บอกแล้ว “ไม่อยากให้ดูตัวนี้ เพราะมันรวมนักท่องเที่ยว รวมยอดขายรถซึ่งมันไม่แฟร์กับเค้า ให้ไปดูไส้ในดีกว่า” ก็ยั้งดันทุรังจนได้
งั้นไปดูต่ออีกเสียเลย ตัว ‘ดัชนีการบริโภคสินค้าไม่คงทน’ ครูไหมว่าตอนที่สำนักงานสถิติสำรวจ พบ “คนตอบว่าเอาไปใช้ซื้อของพวกนี้มากที่สุด อาหาร ของสด ของใช้ในบ้าน ปรากฏว่าก่อนแจกเฉลี่ยโต ๓% หลังแจกโต ๒%”
สะใจไหมน้องเผ่าภูมิ ครั้นพอถึงเรื่อง ‘ดัชนีสินค้ากึ่งคงทน’ ของใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อย ประเภทเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดย่อม กระเตื้องขึ้นมาหน่อย “ก่อนแจกโตเฉลี่ย ๐% หลังแจก (ก็ยังเหมือนกัน) โต ๐%”
พอเป็น ‘ดัชนีสินค้าคงทน’ เช่นรถยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ เธอว่า “เราอุตส่าห์ยกประโยชน์ให้ เพราะปัญหายอดขายรถยนต์ตกต่ำมันจะถ่วงให้ดัชนีต่ำ” ตามไปด้วย แต่ถ้าจะเอาก็ได้ นี่ไง “ก่อนแจกโตเฉลี่ยติดลบ ๓% หลังแจก -๑๔%”
ยังไม่สะใจ เอา ‘ดัชนีภาคบริการ’ ด้วยก็ได้ ครูไหมให้เบื้องหลังอีกเหมือนกันว่า ที่ไม่เอามาเอ่ยถึงแต่แรก “เพราะมันมีผลจากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย ช่วงไฮซีซั่นปีที่แล้วพอดี” แต่ก็เนอะ “สภาพ...
ก่อนแจกโตเฉลี่ย ๑๓% หลังแจกโต ๗%” ตานี้รอดูสิว่าจะเถือกไม่ต้องถือ (แถน) กันต่อไปยังไง