วันศุกร์, พฤศจิกายน 14, 2568

เดือดกลาง กมธ. “บิ๊กโจ๊ก” พา “พิมพ์วิไล” แฉส่วยเว็บพนัน ตร.พัวพัน 280–290 นาย เงินไหลถึงอดีต ผบ.ตร. ด้าน “ไตรรงค์” โต้กลับ ตร. 3 นายถูกลงโทษแล้ว





https://x.com/onenews31/status/1988903729425445102

“บิ๊กโจ๊ก” พา “พิมพ์วิไล” แฉส่วยเว็บพนัน ตร.พัวพัน 280–290 นาย!



13 พ.ย. 2568
PPTV

เดือดกลาง กมธ. “บิ๊กโจ๊ก” พา “พิมพ์วิไล” แฉส่วยเว็บพนัน ตร.พัวพัน 280–290 นาย เงินไหลถึงอดีต ผบ.ตร. ด้าน “ไตรรงค์” โต้กลับ ตร. 3 นายถูกลงโทษแล้ว

ที่ประชุมคณะกรรมาธิการ ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ 100 ซึ่งได้เชิญ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลืออาชญากรรม ให้ข้อมูลเรื่องเส้นทางการเงินกลุ่มเว็บพนัน และแสกมเมอร์ ทางกมธ. ได้เชิญนายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา พรรคกล้าธรรม และนายสมยศ พลายด้วง สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ มาให้ข้อมูลด้วยแต่แจ้งว่าติดภารกิจ


พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ข้อมูล กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้ข้อมูลว่า ตนได้ยื่นหนังสือร้องเรียนเกี่ยวกับเว็ปพนันออนไลน์ให้กับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น มากว่า 1 ปี แต่ไม่มีความคืบหน้าตรวจสอบ ต่อมา พลตำรวจเอก เอก อังสนานนท์ ออกมาต่อว่า ไม่นำข้อมูลมาให้ จนกระทั้งมีการตั้งคณะกรรมการสอบในเดือนตุลาคม 2568 ซึ่งคนละห้วงเวลา ทั้งที่ ผบ.ตร. อยู่คณะกรรมการตำรวจที่ต้องรับทราบเรื่อง โดยพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้แสดงเอกสารหลักฐานการโอนเงินเข้าบัญชีคนใกล้ชิด ของพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล อดีต ผบ.ตร. ซึ่งตามหลักต้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบของสำนักนายกรัฐมนตรี แต่กลับให้มีกระบวนการตรวจสอบกันเอง

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า วันนี้มีตำรวจกับพวกที่เกี่ยวข้องกับเว็ปพนันออนไลน์ 230 กว่าคน รวมถึง ผบ.ตร. และมีตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้องเพิ่มอีก รวม 280-290 คน เรียกว่าเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งตนไม่ยอมให้ ตร.200 กว่านายทำลาย ตร. 2 แสนนาย ซึ่ง ตร.ที่เกี่ยวข้องอยู่ในสังกัด บช.สอท.

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ขอนายรังสิมันต์ โรม ประธาน กมธ. เพื่อซักถาม น.ส.พิมพ์วิไล ในที่ประชุมว่า ได้มีการโอนเงินเข้าบัญชีตำรวจ และนักการเมือง โดยได้อ่านรายชื่อตำรวจตั้งแต่ระดับผู้กำกับการสืบสวน รองผู้บังคับการ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง รองผู้บัญชาการภาค รองสารวัตรสืบสวน รองสารวัตรทางหลวง

ด้าน น.ส.พิมพ์วิไล ชี้แจงว่า “หลังจากถูกจับกุมวันที่ 5 พ.ค. ได้สอบถามคนที่ว่าจ้างตนให้โอนเงินจนทราบว่า เงินที่โอนให้ตำรวจและที่ต่างๆเป็นเงินผิดกฎหมาย จากเว็ปพนันออนไลน์ เป็นส่วยที่ส่งให้ตำรวจทั้งหมด เป็นส่วยเว็บพนันออนไลน์”

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ตำรวจชุด PCT 4 ภายใต้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ เป็นหัวหน้าชุด พบว่ามีการโอนเงินไปด้วย ซึ่ง น.ส.พิมพ์วิไล กล่าวว่า คนที่ว่าจ้างให้ตนติดต่อกับ ตร.ที่จะมาเรีบกเก็บเงินในทุกวันที่ 5 และ 10 ของเดือน ซึ่งทราบว่าเป็นตำรวจ PCT4 โดยโอนไปให้รองกาโม่ ซึ่งตนได้แจ้งความที่ สภ.เตาปูน และ สภ.หาดใหญ่ เพราะว่าตนเป็นเพียงคนโอนเงินและทำบัญชีแต่ถูกจับกุม รู้สึกไม่ได้รับเป็นธรรม ตนไม่ทราบมาก่อน มาทราบทีหลัง จึงได้ร้องเรียนว่า โอนเงินให้ตำรวจแต่ถูดจับกุม


น.ส.พิมพ์วิไล ให้ข้อมูล กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ ปมส่วยเว็บพนัน

หลังจากนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้สอบถามต่อว่า น.ส.พิมพ์วิไล โอนเงินให้นักการเมืองท้องถิ่นที่หาดใหญ่ และโอนเงินให้บัญชีม้าของดาบยาว รวมไปถึงโอนเงินให้คนใกล้ชิด พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ จำนวน 38 ครั้ง มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท และ มีเงินเข้าบัญชีนายเวรของพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และตำรวจ และโอนเงินให้นายสมยศ พลายด้วง สส.สงขลาพรรคประชาธิปัตย์ จำนวน 4 แสนบาท ซึ่งในเส้นเงินมีพบว่ามีการโอนเงินไปมา และโอนกลับจากนาย ชนนพัฒฐ์ สส.สงขลา พรรคกล้าธรรม ให้ น.ส.พิมพ์วิไลด้วย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จึงตั้งคำถามว่าทุกเส้นเป็นการโอนออก แต่มีเส้นเงินของนายชนนพัฒฐ์ โอนกลับมาที่ น.ส.พิมพ์วิไลเพราะอะไร ซึ่ง น.ส.พิมพ์วิไล ตอบว่า ตนไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร

ด้าน พลตำรวจโทไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองจเรตำรวจแห่งชาติ ได้สอบถาม น.ส.พิมพ์วิไลว่า ได้ทำการโอนเงินให้ ตร.ปีใด ซึ่งน.ส.พิมพ์วิไลกล่าวว่า ปี 2565-2566 ถูกจับในปี 2566 ทราบชื่อผู้ว่าจ้าง ชื่อขวัญ ไม่ทราบชื่อจริง-นามสกุล

พลตำรวจโทไตรรงค์ กล่าวว่า ตร.ชื่อกาโม่เป็นการกล่าวอ้างโดยคนชื่อขวัญ และหากดูชาร์ทเส้นทางเงินนี้ ได้ดำเนินคดีแล้วที่ สภ.คอหงษ์ โดยผู้กำกับ สภ.สงขลา พบว่า บัญชี น.ส.อาซีซะห์ และ น.ส.ธันยพร เชื่อมไปที่บัญชีกนกพร โอนต่อให้ตำรวจ 3 นาย เป็น ด.ต.1นาย สังกัดตำรวจนครบาล และ พ.ต.ต. 1นาย พ.ต.อ.1นาย ซึ่งได้ออกหมายจับ 2 นาย และดำเนินการลงโทษไปแล้ว 1 นาย พลตำรวจโทไตรรงค์ ยืนยันว่า ตร.ทั้ง 3 นายไม่ใช่ลูกน้องในชุด PCT 4 ของตน

ซึ่งคดีดังกล่าวได้ดำเนินคดีไปแล้ว โดยเส้นเงินทั้งหมดได้รวบรวมในรายงานของพนักงานสอบสวน สภ.คอหงษ์ ส่งให้กับ ป.ป.ช. ได้รับเรื่องไปแล้วปี 2567 เส้นเงินนี้ได้เชื่อมโยงไปที่อดีต ผบ.ตร. ส่วนรองกาโม่ เป็นชื่อที่อ้างกล่าวขึ้นมา ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง ยืนยันว่า ตร.ที่ถูกออกหมายจับ 3 นายในคดีนี้ไม่อยู่ในชุด PCT 4

อย่างไรก็ตามพล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ยังกล่าวอีกว่าอยากให้ กมธ.แจ้งไปยังผู้บัญชาการคณะกรรมการข้าราชการตรวจ (ก.ตร.) และส่งเรื่องที่ชี้มูลไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะได้นำเรื่องไปประกอบสำนวนการสอบสวน รวมถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อให้ยึดอายัดทรัพย์นายตำรวจทั้งหมดที่รับเงินจากเว็บพนัน และส่งเรื่องไปยังกรมสรรพากร เพื่อตรวจสอบการเสียภาษีย้อนหลังทั้งหมดของตำรวจที่รับเงินจากเว็บพนัน



ด้าน พล.ต.อ. กรไชย คล้ายคลึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้แทนนายกรัฐมนตรีและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้ดำเนินการอย่างจริงจังต่อผู้ถูกร้องเรียน กระทำผิดจริยธรรมร้ายแรง เพื่อรักษามาตรฐานจริยธรรมองค์กรตำรวจ สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ภายใต้กฎหมายตำรวจ

จากนั้น พ.ต.อ.สุธีเอี่ยม เจริญยิ่ง รองผู้บังคับการตรวจสอบทะเบียนประวัติ ชี้แจงถึงกรณีการดำเนินการทางวินัยและดำเนินคดีอาญาของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์และพวก รวม 33 นาย การดำเนินคดีอาญาได้มีการส่งสำนวนคดีที่ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ มาร้องไปยัง ป.ป.ช. ส่วนการดำเนินการทางวินัยของอดีต ผบ.ตร. อำนาจการดำเนินการทางวินัยจะเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งกรณีนี้ต้องแยกการดำเนินการออกเป็น 2 ส่วน ในกรณีของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งออกมาแล้ว เมื่อ 6 มี.ค. 2568 ว่าให้ ผบ.ตร.ดำเนินการตามมาตรา 117 ของ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 โดยได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง 9 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนดำเนินการ ส่วนตำรวจอื่นๆ อีก 24 นาย ผบ.ตร.ก็ได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการอีกชุด จำนวน 7 คน เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 2568 ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการและยังไม่เสร็จสิ้น เพราะพยานปากสำคัญไม่เคยมาให้การเลย

ด้านนายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรคประชาชน ถามว่า ตำรวจคนอื่น 24 นาย ได้มีกลไกที่จะนำตำรวจเหล่านี้ออกจากกระบวนการก่อนหรือไม่ ซึ่ง พ.ต.อ.สุธีเอี่ยม กล่าวว่า ขณะนี้เป็นการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ไม่ใช่คณะกรรมการสอบสวน ทำให้ตำรวจที่อยู่ในคำร้องจำเป็นต้องพักราชการ เพราะไม่ได้เข้าข่ายหลักเกณฑ์การพักราชการ ซึ่งกรอบระยะเวลาไม่ได้มีการระบุชัดเจน แต่จะมีการเร่งรัดอยู่เรื่อยๆ ที่ผ่านมาได้ขยายเวลาในการตรวจสอบมาโดยตลอด

ขณะที่ พล.ต.อ.สุรเชษษฐ์ ถามว่า กรณีของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์และคณะมีการโอนเงินจากเว็บพนันเข้าบัญชีเงินเดือน ทำไมถึงไม่มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง เพราะเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งผิดไปจากกรณีตน เพราะตั้งคณะกรรมการวินัยร้ายแรงเลย ทั้งที่เส้นเงินไม่ได้โอนตรงเข้าบัญชี พร้อมตั้งข้อสงสัยว่าใช้อำนาจโดยมิชอบหรือไม่ แน่นอนว่าเป็นอำนาจ ดุลยพินิจ แต่ถ้าเมื่อไหร่ใช้โดยมิชอบ ก็เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

พ.ต.อ.สุธีเอี่ยม ตอบว่า ของ พล.ต.อ.สุรเชษษฐ์ ที่ตั้งวินัยร้ายแรงเพราะเกี่ยวกับคดีอาญา มีการออกหมายจับแล้ว แต่ในกรณีนี้ ยังไม่มีการเชื่อมโยงเป็นคดีอาญา ส่วนเส้นเงินสดที่มาการร้องมา คณะกรรมการกำลังตรวจสอบอยู่

พล.ต.อ.สุรเชษษฐ์ จึงถามว่า เพราะอะไรที่ ผบ.ตร.ไม่ออกหมายจับหรือหมายเรียก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์และพวก เหมือนที่ทำกับตน ทำไมถึงส่งสำนวนไปที่ ป.ป.ช.เลย



อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.ไตรรงค์ ได้ชี้แจงถึงกรณีของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ที่ถูกออกหมายจับและส่งเรื่องไปที่ ป.ป.ช. นั้น ตนตอบได้แค่คร่าวๆ ว่าชุดของตนในขณะนั้นไม่มีอำนาจในการสอบสวน มีหน้าที่จับและส่งไปให้อีกทีมสอบสวน ซึ่งเป็น สน.เตาปูน เมื่อสอบสวนก็พบว่าเป็นเรื่องการฟอกเงินจากเว็บพนัน ไม่เกี่ยวกับมาตรา 157 และเมื่อสอบสวนไปก็มีตำรวจสืบสวน ผู้กำกับสงขลา ขึ้นไปร้องทุกข์ที่ สน.เตาปูน ให้ส่งเรื่องไปที่ ป.ป.ช. ไม่ใช่การจับและส่งไปที่ ป.ป.ช.ทันที

อย่างไรก็ตามช่วงหนึ่ง พล.ต.อ. กรไชย ได้ยกพาดหัวข่าวของสำนักข่าวหนึ่งที่มาถ่ายทอดสด แล้วพาดหัวสั้นๆ ว่า “พิมพ์วิไลแฉยับจ่ายส่วยเว็บพนัน” พร้อมระบุอย่างมีอารมณ์ว่า ทำให้ตำรวจเสียหาย เรื่องนี้ยังไม่สรุปเลย การเขียนแบบนี้ เท่ากับตนยอมรับในสิ่งที่ตนพูด ตนต้องรักษาเกียรติของตำรวจ ตนถึงบอกว่าการถ่ายทอดสดเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าเขียนแบบนี้ อย่านำเสนอเลย ปิดการถ่ายทอดสดดีกว่า เพราะท่านเขียนฝ่ายเดียว ตำรวจทุกคนนั่งอยู่ในห้องนี้ ยอมรับในสิ่งที่พิมพ์วิไลพูดใช่หรือไม่ ตนไม่ได้ของขึ้น แต่รักษาเกียรติ และมองว่าทุกช่องเขียนแบบนี้หมด ถ้าไม่เขียนก็ไม่มีคนดู

ทำให้นายรังสิมันต์ ชี้แจงว่า ตนก็ไม่ได้กำกับสื่อ ไม่ได้ควบคุมสื่อ แต่มองว่าเรื่องนี้ก็สำคัญ เป็นผลประโยชน์ของประเทศชาติ เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงข้อมูล แต่ขอว่าอย่าเพิ่งไปจั่วหัว เพราะข้อเท็จจริงยังไม่จบ ซึ่งทางตำรวจก็ได้ชี้แจงแล้ว ประชาชนก็ฟังข้อเท็จจริง

พล.ต.อ. กรไชย จึงกล่าวว่า ตนเกรงว่าจะฟังแค่ช่วงเดียว ช่วงที่มันๆ เท่านั้น พอไม่มันก็ไม่ฟังแล้ว พอเกิดการโต้เถียงก็จะฟัง ถ้าวันหลังมีการถ่ายทอดสดแบบนี้ควรมีการกำหนดกรอบ หัวข่าวดีหรือไม่ ว่าตำรวจมาชี้แจง ไม่ใช่ให้เขาไปเขียนเอง เพราะตำรวจทั้งประเทศก็สะท้อนใจ



จากนั้น น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า เรื่องนี้มีวิวาทะกันและยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ข้อเท็จจริงคือมีตำรวจที่รับเงินเว็บพนันจริง แต่ยังจับไม่ได้ว่าลูกน้องใครแค่นั้น ดังนั้นสื่อไม่ได้จับประเด็นผิด และมองว่าไม่ได้เป็นการเรียกเรตติ้ง แต่เป็นข้อเท็จจริง

ต่อมา พล.ต.อ. กรไชย กล่าวว่า “คำว่าตำรวจรับส่วย คุณว่ามีหรือไม่ เราไม่ปฏิเสธ และผมก็ไม่รับ พูดตรงๆ และในทางกลับกันยังไม่ได้ตัดสินเลยว่ามีตำรวจรับส่วย แต่มีการเขียนไปแล้วว่ามีตำรวจรับส่วย ถ้าเขียนว่าตำรวจรับส่วย ก็แปลว่าตำรวจรับส่วย แต่ในที่สุด ถ้าศาลตัดสิน ผิดว่าตามผิด ถูกว่าตามถูก ถ้าผิดก็ติดคุกไป และอยู่ไม่ได้ใน สตช. ยืนยันว่าไม่เลี้ยงคนเหล่านี้แน่นอน ผมเป็นคนชัดเจน ไม่พูดแล้วกัน พูดมากเดี๋ยวหาว่าโม้ แต่โม้ก็สัมผัสได้ แต่ที่คุณพรรณิการ์จั่วหัวว่าไม่เป็นไร แต่เขาเขียนว่าตำรวจรับส่วยครับ แต่เรารับหรือไม่ ยังไม่รู้เลย วันนี้ศาลยังไม่ตัดสินเลย แต่ถามว่ามีหรือไม่ ผมก็ไม่ปฏิเสธ แต่ก็ไม่รับ แค่อยากรักษาเกียรติของตนเอง”

ทำให้ พล.ต.อ.สุรเชษษฐ์ ตอบโต้ ผบ.ตร.ออกมายอมรับแล้วว่ามี 99% ไม่รับ แสดงว่า 1% ก็ถือว่ามี

https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A1/261400