‘น้ำขึ้นให้รีบตัก’ รอง หน.พรรคร่วมรัฐบาลอ้างสถานการณ์รบอบอวล ขออย่าตัดงบประมาณปี ๖๙ ด้านคุรุภัณฑ์ กลัวจะไปกระทบกระเทือนรายจ่ายซื้ออาวุธของกองทัพ ขณะที่ฝ่ายค้านปูดรัฐบาล ‘ลักหลับ’ เร่งเซ็นสัญญาซื้อไฟฟ้าหมุนเวียน ไม่เปิดเผยราคา
สองวันหลังจากเขมรยิงจรวดข้ามแดนเข้ามาในไทยอีก ธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติออกแถลงความเห็น สนับสนุนการพิจารณารายจ่ายของรัฐบาลในอนุกรรมาธิการคุรุภัณฑ์ สำหรับงบประมาณ ประจำปี ๒๕๖๙ ว่า
“ไม่ควรปรับลดงบประมาณการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพ เพื่อสนับสนุนให้ทุกเหล่าทัพมีความพร้อม...นอกจากนี้ นายธนกรยังฝากถึงทุกพรรคการเมืองทุกฝ่ายว่า ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน ขอหยุดพักเรื่องการเมือง
เพราะในเวลานี้ประเทศมีสถานการณ์ที่วิกฤตหลายเรื่อง ทั้งความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะเดียวกันยังมี สถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดที่ประชาชนได้รับผลกระทบอย่างหนัก รวมถึงปัญหาเศรษฐกิจในประเทศ” ด้วย
แต่ว่าด้านพรรคฝ่ายค้าน สอง สส.พรรคประชาชน ออกมาปูดซ้ำแผนการจับจ่ายที่ไม่จำเป็นของรัฐบาล โดยอาศัยแอบหลังสถานการณ์สงครามชายแดนกับกัมพูชา “เร่งเซ็นสัญญาซื้อไฟโดยไม่เปิดเผยราคา ส่อเอื้อเอกชน-คนไทยต้องจ่ายไฟแพง”
ศุภโชติ ไชยสัจ กับ วรภพ วิริยะโรจน์ แจ้งว่าโครงการซื้อพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน ซึ่งพรรคของตนเฝ้าจับตาและรณรงค์คัดค้านมาตั้งแต่ปี ๒๕๖๗ จนคณะกรรมการนโยบายพลังงาน (กพช.) มีมติให้ชะลอการลงนามสัญญาไว้ก่อน เพื่อพิจารณาใหม่ให้รอบคอบ
พอถึงเดือนพฤษภา ๖๘ กพช.กลับเดินหน้าดำเนินการเจรจาซื้อขายพลังงานจากเอกชนนี้ต่อไป “โดยไม่มีการเปิดเผยผลของการเจรจาราคาต่อสาธารณะแต่อย่างใด” และกำหนดเซ็นสัญญาในวันที่ ๒๙ กรกฎาคม พรุ่งนี้
ประชาชนไม่มีทางรู้ว่ามีการปรับลดราคากันจริงหรือไม่ “ถ้าราคาที่เจรจาลดลงเพียงเล็กน้อย เช่น ๑ สตางค์ และรีบเร่งให้ลงนามในสัญญา...นั่นเท่ากับว่าเป็นการ ‘ลักหลับ’ เอาผลประโยชน์ของประชาชนไปมอบให้กับ กลุ่มทุนพลังงานโดยไร้ความยุติธรรม”
สส.พรรคประชาชนย้ำว่า ในวันพรุ่งนี้ หากไม่มีการปรับลดค่าไฟฟ้า ในการเจรจารับซื้อไฟฟ้ารอบ ๓,๖๐๐ เมกะวัตต์ที่ไม่จำเป็นดังกล่าว “ภายในสัปดาห์หน้าพรรคประชาชนจะยื่นเรื่องนี้ต่อ ป.ป.ช. เป็นกลไกสุดท้ายเพื่อหยุดยั้งกระบวนการนี้”
(https://www.facebook.com/thai.udd.news/posts/J5NjA7xMye และ https://www.matichon.co.th/politics/news_5293532)