Album 25 ก.ค. 68 ยื่นหนังสือพรรคเพื่อไทย เหตุสงครามชายแดนไทย-กัมพูชา
ไข่แมวชีส added 17 new photos.
8 hours ago
·
เครือข่ายประชาชนต่อต้านสงครามไทย-กัมพูชา ยื่นหนังสือเรียกร้อง ‘พรรคเพื่อไทย’ เร่งมาตรการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปะทะ นำสันติสู่ชายแดนเพื่อลดความสูญเสียอย่างเร่งด่วน
25 ก.ค. 2568 เวลา 15.30 น. บริเวณที่ทำการพรรคเพื่อไทย เครือข่ายประชาชนต่อต้านสงครามไทย-กัมพูชา จัดกิจกรรมเรียกร้องให้พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นแกนนำการจัดตั้งรัฐบาล ออกมาตรการอย่างรวดเร็วเพื่อรับมือกับประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบเกี่ยวเนื่องกับเสถานการณ์การปะทะกันบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวานนี้
เวลา 15.38 น. โดยประมาณ ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางมาถึงบริเวณหน้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาสังเกตการณ์อยู่โดยรอบประมาณ 10 นาย ในขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มกิจกรรมบริเวณหน้าประตูทางเข้าด้านใน ถือป้ายกระดาษข้อความ “ไม่เอาสงคราม” ตัวแทนกล่าวถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาตั้งแต่เช้าวันที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา มีกระแสโจมตีจากทั้งสองประเทศว่าฝ่ายใดเป็นผู้เริ่มก่อน แต่พบว่าผู้ได้รับผลกระทบอย่างมากคือประชาชน ผู้ที่ทำมาหากินและดำรงชีวิตอยู่ในบริเวณชายแดนได้รับบาดเจ็บและสูญเสีย ซึ่งมีเด็กและเยาวชนได้รับผลกระทบนั้นด้วย ส่วนในโลกออนไลน์ก็มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เกิดวาทกรรมต่าง ๆ อันนำมาสู่ความเกลียดชังระหว่างกัน อีกทั้งยังตั้งคำถามถึงอำนาจของกองทัพในการกระทำการใด ๆ ภายใต้รัฐบาลพลเรือน และทวงถามความชัดเจนถึงมาตรการจากรัฐบาลดูแลช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และความพยายามของรัฐบาลในการเจรจาหยุดยิงหรือยุติสงคราม เพราะประชาชนอีกมากอาจได้รับความเสียหายจากการดำเนินการที่ล่าช้าของรัฐบาล ซึ่งทางเครือข่ายจะติดตามสถานการณ์และความคืบหน้าต่อไป
ต่อมาผู้จัดกิจกรรมมีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ โดยให้ประชาชนที่มาร่วมกิจกรรมเขียนข้อความในกระดาษถึงสิ่งพวกเขาที่ต้องการสื่อถึงพรรคเพื่อไทยจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และมีการนอนลงโดยนำผ้าดิบทาสีแดงมาคลุมตัวไว้ และปิดท้ายด้วยการอ่านแถลงการณ์ ‘เครือข่ายประชาชนต่อต้านสงครามไทย-กัมพูชา เนื่องจากสงครามชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา’ เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ และยื่นพรรคเพื่อไทยในวันนี้ โดยมีตัวแทนจากฝ่ายประชาสัมพันธ์เป็นผู้ออกมารับหนังสือ และยุติกิจกรรมลงในเวลา 16.55 น.
.
สำหรับแถลงการณ์ที่ยื่นต่อพรรคเพื่อไทย มีเนื้อหาดังนี้
“แถลงการณ์เครือข่ายประชาชนต่อต้านสงครามไทย-กัมพูชา เนื่องจากสงครามชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา
.
สืบเนื่องมาจากรอยร้าวสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเกิดจากการใช้ยุทธการทางการทหารที่ไม่ใช่แค่การรักษาความสงบบริเวณชายแดนหรือการกระชับแนวรักษาพื้นที่โดยทั่วไป แต่เกิดการปะทะจากทหารทั้งจากทางฝั่งไทยและกัมพูชาเกิดขึ้นทำให้ประชาชนเกิดการสูญเสียและบาดเจ็บจำนวนมาก ที่อาศัยอยู่แถบบริเวณแถบชายแดนจังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดอุบลราชธานี และพื้นที่บริเวณใกล้เคียง ซึ่งอยู่ใกล้พื้นที่ปฏิบัติการช่องบก ปราสาทตาเมือนธม เขาพนมดงรัก ไม่ใช่แค่บ้านเรือนเท่านั้นที่เกิดความเสียหาย ความรุนแรงจากวัตถุระเบิดทำให้สถานที่หลายแห่งเสียหาย รวมไปถึงโรงพยาบาลที่มีผู้ป่วยพลเรือนอยู่จำนวนมากซึ่งเป็นการละเมิดสนธิสัญญาเจนีวา (Geneva-Conventions) อย่างร้ายแรงเนื่องจากมีผู้รักษาอยู่
.
ซึ่งเช้าของเมื่อวานนี้ วันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีรายงานข่าวเกี่ยวกับผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเกิดขึ้น ทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว บีบให้ประชาชนที่อยู่ชายแดนจำเป็นต้องจากบ้านอพยพเข้ามาอยู่ในเมืองหรือไปที่ศูนย์พักพิง สภากาชาดก็ต้องเปิดรับบริจาคเลือดจำนวนมากให้เพียงพอกับประชาชนไม่ตำกว่า 500 คนที่ต้องการใช้ จากการรายงานข่าวพบว่ามีประชาชนกว่า 100,000 รายอาจได้รับผลกระทบโดยตรงและอาจมากขึ้นเรื่อย ๆ หากสงครามยังไม่ยุติ เนื่องจากการยกระดับการปะทะทางทหารที่มีการใช้อาวุธยุทโธปกรณ์เต็มพิกัดในการปะทะ มีการใช้กระสุน การใช้ระเบิด รวมไปถึงการวางทุ่นระเบิด ซึ่งสิ่งนี้อาจนำมาซึ่งสงครามที่นองเลือดและยากที่จะจบลง สูญเสียความสัมพันธ์อันดีในฐานะประเทศในแถบเอเชียอาคเนย์ การตอบใต้ทำให้เกิดความสูญเสีย ทั้งสองฝ่ายนี้ อาจกระทบต่อปัญหาเศรษฐกิจและวัฒนธรรมตามมา ซึ่งมีการปลุกระดมกระแสชาตินิยมที่รุนแรงเกิดขึ้นด้วยในขณะนี้ มีการตามทำร้ายแรงงานข้ามชาติ การยุยงปั่นกระแส ทำให้ทั่วโลกก็กำลังให้ความสนใจจับตาเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดเป็นอย่างมาก
.
จากการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา Joint Boundary Commission (JBC) อย่างสันติไม่เป็นผล ถึงแม้ตัวแทนทั้งสองประเทศได้นั่งร่วมประชุมพูดคุยแล้วก็ตาท แม้จะมีการเน้นย้ำเรื่อง MOU2543 ที่เคยตกลงทำสนธิสัญญากันทั้ง 2 ประเทศ ก็เกิดการละเมิดทำให้มีสงครามนองเลือดเช่นนี้ ซึ่งต่างฝ่ายอ้างผลประโยชน์ของชาติ จึงจำเป็นจะต้องตอบโต้เพื่อรักษาอธิปไตยของชาติ เมื่อสงครามเกิดความสูญเสียก็ตามมา ประชาชนก็ต้องได้รับบาดเจ็บ ต้องล้มตายอีกจำนวนมาก นั่นคือความโหดร้ายของสงคราม ซึ่งเป็นภัยร้ายแรง ไร้มนุษยธรรม ละเมิดสิทธิมนุษยชน เกิดการห้ำหั่นให้เกิดการเสียเลือดเสียเนื้อ จึงอยากให้คำนึงถึงประโยชน์ของชาติซึ่งก็คือประชาชนเป็นหลักด้วย คนทุกคนมีสิทธิที่จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี ปลอดภัยและได้รับการคุ้มครอง ท่ามกลางผู้นำของชาติที่กระหายสงคราม ประชากรส่วนมากจำเป็นต้องดำรงชีวิตทำมาหากิน ท่ามกลางสงครามที่ไม่ควรเกิดเช่นนี้จริง ๆ หรือ
.
เราจึงออกมาเรียกร้องให้สงครามนี้ควรจบอย่างไม่บานปลายเป็นเนื้อร้ายให้กับประเทศ ควรมีมาตรการรับมือและจัดการเรื่องการแก้ปัญหาในเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนที่ไม่ควรใช้การปะทะ มีการชี้แจงกับประชาชนถึงการจัดการบริหารและมีแผนรองรับที่ดี ให้ความช่วยเหลือประชาชนในบริเวณพื้นที่เสี่ยงทันท่วงทีและเร่งด่วนอย่างมียุทธศาสตร์ ใส่ใจพี่น้องประชาชนในประเทศ อีกทั้งมีความเห็นใจต่อกันในฐานะเพื่อนมนุษย์ ซึ่งไม่ควรลืมสิทธิมนุษยชนที่เป็นหลักสำคัญ
#NoWarThaiCambodia
#สันติสู่ชายแดน”
·
เครือข่ายประชาชนต่อต้านสงครามไทย-กัมพูชา ยื่นหนังสือเรียกร้อง ‘พรรคเพื่อไทย’ เร่งมาตรการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปะทะ นำสันติสู่ชายแดนเพื่อลดความสูญเสียอย่างเร่งด่วน
25 ก.ค. 2568 เวลา 15.30 น. บริเวณที่ทำการพรรคเพื่อไทย เครือข่ายประชาชนต่อต้านสงครามไทย-กัมพูชา จัดกิจกรรมเรียกร้องให้พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นแกนนำการจัดตั้งรัฐบาล ออกมาตรการอย่างรวดเร็วเพื่อรับมือกับประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบเกี่ยวเนื่องกับเสถานการณ์การปะทะกันบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวานนี้
เวลา 15.38 น. โดยประมาณ ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางมาถึงบริเวณหน้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาสังเกตการณ์อยู่โดยรอบประมาณ 10 นาย ในขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มกิจกรรมบริเวณหน้าประตูทางเข้าด้านใน ถือป้ายกระดาษข้อความ “ไม่เอาสงคราม” ตัวแทนกล่าวถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาตั้งแต่เช้าวันที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา มีกระแสโจมตีจากทั้งสองประเทศว่าฝ่ายใดเป็นผู้เริ่มก่อน แต่พบว่าผู้ได้รับผลกระทบอย่างมากคือประชาชน ผู้ที่ทำมาหากินและดำรงชีวิตอยู่ในบริเวณชายแดนได้รับบาดเจ็บและสูญเสีย ซึ่งมีเด็กและเยาวชนได้รับผลกระทบนั้นด้วย ส่วนในโลกออนไลน์ก็มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เกิดวาทกรรมต่าง ๆ อันนำมาสู่ความเกลียดชังระหว่างกัน อีกทั้งยังตั้งคำถามถึงอำนาจของกองทัพในการกระทำการใด ๆ ภายใต้รัฐบาลพลเรือน และทวงถามความชัดเจนถึงมาตรการจากรัฐบาลดูแลช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และความพยายามของรัฐบาลในการเจรจาหยุดยิงหรือยุติสงคราม เพราะประชาชนอีกมากอาจได้รับความเสียหายจากการดำเนินการที่ล่าช้าของรัฐบาล ซึ่งทางเครือข่ายจะติดตามสถานการณ์และความคืบหน้าต่อไป
ต่อมาผู้จัดกิจกรรมมีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ โดยให้ประชาชนที่มาร่วมกิจกรรมเขียนข้อความในกระดาษถึงสิ่งพวกเขาที่ต้องการสื่อถึงพรรคเพื่อไทยจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และมีการนอนลงโดยนำผ้าดิบทาสีแดงมาคลุมตัวไว้ และปิดท้ายด้วยการอ่านแถลงการณ์ ‘เครือข่ายประชาชนต่อต้านสงครามไทย-กัมพูชา เนื่องจากสงครามชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา’ เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ และยื่นพรรคเพื่อไทยในวันนี้ โดยมีตัวแทนจากฝ่ายประชาสัมพันธ์เป็นผู้ออกมารับหนังสือ และยุติกิจกรรมลงในเวลา 16.55 น.
.
สำหรับแถลงการณ์ที่ยื่นต่อพรรคเพื่อไทย มีเนื้อหาดังนี้
“แถลงการณ์เครือข่ายประชาชนต่อต้านสงครามไทย-กัมพูชา เนื่องจากสงครามชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา
.
สืบเนื่องมาจากรอยร้าวสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเกิดจากการใช้ยุทธการทางการทหารที่ไม่ใช่แค่การรักษาความสงบบริเวณชายแดนหรือการกระชับแนวรักษาพื้นที่โดยทั่วไป แต่เกิดการปะทะจากทหารทั้งจากทางฝั่งไทยและกัมพูชาเกิดขึ้นทำให้ประชาชนเกิดการสูญเสียและบาดเจ็บจำนวนมาก ที่อาศัยอยู่แถบบริเวณแถบชายแดนจังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดอุบลราชธานี และพื้นที่บริเวณใกล้เคียง ซึ่งอยู่ใกล้พื้นที่ปฏิบัติการช่องบก ปราสาทตาเมือนธม เขาพนมดงรัก ไม่ใช่แค่บ้านเรือนเท่านั้นที่เกิดความเสียหาย ความรุนแรงจากวัตถุระเบิดทำให้สถานที่หลายแห่งเสียหาย รวมไปถึงโรงพยาบาลที่มีผู้ป่วยพลเรือนอยู่จำนวนมากซึ่งเป็นการละเมิดสนธิสัญญาเจนีวา (Geneva-Conventions) อย่างร้ายแรงเนื่องจากมีผู้รักษาอยู่
.
ซึ่งเช้าของเมื่อวานนี้ วันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีรายงานข่าวเกี่ยวกับผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเกิดขึ้น ทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว บีบให้ประชาชนที่อยู่ชายแดนจำเป็นต้องจากบ้านอพยพเข้ามาอยู่ในเมืองหรือไปที่ศูนย์พักพิง สภากาชาดก็ต้องเปิดรับบริจาคเลือดจำนวนมากให้เพียงพอกับประชาชนไม่ตำกว่า 500 คนที่ต้องการใช้ จากการรายงานข่าวพบว่ามีประชาชนกว่า 100,000 รายอาจได้รับผลกระทบโดยตรงและอาจมากขึ้นเรื่อย ๆ หากสงครามยังไม่ยุติ เนื่องจากการยกระดับการปะทะทางทหารที่มีการใช้อาวุธยุทโธปกรณ์เต็มพิกัดในการปะทะ มีการใช้กระสุน การใช้ระเบิด รวมไปถึงการวางทุ่นระเบิด ซึ่งสิ่งนี้อาจนำมาซึ่งสงครามที่นองเลือดและยากที่จะจบลง สูญเสียความสัมพันธ์อันดีในฐานะประเทศในแถบเอเชียอาคเนย์ การตอบใต้ทำให้เกิดความสูญเสีย ทั้งสองฝ่ายนี้ อาจกระทบต่อปัญหาเศรษฐกิจและวัฒนธรรมตามมา ซึ่งมีการปลุกระดมกระแสชาตินิยมที่รุนแรงเกิดขึ้นด้วยในขณะนี้ มีการตามทำร้ายแรงงานข้ามชาติ การยุยงปั่นกระแส ทำให้ทั่วโลกก็กำลังให้ความสนใจจับตาเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดเป็นอย่างมาก
.
จากการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา Joint Boundary Commission (JBC) อย่างสันติไม่เป็นผล ถึงแม้ตัวแทนทั้งสองประเทศได้นั่งร่วมประชุมพูดคุยแล้วก็ตาท แม้จะมีการเน้นย้ำเรื่อง MOU2543 ที่เคยตกลงทำสนธิสัญญากันทั้ง 2 ประเทศ ก็เกิดการละเมิดทำให้มีสงครามนองเลือดเช่นนี้ ซึ่งต่างฝ่ายอ้างผลประโยชน์ของชาติ จึงจำเป็นจะต้องตอบโต้เพื่อรักษาอธิปไตยของชาติ เมื่อสงครามเกิดความสูญเสียก็ตามมา ประชาชนก็ต้องได้รับบาดเจ็บ ต้องล้มตายอีกจำนวนมาก นั่นคือความโหดร้ายของสงคราม ซึ่งเป็นภัยร้ายแรง ไร้มนุษยธรรม ละเมิดสิทธิมนุษยชน เกิดการห้ำหั่นให้เกิดการเสียเลือดเสียเนื้อ จึงอยากให้คำนึงถึงประโยชน์ของชาติซึ่งก็คือประชาชนเป็นหลักด้วย คนทุกคนมีสิทธิที่จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี ปลอดภัยและได้รับการคุ้มครอง ท่ามกลางผู้นำของชาติที่กระหายสงคราม ประชากรส่วนมากจำเป็นต้องดำรงชีวิตทำมาหากิน ท่ามกลางสงครามที่ไม่ควรเกิดเช่นนี้จริง ๆ หรือ
.
เราจึงออกมาเรียกร้องให้สงครามนี้ควรจบอย่างไม่บานปลายเป็นเนื้อร้ายให้กับประเทศ ควรมีมาตรการรับมือและจัดการเรื่องการแก้ปัญหาในเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนที่ไม่ควรใช้การปะทะ มีการชี้แจงกับประชาชนถึงการจัดการบริหารและมีแผนรองรับที่ดี ให้ความช่วยเหลือประชาชนในบริเวณพื้นที่เสี่ยงทันท่วงทีและเร่งด่วนอย่างมียุทธศาสตร์ ใส่ใจพี่น้องประชาชนในประเทศ อีกทั้งมีความเห็นใจต่อกันในฐานะเพื่อนมนุษย์ ซึ่งไม่ควรลืมสิทธิมนุษยชนที่เป็นหลักสำคัญ
#NoWarThaiCambodia
#สันติสู่ชายแดน”