แฟ้มภาพจาก banrasdr photo
8 ปี 10 เมษา ณัฐวุฒิ เตรียมสวมชุดคนไร้ที่พึ่ง ทวงความคืบหน้ากับ ป.ป.ช. คดีสลายชุมนุม นปช. อีกครั้ง
2018-04-09
ที่มา ประชาไท
ณัฐวุฒิ เตรียมสวมชุดคนไร้ที่พึ่ง ทวงถามความคืบหน้า กับ ป.ป.ช. ในคดีสลายชุมนุม นปช. อีกครั้ง พร้อมขอสำนวนเปรียบเทียบคดี 7 ตุลา 51 กรณีสลายกลุ่มพันธมิตรฯ เหตุคดีนั้น ป.ป.ช.ยังฟ้อง สมชาย เอง
9 เม.ย. 2561 เนื่องในวันพรุ่งนี้ (10 เม.ย.61) จะเป็นวันครบรอบ 8 ปี เหตุการณ์สลายการชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) โดย ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ส่งผลให้มีประชาชนและเจ้าหน้าที่เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. จะแต่ง 'ชุดคนไร้ที่พึ่ง' เดินทางไปทวงถามความคืบหน้าคดีสลายการชุมนุมดังกล่าวกับ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในเวลา 9.00 น. ที่สำนักงาน ป.ป.ช.
ณัฐวุฒิ ถาม ป.ป.ช. สมชายยังถูกชี้มูลความผิด แล้วอภิสิทธิ์รอดพ้นความผิดได้อย่างไร
ญาติคนตายจากเหตุสลายชุมนุม นปช.ปี 53 ร้องอัยการสูงสุดเร่งรัดส่งฟ้องคดี
ทีมทนายนำหลักฐานใหม่ ร้องอัยการสูงสุดรื้อคดีสลาย แดง 53
ณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราติดตามทวงถามความคืบหน้า ในการดำเนินคดีเรื่องนี้มาโดยตลอด จนถึงล่าสุดขั้นตอนของมันมีอยู่ 2 ส่วน ในส่วนของ ป.ป.ช. ได้มีมติยกคำร้อง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ สุเทพ เทือกสุบรรณ ว่าไม่มีความผิดในเหตุการณ์นี้ ในขณะเดียวกันกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องในคดีฆ่าเอาไว้ อภิสิทธิ์กับสุเทพก็ใช้ข้อต่อสู้ว่าเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในอำนาจของ DSI แต่เป็นอำนาจของ ป.ป.ช. ในที่สุดศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองก็วินิจฉัยว่าเป็นอำนาจของ ป.ป.ช. ดังนั้นเราเลยไปตามเรื่องที่ ป.ป.ช. เพื่อเรียกร้องให้หยิบเรื่องนี้มาพิจารณาใหม่อีกครั้ง ซึ่งเป็นขั้นตอนที่กฎหมายเปิดให้ทำได้ โดยเราเชื่อว่าคำวินิจฉัยศาลฎีกาฯ น่าจะเป็นหลักฐานใหม่ รวมกระทั่งข้อมูลหลักฐานอื่นๆ ที่เราพยายามแสวงหารวบรวม ก็พร้อมที่จะนำเสนอให้ ป.ป.ช. แต่ว่าการทวงถามลักษณะนี้ตนดำเนินการไปแล้วหลายครั้งหลายรอบก่อนหน้านี้ ทั้งไปยื่นหนังสือด้วยตัวเอง ไปพร้อมกับญาติผู้เสียชีวิตและทนายความ แล้วก็มอบหมายให้แกนนำ นปช. คนอื่นๆ ไปยื่น แต่ไม่ได้รับคำตอบใดๆ
นอกเหนือจากการติดตามความคืบหน้าของคดีแล้ว ญาติผู้เสียชีวิตได้ทำหนังสือร้องขอสำนวนการไต่สวนคดีที่ยกคำร้องอภิสิทธิ์กับสุเทพด้วยเพื่อนำมาเปรียบเทียบกับคำฟ้องในคดี 7 ตุลา 51 กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ที่ครั้งนั้น ป.ป.ช. ส่งเรื่องไปที่อัยการ แล้วอัยการมีความเห็นไม่ฟ้อง เมื่อไม่ฟ้องจึงมีการตั้งกรรมการร่วม 2 องค์กร คือ อัยการกับ ป.ป.ช. ซึ่งอัยการก็ยังคงยืนยันไม่ฟ้องอีก แต่ ป.ป.ช. ใช้งบประมาณจ้างทนายความจากสภาทนายความฟ้องเอง หมายความว่าคดีพันธมิตรฯ ปี 51 ป.ป.ช. จ้างทนายความฟ้อง สมชาย วงศ์สวัสดิ์ และพวก เองเลย เราจึงอยากรู้ว่าพยานหลักฐานที่เอามาประกอบการใช้ดุลยพินิจของ ป.ป.ช.ใน 2 คดีนี้ มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
ทำไมคดีปี 51 ที่ผู้ปฏิบัติคือเจ้าหน้าที่ตำรวจ เครื่องมือที่ใช้คือแก๊สน้ำตา แต่ ป.ป.ช.สั่งฟ้องเอง ทั้งที่อัยการไม่ฟ้อง ขณะที่ปี 53 นั้น ผู้ปฏิบัติงานคือเจ้าหน้าที่ทหาร มีการใช้อาวุธสงครามประกาศเขตกระสุนจริง มีคนเสียชีวิตจำนวนมาก แต่ ป.ป.ช.ยกคำร้อง การร้องขอสำนวนการไต่สวนนี้ก็ไม่ได้รับการตอบรับหรือความคืบหน้าใดๆ เหมือนกัน ดังนั้นในวันพรุ่งนี้จะเป็นอีกครั้งที่ตนจะไปสอบถามเรื่องนี้กับ ป.ป.ช.
สำหรับการจะไปเพียง 4 คนนั้น ณัฐวุฒิ กล่าว่า เพื่อไม่ให้เข้าเงื่อนไขทางกฎหมาย และไม่ได้เชิญชวนมวลชนใดๆ ไปร่วม
"ไปเที่ยวนี้พวกผมจะแต่งตัวเป็นคนไร้ที่พึ่ง ผมรู้สึกว่า ป.ป.ช.อาจจะกำลังมองพวกผมเป็นแบบนั้นอยู่ก็ได้ คือผมสงสัยว่าชีวิตคนตายเป็นร้อยมันต่ำต้อยไร้ค่าในสายตาของผู้มีอำนาจหน้าที่มากหรืออย่างไร และผมต้องการจะสื่อสารว่าคนจะยากดีมีจนมันก็มีหัวใจ แม้ว่าเราจะมีอะไรไม่เท่ากัน แต่ความยุติธรรมคนทุกคนต้องมีเท่าเทียมกัน" ณัฐวุฒิ กล่าวทิ้งท้ายถึงเหตุผลที่จะแต่งตัวเป็นคนไร้ที่พึ่ง