วันจันทร์, เมษายน 09, 2561

“โอ๊ค” โพสต์ 'เช็คคนดัง-คดีดัง' ตอน 2 ถามทหารใหญ่ "ท่านมีความคิดที่จะนำเงินมาคืนให้กับเจ้าของ หรือผู้เสียหายหรือไม่ครับ..!!”





เช็คคนดัง-คดีดัง ตอนที่ 2

ครบรอบ 1 สัปดาห์ ที่ผมโพสต์รูปเช็คสั่งจ่ายเงินเข้าบัญชีบุคคลที่มีชื่อเสียง 2 ท่าน ที่ได้รับเงินจากเงินกู้กรุงไทยแล้ว วันนี้ผมจะขอเล่าให้ฟังต่อ เป็นตอนที่ 2 นะครับ

ก่อนอื่นต้องขอบอกว่า โลกโซเชี่ยลในปัจจุบันนี้ ได้ทำหน้าที่ตรวจสอบเรื่องราวต่างๆ อย่างสุดยอดมาก อาจจะเรียกได้ว่า ดีกว่าการตรวจสอบโดยหน่วยงานที่ตั้งมาอย่างเป็นทางการเลยด้วยซ้ำ

เพราะนอกจากโซเชี่ยลจะทำหน้าที่กระจายข่าว ความไม่ชอบมาพากล ที่มีปรากฏให้เห็นอยู่ตลอดเวลาในช่วงปีขาลงของรัฐบาลนี้แล้ว โลกโซเชี่ยลยังช่วยกันตรวจสอบและชี้ข้อผิดสังเกต ที่เกิดขึ้นในหน่วยงานของรัฐ อันอาจนำมาซึ่งการกระทำผิดกฎหมายในเรื่องต่างๆได้

ซึ่งในกรณีนี้ อาจเป็นเรื่องของการเลือกปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ของรัฐบางคนหรือบางตำแหน่งก็ได้ (ซึ่งผมได้ทำเรื่องสงวนสิทธิ์ที่จะฟ้องเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเป็นรายบุคคลในทุกตัวบทกฎหมายไว้แล้ว หากตรวจพบการกระทำผิด)

มีแฟนเพจ และผู้ที่ได้ติดตามข่าวหลายท่าน ได้ตั้งข้อสังเกตและชี้ประเด็น ตลอดจนเสนอแนะกันเข้ามามากมาย ทั้งคอมเมนต์ในเพจนี้ ส่งข้อความเข้ามาหลังไมค์ และติดต่อเข้ามา เพื่อให้ข้อมูลที่น่าสนใจเยอะมาก ซึ่งผมจะขอสรุปรวมกัน แล้วเปิดมาขยี้ทีละประเด็นให้เห็นกันชัดๆไป โดยวันนี้จะขอเริ่มที่ประเด็นแรกคือ

>> เช็คที่ถูกนำมาเข้าบัญชี พล.ร.ท.พะจุณณ์ จำนวน 1 แสนบาท ซึ่งสั่งจ่ายจากเงินก้อนเดียวกันกับคดีที่เร่งรีบจะฟ้องผม แถมมีเลขที่เช็คติดกันกับของผม คือเช็คเลขที่ ‭2724851‬ และ ‭2724852‬ ซึ่งมีตัวแทน พล.ร.ท.(ย่อว่า PJ ละกันสั้นดี) ออกมาชี้แจงว่า เป็นเช็คที่จ่ายค่างานเลี้ยง(ในข่าวว่าเป็นงานเลี้ยงรุ่น วปอ. หรือไงนี่แหละ) แต่..ปรากฏว่า..

“เช็คเงินสดฉบับนี้ พล.ร.ท.PJ เป็นคนเซ็นต์นำฝากเอง โดยเขียนระบุด้วยลายมือว่า ให้นำเงินไปเข้าบัญชีเงินฝากประจำประเภท 12 เดือน อันเป็นบัญชีของออเจ้า พีเจ เองเจ้าค่ะ..!!”

เรื่องนี้ มีข้อสังเกตจากนักสืบออนไลน์ และนักกฎหมายออนไลน์หลายท่านที่ส่งข้อมูลมาให้ ผมขอสรุปเป็นข้อๆดังนี้

1. เงินก้อนที่บอกว่าเป็นเงินจากการกระทำความผิด ถูกนำไปเข้าบัญชีโดยระบุว่า เป็นการฝากประจำ 12 เดือน ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเป็นบัญชีเงินฝากประเภทที่ให้ดอกผลสูงสุด มากกว่าการฝากประเภท 6 เดือน หรือการฝากออมทรัพย์ ถือเป็นเจตนาหาประโยชน์งอกเงย จากเงินก้อนนี้หรือไม่..?

2. เงินที่บอกว่านำมาชำระหนี้ค่างานเลี้ยง - งานเลี้ยงที่ว่านี้ เป็นงานเลี้ยงในกลุ่มเพื่อนหรือลูกน้อง ของ PJ เองหรือไม่?
2.1 ทำไมเจ้าของธุรกิจใหญ่ จึงต้องมาจ่ายค่างานเลี้ยงเป็นแสนๆ ให้นายทหาร?
2.2 เงินจ่ายหนี้ค่างานเลี้ยง ทำไมจึงนำมาเข้าบัญชีฝากประจำ?
2.3 กรณีนี้ ถือเป็นการรับทรัพย์เกิน 3,000 บาท ที่ทหารชั้นนายพลจะต้องสำแดงหรือไม่? ได้เคยสำแดงหรือยัง?
2.4 หน่วยงานที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ ได้สอบสวนความผิดในประเด็นเหล่านี้หรือยัง?
2.5 จนป่านนี้ยังไม่มีความคืบหน้าจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะปล่อยไปจนหมดอายุความหรือไม่?
2.6 จะเร่งเอาผิดเฉพาะคดี พานทองแท้และพวก เท่านั้นหรือไม่?

3. เมื่อนำกรณีนี้ มาเปรียบเทียบกับกรณีเช็ค 26 ล้านของพานทองแท้ ที่ตัวเงินยังไม่ทันเข้าบัญชีเลย เช็คก็ถูกยกเลิกไปก่อนแล้ว ไม่มีเงินเข้าบัญชีแม้แต่บาทเดียว ภายหลังเงินถูกนำไปเข้าบัญชีผู้อื่น ซึ่งผมได้ทราบว่า ได้มีการคืนเงินกลับไปแล้วทุกบาททุกสตางค์เช่นกัน ไม่มีใครได้รับผลประโยชน์ แต่ผมกลับจะโดนคดี..เฮ้อออ..!!

ส่งท้ายวันนี้ผมขอตั้งคำถามไปถึงผู้รับเช็ค เป็นคำถามในเชิงจริยธรรม(ที่คนดีพึงมี) ซึ่งถ้าท่านคือคนดีของแผ่นดินจริง ขอให้ท่านตอบต่อสาธารณชนด้วย

“เงินที่ท่านได้มาฟรีๆ โดยที่ไม่ได้ทำงานทำการอะไร และท่านได้นำไปเข้าบัญชี หรือจะนำไปเลี้ยงลูกน้องก็แล้วแต่ (รวมถึงเงินที่นำไปเข้ามูลนิธิฯก้อนนั้นด้วย)

ในทางกฎหมายอาจสาวไปไม่ถึงตัวท่าน เจ้าหน้าที่ของรัฐอาจจะไม่กล้าเอาผิด และไม่กล้าสั่งฟ้องท่าน

แต่ในทางจริยธรรมที่ท่านพึงมี เมื่อท่านได้ทราบที่มาที่ไปของเงินก้อนนี้อย่างกระจ่างชัด ว่าเป็นเงินที่ได้มาโดยมิชอบแล้ว

ท่านมีความคิดที่จะนำเงินมาคืนให้กับเจ้าของ หรือผู้เสียหายหรือไม่ครับ..!!”


Oak Panthongtae Shinawatra

...

(ตอน 1)




วันก่อนมีคนส่งรูปเช็ค 2 ฉบับและใบนำฝากของธนาคาร มาให้ผมดูครับ

ผมลองเอาไปให้ใครดู ต่างก็ร้อง “เฮ้ย..จริงดิ” ทุกคนไป

ผมจึงอยากให้สังคมช่วยกันตรวจสอบ และช่วยกันกระตุ้นให้หน่วยงานของรัฐ ทั้ง ปปง. และ ดีเอสไอ ตลอดจนผู้มีอำนาจในรัฐบาล ช่วยออกมายืนยันว่า รูปถ่ายเช็คดังกล่าว เป็นของจริงหรือไม่?

หากว่าจริง เหตุใดทั้ง ปปง. และ ดีเอสไอ จึงไม่มีการดำเนินคดีกับผู้ที่มีชื่อรับผลประโยชน์ เพราะคนที่ส่งรูปมาให้นั้นยืนยันว่า ทั้ง 2 หน่วยงาน ต่างก็มีหลักฐานเดียวกันนี้เก็บไว้ทั้งคู่ แต่ไม่เคยมีใครยอมปริปาก..!!

เช็ค 2 ฉบับนี้ ได้สั่งจ่ายเงินเข้าบัญชีคนดังระดับประเทศ และเป็นเงินก้อนเดียวกันกับที่ดีเอสไอกำลังเอาเรื่องพานทองแท้ ข้อหาฟอกเงินในคดีเงินกู้แบงค์กรุงไทย อยู่ ณ เวลานี้

ลองดูรายละเอียดในรูป โดยผมจะขอสรุปให้สั้นๆ ดังนี้นะครับ

>>เช็คฉบับที่ 1<<
เป็นเช็คสั่งจ่ายโดยระบุชื่อ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ จำนวนเงิน 250,000 บาท มีลายเซ็น พล.อ.เปรมฯ เซ็นชื่อกำชับแบบชัดๆว่า ให้นำเงินก้อนนี้ไปฝากเข้าบัญชีมูลนิธิของตัวเอง...โอ้ววว..!!

>>เช็คฉบับที่ 2<<
เป็นเช็คสั่งจ่ายเงินสด ซึ่งเช็คใบนี้ถูกนำไปเข้าบัญชี พล.ร.ท.พระจุณณ์ ตามประทีป นายทหารคนสนิท ของพล.อ.เปรมฯ โดยมีเลขที่เช็คมันส์สุดติ่ง คือหมายเลข ‭‭‭2724851‬‬‬ ซึ่งติดกับเลขที่เช็คที่สั่งจ่ายให้ผม คือหมายเลข ‭‭‭2724852‬‬‬ ลงวันที่สั่งจ่ายวันเดียวกันเป๊ะ...เยสสส..!!

ที่สำคัญเช็คทั้ง 2 ฉบับนี้หนักกว่าเรื่องที่ดีเอสไอตั้งขึ้นมาเพื่อเอาผิดผมเยอะ เนื่องจากเช็คที่ถูกตีมาเพื่อเข้าบัญชีผมนั้น ได้ถูกยกเลิกในวันเดียวกัน และสามารถแสดงหลักฐานได้ว่าเงินทั้งหมด ได้ถูกนำไปคืนทุกบาททุกสตางค์ และคืนไปตั้งแต่เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว มีหลักฐานทางธุรกรรมฯชัดเจน

ส่วนเงินที่โอนเข้า 2 บัญชีนี้ อย่าว่าแต่จะนำมาคืนเลย เงินที่บอกว่าได้มาจากการกระทำความผิดนี้ ถูกนำไปใช้สอยอย่างสบายใจ ไร้การตรวจสอบ โดยผ่านมา 10 กว่าปี ยังไม่ปรากฏร่องรอยการคืนเงินให้เห็นแม้แต่บาทเดียว

เงินก้อนเดียวกัน ส่วนหนึ่งโอนเข้าบัญชีผม ซึ่งได้โอนคืนกลับหมดแล้ว ถูกกล่าวหาว่ามีความผิด แต่เงินอีกส่วนหนึ่งโอนเข้าบัญชีคนอื่น ถูกนำไปจับจ่ายใช้สอยอย่างสบายใจ กลับปราศจากความผิดใดๆ แบบนี้คงไม่มีใครยอมแน่ครับ

ทนายของผมได้ส่งข้อมูลหลักฐานของเช็คทั้ง 2 ฉบับนี้ และข้อมูลอื่นๆ เป็นจดหมายลงทะเบียน ไปถึงคณะกรรมการของดีเอสไอที่มีหน้าที่พิจารณาคดีนี้เป็นรายบุคคลแล้วนะครับ จึงถือว่าทุกท่านได้รับทราบข้อผิดสังเกต และได้ทราบประเด็นที่ไม่ชอบมาพากลไปแล้ว

หลังจากนี้ถ้ามีการกระทำอะไรที่เป็นสองมาตรฐาน และไม่ให้ความเป็นธรรมกับผมอีก ผมคงต้องขอสงวนสิทธิ์ในการปกป้องตัวเองจนถึงที่สุด ในทุกตัวบทกฎหมาย ตลอดอายุความที่สามารถจะกระทำได้

จะหาเรื่องเอาคนอื่นเข้าคุก โดยที่เขาไม่ได้กระทำความผิด เล่นกันแรงแบบนี้ คงไม่มีใครปล่อยให้ Free Kick กันง่ายๆครับ