ไหนๆ สังคมไทย ก็จะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้ว
เราอยากชวนทุกท่านเตรียมตัวไปด้วยกัน
ภาพที่คุณเห็น เป็นประเด็นที่เราเจอทุกวัน และกำลังเป็นห่วง
.
หนึ่ง.
ป่วยติดเตียง
คุณตาคุณยายหลายคนที่เราไปเยี่ยม
ต้องนอนป่วยติดเตียง เพราะอุบัติเหตุ และโรคประจำตัว
หลายคนเป็นอัมพฤก อัมพาต เพราะโรคความดัน
บางคนติดเตียงเพราะหกล้ม ตกจากที่สูง
ป่วยติดเตียง นี่เราว่าทรมานนะ
ยิ่งขาดลูกหลานดูแล มีแผลกดทับยิ่งทรมาน
แต่ปัญหานี้ ลดความเสี่ยงด้วยการดูแลสุขภาพ
ดูแลสภาพแวดล้อมในบ้าน เพื่อลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น
.
สอง.
สูงวัยยากไร้
เรามีเคสคุณตาคุณยายจำนวนมาก
ที่กำลังทนทุกข์กับความยากไร้
รอการช่วยเหลือที่ไม่เคยทั่วถึง ทั้งหยูกยาอาหาร
ยิ่งถ้ายากไร้ และต้องป่วยติดเตียงอย่างข้อแรก
ยิ่งลำบากเป็นเท่าตัว และจะลำบากมากขึ้น หากขาดคนดูแล
หากคุณไม่อยากเป็นว่าที่คุณตาคุณยายยากไร้
และหากอายุคุณเริ่มเข้าหลักสี่แล้ว
เราแนะนำให้คุณวางแผนออมเงินไว้รอได้เลย
การวางแผนออมเงินสำคัญมาก ก.ไก่ล้านตัว
เก็บได้น้อย ยังดีกว่าไม่เก็บ เพื่อบั้นปลาย จะได้ชิลๆ
.
สาม และสี่.
หลงลืม สูญหาย
สองเรื่องนี้เชื่อมโยงกัน
หลงลืม ก็คือโรคสมองเสื่อมนั่นเอง
คนแก่มักหลงลืมเป็นธรรมดา แต่ความไม่ธรรมดาอยู่ตรงที่??
ศูนย์ข้อมูลคนหายรับแจ้งเหตุ ผู้สูงอายุสูญหายมากขึ้นทุกวัน
ปี 2559 รับแจ้งเข้ามา 122 ราย ปี 2560 เพิ่มเป็น 222 ราย
ปีนี้ แจ้งเข้ามา 47 รายแล้ว
ดังนั้นหากบ้านไหน คุณตาคุณยายเริ่มมีอาการหลงลืม
การทำป้ายชื่อ พร้อมเบอร์โทรศัพท์ ติดไว้กับตัวท่านเสมอ
และทุกคนในบ้านช่วยเป็นหูเป็นตา เอาใจใส่ท่าน
เราคิดว่าจำเป็นนะ
.
นอกจากสี่เรื่องนี้ อีกเรื่องที่เรามองเห็น คือ “สูงวัย เดียวดาย”
เราพบว่าในสังคมที่สายสัมพันธ์ครอบครัวเบาบางลงทุกวัน
ผู้สูงอายุบางคน ก็ออกจากบ้านด้วยความน้อยใจ
บางคนออกจากบ้าน เพราะไม่อยากเป็นภาระลูกหลาน
บางคนก็ไม่เหลือญาติที่ไหนให้ไปอยู่ด้วย
ผู้สูงอายุหลายคน จึงเลือกบ้านพักคนชราเป็นฐานที่มั่นสุดท้าย
ก่อนจากโลกนี้ไป อย่างเดียวดาย
.
ทั้งหมดนี้คือสถานการณ์
และเรื่องที่เราอยากชวนคุณเตรียมตัวไปพร้อมกัน
สุนสันต์วันผู้สูงอายุ
#เยี่ยมเยียนเพื่อเยียวยา #โครงการอาสามาเยี่ยม
#การรอคอยต้องมีวันสิ้นสุด #ศูนย์ข้อมูลคนหาย
มูลนิธิกระจกเงา