โครงการรับจำนำข้าวไม่ใช่โครงการใหม่ มีการดำเนินการในหลายยุคหลายสมัย ตั้งแต่รัฐบาลของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ในปี 2524 นายชวน ในปี 2536 ชวลิต บรรหาร ทักษิณเรื่อยมาจน พล.อ.สุรยุทธ์ ในปี 2550
จะยกเว้นเพียงช่วงรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะในปี 2551-52 เท่านั้น ที่นำนโยบายประกันราคาข้าวมาใช้แทน
เมื่อรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชนะการเลือกตั้ง จึงนำนโยบายจำนำข้าวกลับมาใช้ แต่ปรับราคาที่รับจำนำให้สูงขึ้น เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของชาวนา และมีการรับจำนำข้าวทุกเม็ด
แต่เดิมการรับจำนำข้าวของรัฐจะจำกัดปริมาณเพียง 10% ของผลผลิต และราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด จึงไม่มีแรงจูงใจที่มากพอให้ชาวนานำข้าวมาจำนำกับรัฐ
กลไกการตลาดจึงเอื้อให้เกิดพ่อค้าคนกลาง ที่กดราคาชาวนาเรื่อยมา
เมื่อรัฐบาลนี้ใช้นโยบายจำนำข้าวหาเสียง และดำเนินเป็นนโยบายหลัก จึงถูกโจมตีอย่างมาก เพราะเท่ากับรัฐบาลเสนอเป็นตัวกลางรับซื้อข้าว เป็นการแย่งตลาดและแข่งขันกับพ่อค้าคนกลางที่หากินจากชาวนามาตลอด
ผลประโยชน์ที่เสียไปนี้ จึงเกิดการรวมหัวกันล้มรัฐบาล ร่วมมือกับเครือข่ายอำมาตย์ ใช้นโยบายนี้เป็นจุดตายของรัฐบาล แต่ไม่สำเร็จจนต้องก่อการรัฐประหาร ยึดอำนาจ
วันนี้นโยบายที่ทำให้ชาวนาซึ่งมีจำนวน 15 ล้านคนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ได้ถูกทำลาย และใช้เป็นเหตุถอดถอนนายกรัฐมนตรีที่ดำเนินนโยบาย
อ้างความทุจริต โดยไร้คดีความทุจริต หวังผลทางการเมือง โดยไม่สนใจปากท้องประชาชน
คนดี ไม่มีใครจิตใจโหดร้ายทารุณได้ขนาดนี้หรอก
Credit UDD Thailand