ข้อเสนอ ‘ทรั้มพ์’ ให้หยุดยิงและเจรจากัน ก็ง่ายๆ ไม่ต่างกับของเลขาธิการสหประชาชาติ ญี่ปุ่น หรือใครต่อใคร ผ่านมาหลายวันแล้วยังคงต้องขบต้องเคี้ยวกันอยู่ ว่าจะกลืนได้ไหม อร่อยป่าว เพราะมันต้องทำพร้อมกันสองทาง
ท่าทีของไทยจากรักษาการนายกฯ ภูมิธรรม เวชยชัย พร้อมที่จะเดินไปในทางนี้ แม้นว่ามีเสียงสะกิดแทรกแซง ผ่านทางนักข่าวทหารสายอาวุโส ว่าถามทหารหรือยัง ต้องให้ทหารร่วมเจรจานะ เพราะมีประสบการณ์มากกว่า
ร้ายกว่านั้น วาสนา นาน่วม พูดคำโต “ไทยควรมีเงื่อนไขให้เขมรถอนเรื่องเคลม ๓ ปราสาท -ช่องบก ออกจาก ICJ และ UNGA เพราะถือว่าเป็นการจ้องเอาดินแดนไทย” ไม่งั้นจะเป็น “มิชชั่นค้าง” อ้างว่า “กลายเป็น ‘ทางลง’ ให้เขมรไม่ต้องเสียฟอร์ม”
โชคดีมี Fuadi Pitsuwan ช่วยตอบให้ได้ทันควัน “ถ้าเราทำตาม” นั้น “เราจะถูกมองเป็น aggressor เราอาจจะเป็นต่อในสงคราม hot war ก็จริง แต่เราจะแพ้ในสงครามการทูตสากล” แน่นอน โดยเฉพาะที่วาสนาบอก “ต้องยึดคืนปราสาทตาควายให้ได้เบ็ดเสร็จ”
นั่นตรงตามที่ฟูอาดี้ว่า “เราก็ไม่ต่างอะไรกับฮุนเซน เรากำลังทำลายความชอบธรรมตัวเอง กำลังกระทำอาชญากรรมสงครามเสียเอง” ผู้อ่าน “ต้องระวังแนวคิดแบบนี้ให้มาก” ส่วนเจ้าตัวควรรู้สึกว่านี่ไม่ใช่เวลามาโปรโมทความยิ่งใหญ่ของทหาร
สถานการณ์ตอนนี้ยังไม่มีอะไรดีขึ้น ในทางที่จะนำไปสู่สันติภาพ ไม่ใช่สงคราม ข่าวเรื่องมีการยิงเมื่อตอนตีสองถึงสี่ครึ่งวันนี้ (๒๗ กรกฎา) ก็ยังฟังไม่ได้สรรพ ใครเป็นคนยิงกันแน่ ไทยว่าเขมรยิง เขมรก็ว่าไทย เวลานี้สงครามหน้าจอคอมพิวเตอร์หนักกว่าใดๆ
มองลึกๆ ข้อเสนอครั้งนี้ทำให้ ‘ทรั้มพ์’ ดูดีขึ้นเยอะ ในภาพลักษณ์การเมืองภายใน ’เมกา ด้วยข้ออ้างว่าถ้าเขมร-ไทยไม่เจรจากัน ก็อย่าหวังจะได้เจรจาการค้ากับไอ ทางไทยย่อมคิดไตร่ตรองทันที แต่เขมรไม่ต้อง รอถามจีนก่อน จนป่านนี้ยังไม่มีท่าทีอะไรออกมา
อีกละ ขออาศัยเกาะชายเสื้อแจ็คเก็ต Pavin Chachavalpongpun เพราะเห็นคล้อยบทวิเคราะห์ของเขาที่ว่า สหรัฐต้องการ “รักษาอิทธิพลของตนและป้องกันไม่ให้จีนเข้ามามีบทบาทโดดเด่นแต่เพียงผู้เดียว” ขณะที่จีนก็ปกป้องกัมพูชาเต็มที่
ผลพลอยได้จากการอุ้มพันธมิตรของจีน ก็คือฉวยโอกาส “เล่นบทบาทต่อต้านจักรวรรดินิยม ซึ่งสอดคล้องกับวาทกรรมการเมืองของจีนเอง” แล้วไทยล่ะ ปวินแนะไว้หลายข้อตรงตามหลักความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ไม่ว่าความแม่นยำในหลักฐาน หรือเน้นมนุษยธรรม
สำคัญที่สุดอยู่ที่ “การสื่อสารที่เป็นเอกภาพและทรงพลัง” คือต้องมี “เสียงเดียวที่ชัดเจน” เช่น กระทรวงการต่างประเทศหรือโฆษกรัฐบาล “ต้องหยุดปัญหาการที่หลายหน่วยงานต่างคนต่างพูดซึ่งทำให้เกิดความสับสน” เพื่อหยุดนักรบไซเบอร์ทั้งหลายไปพร้อมกันด้วย
(https://www.facebook.com/pavinchachavalpongpun/posts/xuBCsEf2vK, https://www.facebook.com/fuadi.pitsuwan/posts/2u9rB5vjXT และ https://prachatai.com/journal/2025/07/113904)