การเมืองไทยไม่ไปไหน วนลู้ปกลับมาที่การเกิดของ ส.ส.งูเห่าอีกครั้ง บ่งบอกถึงความอดอยากปากแห้งของ ส.ส.ที่ต้องไปเป็นฝ่ายค้านเหล่านี้ ต่างกับพรรคประชาชนที่มั่นคงกับหลักการ นอกจากไม่รับข้อเสนอแล้วยังออกมาเปิดโปงขบวนการเสียด้วย
มิใยที่ ประเสริฐ จันทรรวงทอง แก้เกี้ยวกลายๆ ว่าพรรคเพื่อไทยมีเสียง ส.ส.ร่วมรัฐบาลท่วมท้นอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องได้ ‘งูเห่า’ มาเพิ่ม อ้างอย่างเดียวว่า ส.ส.เหล่านั้นฟังอภิปรายของฝ่ายรัฐบาลแล้วเกิดความซาบซึ้งเลยโหวตให้
รองนายกฯ นั่งกระทรวง ดีอี คนนี้มาจากวงการเมืองรุ่นเก๋า ไม่คู่ควรกับงานกระทรวงเกี่ยวกับเทคโนโลยี่ก้าวหน้า การมองภาพประเทศจึงมักทำให้รัฐบาลดูด้อยค่า ‘ไม่สมกับนายกฯ อ้างเป็นคน เจ็นวาย’ ล่าสุดโดน ส.ส.รักชนกเหน็บเจ็บ
“ท่านนายกฯ สะกิดท่านประเสริฐหน่อย นั่งแช่เก้าอี้ รมว.ดีอี มา ๒ ปีแล้ว พ.ร.ก.ยังไม่คลอด ถ้าพูดกันตามหลัก ๒ ปีงานไม่คืบต้องปรับออกแล้วนะคะ” พรก.ที่ว่าคือ “พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี”
ที่ “กำหนดให้สถาบันการเงินและเครือข่ายมือถือ ต้องร่วมรับผิดชอบความเสียหายจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ด้วย” งานในตำแหน่งหน้าที่ไม่เดินแล้ว งานการเมืองของพรรคก็ติดหล่มจมปลัก แม้ยักไหล่ปฏิเสธไม่ได้เสาะหางูเห่ามาเข้าพรรค
แต่สถานการณ์มันฟ้อง กรณีที่ ส.ส.พรรคประชาชน จว.ระยอง กฤช ศิลปชัย เปิดโปงว่า เขาถูกทาบทามให้เป็นงูเห่าก่อนการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ในครั้งนี้ แรกเสนอให้สิบล้านถ้าโหวตสวนมติพรรคประชาชน
ต่อมาราคาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถึง ๒๐ ล้านเพื่อโหวตให้รัฐบาล มีอ็อปชั่นถ้าถูกขับจากพรรค ยินดีรับย้ายพรรคด้วยเงินอีก ๕ ล้าน แถมแพ็คเกจ เงินเดือน ๒ แสน ๕ หมื่น อีกทั้งถ้าพาพวกมาด้วยครบสิบคน กลุ่มงูเห่านี้จะได้ตำแหน่งรัฐมนตรีแถม
เมื่อเขาตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อมา ปรากฏว่าเป็นของกรรมการบริหารพรรคการเมืองหนึ่ง เป็นนักธุรกิจเกี่ยวกับยานยนต์และปั๊มน้ำมัน ซึ่งพรรคนี้มีงูเห่าอยู่หลายตัวด้วย” ครั้นสำนักข่าวต่างๆ ขุดคุ้ยว่างูเห่าเหล่านั้น ใครบ้าง
มีจากพรรค ไทยสร้างไทย ๕ คน ไม่ว่าคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ จะประณามงูเห่าเหล่านี้ขนาดไหน ข้เท็จจริงบนจุดยืนของพวกเขา อยู่ที่ความ “อิ่มหมีพีมัน” เช่นกันกับอีกสามคนที่มาจากพรรคไทยก้าวหน้า พรรคพลังประชารัฐ และพรรคเสรีรวมไทย แห่งละคน
(https://www.youtube.com/watch?v=hrrK6gBD36Q และ https://www.matichon.co.th/politics/news_5111064)