วันอังคาร, ธันวาคม 03, 2567

'พิชัย' รมว.คลังไอเดียปิ๊ง นอนคิดมาแล้วทุกคืน ว่าขึ้นภาษีค่า VAT ดีแน่ ลดช่องว่างรวยและจนได้ คือรวยจ่ายน้อยลงเท่าจนที่จ่ายเพิ่มไง

อย่าว่าแต่นายกฯ ที่เอาเรื่องนอกบริบทของปัญหามาโต้คำครหาเลย แม้แต่รองนายกฯ ระดับพี่เลี้ยงอย่าง รมว.คลัง ก็ยังใช้ตรรกะข้างๆ คูๆ เหมือนกัน ชวนสังเกตุ แม้จะเป็นคนละเรื่อง ต่างกรรมต่างวาระแหละนะ

พิชัย ชุณหวชิร ไปพูดในงานเสวนาธุรกิจยั่งยืนจัดโดย นสพ.กรุงเทพธุรกิจ แบไต๋ว่า “ขณะนี้กระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างศึกษาการปรับโครงสร้างภาษีประเทศ” ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เล็กๆ นะนี่ จึงไม่แปลกที่มีชาวโซเชียลออกมาซัดทันควัน

ทั่นรองฯ บอกว่าในปัจจุบันเรามีฐานภาษีที่จัดเก็บจากรายได้ต่ำ โดยเฉพาะภาษีการบริโภค หรือ VAT –มูลค่าเพิ่มซึ่งใช้ % นั้น “โดยเว้นจากกฎหมายที่ระบุให้เก็บได้ถึง ๑๐%” รมว.คลังเสริมด้วยว่า ทั่วโลกเขาเก็บภาษีประเภทนี้ที่อัตรา ๑๕-๒๕%

มาดูเหตุผลแบบลงลึกของทั่นรองฯ สิว่า “หากเก็บสูงขึ้นในสัดส่วนที่เหมาะสม จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คนรายได้ต่ำอยู่รอด โดยช่องว่างระหว่างรายได้คนรวยและคนจนจะลดลง” คนธรรมดาอย่างเราๆ ก็งงไม่นิดหน่อยละ ทั่นอุตส่าห์อธิยายต่อ

“การเก็บภาษีเยอะขึ้นจะทำให้ช่องว่างเล็กลงอย่างไร ก็เรียนว่า ทุกประเทศก็จ่ายเหมือนกัน เช่น จีนเก็บภาษี Vat ๑๙% สิงคโปร์ ๙% จากเดิมที่อยู่ ๕% แต่เรายังอยู่ที่ ๗% และหลายประเทศในยุโรปขึ้นไปหลักเกือบ ๒๐%” ก็ยังไม่ตอบปัญหา ช่องว่าง อยู่ดี

รมว.คลังไม่ลดความพยายาม “สมการง่ายๆ คือ ภาษีบริโภคเก็บจากทุกคน แน่นอนว่าการบริโภคเป็นไปตามฐานะ หมายความว่า เราเก็บภาษีอัตราต่ำ แปลว่า ทุกๆ คนจ่ายต่ำ เงินที่ไปกองกลางก็เป็นเงินยอดต่ำ” แล้วช่องว่างอยู่ตรงไหนทั่น

“ถ้าเก็บสูงขึ้นคนรวยมากๆ จ่ายสูงขึ้น คนรวยปานกลางจ่ายสูงขึ้น เงินกองกลางก็ใหญ่ขึ้น สามารถหยิบเงินกองกลางมาส่งผ่านให้กับคนรายได้น้อย” ฮ้า คนรายได้ต่ำก็ต้องจ่ายมากขึ้นด้วยมิใช่หรือ อย่างนี้มันขูดเลือดปูดีๆ นี่เอง

ขนาดทั่นบอก “ในแง่นโยบายการเงินทางด้านรายได้ของภาครัฐ ซึ่งผมนอนคิดทุกคืนว่าจะทำอย่างไร ก็จะทำให้คนเข้าใจก่อน เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน น่านสิ ใครฟังก็ต้องคิดแบบรายนี้ @kingreporter วิพากษ์ผ่านติ๊กต็อก

เขาว่าเราเสียภาษีเงินได้แบบขั้นบันได ถ้าไม่เกิน ๑๕๐,๐๐๐ บาท ได้รับยกเว้น จากนั้นก็ลดหลั่นกันขึ้นไป แสนห้าถึงสามแสนเสีย ๕% ขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึง ๓๕% ที่เกณฑ์เงินได้สูงกว่า ๕ ล้านบาทขึ้นไป เขาอ้างว่าแผนของคลังจะปรับเป็น ๑๕% เท่ากันหมด

อย่างนี้ไม่แฟร์แน่ๆ ทำจริงไม่จริงแค่ไหนไม่สำคัญเพราะแนวคิดนั้นแค่เริ่ม ยังไม่ได้เสนอเข้ารัฐบาลแต่ว่าการคิดแบบนี้อันตราย และจะเป็นพิษเป็นภัยกับคนรายได้น้อย เพราะมันคนละส่วนกันการเก็บภาษีและการให้สวัสดิการ แม้เงินจะมาจากแหล่งเดียวกัน

คนที่เคยเสีย ๕% ต้องมาจ่ายเพิ่มเป็น ๑๕% กับคนที่เคยเสีย ๓๕% ได้ลดเหลือ ๑๕% นอกจากเพิ่ม ๑๐% กับลด ๒๐% มันเสียเปรียบกันอยู่แล้ว จะให้คนที่ไม่มีพอต้องจ่ายเพิ่มเพื่อหวังได้รับความช่วยเหลือภายหน้าน่ะหรือ ตรรกะน่าเกลียดน่ะ

(https://x.com/lo6dfu8jt/status/1863741368805552329 และ https://www.thansettakij.com/business/economy/613496)