Get Surariddhidhamrong
Yesterday
เมื่อวานผมได้พูดคุยกับพรรคไทยภักดีและผู้สนับสนุนพรรค ผมได้แชร์ว่า ผมเองก็ไม่ใช่คนชังชาติ ผมเองก็อยากให้สังคมพัฒนาไปในทางที่ดี แม้จุดยืนหรือมุมมองต่อสถาบันกษัตริย์ขอบเราอาจไม่เหมือน แต่ในระบอบประชาธิปไตย เราสามารถอภิปราย และถกเถียงกันได้ เมื่อพูดคุยถึงที่สุดแล้ว ก็ทำประชามติ ให้สังคมตัดสินว่าไอเดียแบบไหนจะถูกซื้อ
ผมได้พูดอย่างตรงไปตรงมาว่า ถึงจุดยืนเราจะไม่เหมือนกัน แต่ถ้าเราอยากให้สังคมดีขึ้น ก็น่าจะนั่งคุยกันได้ ไม่จำเป็นต้องมาไล่ด่าว่าใครเป็นพวกล้มเจ้า ชังชาติ หรือร้านแรงถึงขั้นพยายามทำร้ายกันอย่างที่กลุ่มศปปส.ทำ
ทางหมอวรงค์บอกว่า “กลุ่มปกป้องสถาบันเองก็มีหลายกลุ่มจะเหมารวมไม่ได้ ถ้าผิด ต่อให้พวกเดียวกันก็หมอก็ไม่เว้น ต้องว่าไปตามผิด” มีสมาชิกพรรคบางคนบอกว่า “มองพวกผมเป็นอนาคตของชาติ และอยากมานั่งคุยกับพวกเรา”
ท่ามกลางความชุลมุนและเวลาที่จำกัด ผมเลยขอถ่ายรูปกับสมาชิกพรรคคนนี้ ผมถามว่า “การชูสามนิ้วของผม พี่สบายใจรึเปล่าครับ” เขาก็ตอบว่า “เป็นสิทธิเสรีภาพของน้องครับ” แล้วเราก็ได้ภาพนี้ออกมา
ถ้าบรรยากาศการพูดคุยแลกเปลี่ยนเป็นปลอดภัยอย่างนี้ได้ทุกครั้ง ทัศนะทางความรู้ในสังคมคงเปิดกว้างขึ้น
ส่วนพวกที่ดีแต่ใช้กำลัง พูดจาด้วยตรรกะไม่รู้ความ ก็คงต้องปล่อยให้เขาเน่าเปื่อยไปตามเวลา ก็อย่างที่หมอวรงค์ว่า กลุ่มปกป้องสถาบันฯ ก็มีหลายจำพวก
เร็ว ๆ นี้เราอาจจะได้เห็นเวทีแลกเปลี่ยนสาธารณะเรื่องมุมมองสถาบันกษัตริย์ ที่สงบและสันติกันนะครับ
ขอบคุณภาพจาก ไข่แมวชีส
(https://www.facebook.com/photo/?fbid=6114202761990813&set=a.400075410070272)