วันจันทร์, พฤศจิกายน 17, 2568

โกง VAT เป็นพันล้านเลยหรอพี่ เขาทำกันยังไงนะ แล้วจะแก้ยังไง ?


โกงภาษี VAT 3,000 ล้าน เขาทำกันยังไงนะ ? ลองดูคำตอบในคลิปนี้กัน

TAXBugnoms

Aug 27, 2021

เค้าโกงภาษีกันยังไง? ถึงได้เงิน 3 พันล้าน พรี่หนอมชวนมาลองทำความเข้าใจภาษีจากเรื่องนี้กันครับ 

จากข่าวคดีโกงภาษีมูลค่าเพิ่ม จำนวนกว่า 3 พันล้านบาทในปี 55-56 เราลองมาดูกันว่า เหตุการณ์นี้่เกิดขึ้นได้อย่างไรและทำไมถึงสามารถโกงภาษีได้มากขนาดนี้ 

องค์ประกอบสำคัญของเรื่องนี้มี 3 จุด 

1. การจัดตั้งบริษัทปลอมเพื่อใช้งาน กลุ่มบริษัทปลอมจำนวน 25 บริษัทโดยมีการใช้ข้อมูลส่วนตัวของบุคคลอื่นๆ มาปลอมแปลงเป็นกรรมการบริษัท (Nominee) กลุ่มบริษัทนี้ทำธุรกิจส่งออกโลหะ ผ่านการซื้อสินค้าและบริการในประเทศ และมีการส่งออกไปยังต่างประเทศ 

2. การใช้ช่องทางขอคืน VAT จากการส่งออก หลักการของภาษีมูลค่าเพิ่ม หากมีการส่งออกจะเสียภาษีในอัตรา 0% ของสินค้าที่ส่งออก ดังนั้นจึงแปลว่าบริษัทมีสิทธิ์ขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม จากการซื้อสินค้าหรือบริการในประเทศได้ นอกจากนั้น ยังไม่ทราบว่าข้อมูลการขอคืนภาษี เอกสารต่างๆ นั้นมีข้อเท็จจริงการจัดการแบบไหน อาจจะมีตกแต่งหรือจัดทำเอกสารเท็จเพิ่มเติมก็เป็นได้ครับ 

3. การตรวจสอบที่ไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริง การตรวจสอบเพื่อคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม จะต้องมีการตรวจสอบข้อมูลในหลายประเด็น เช่น การมีอยู่ของกิจการ รายการซื้อขาย รายการชำระเงิน สินค้าคงเหลือ ฯลฯ แต่ในกรณีนี้มีการตรวจสอบแค่ใบขนสินค้าที่ผ่านพิธีการศุลกากร เท่านั้น โดยไม่ได้มีการตรวจสอบอื่น ๆ ประกอบพร้อมกับใช้อำนาจในการสั่งคืนภาษีดังกล่าว 

ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้น คือ บริษัทปลอม ส่งออกปลอมแต่มีการขอคืนเงินจริงจากรายการปลอมๆเหล่านี้โดยใช้อำนาจที่มิชอบของเจ้าหน้าที่ในการสั่งคืนจนมีผลกระทบที่ร้ายแรงกว่า 3 พันล้านบาท โดยคดีที่เกิดขึ้นนี้ ศาลได้พิพากษาแล้วให้จำคุกข้าราชการทั้งสองที่เกี่ยวข้องและชดเชยค่าเสียหายแก่สรรพากร พร้อมกับริบของกลาง (ทองคำแท่ง) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

อย่างไรก็ดี เราก็ยังคงต้องติดตามกันต่อไป
...


Thanom Ketem
November 14
·
โกง VAT เป็นพันล้านเลยหรอพี่
และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่รัฐต้องเจอ
---

เมื่อใบกำกับภาษีถูกใช้ปล้นเงินคืนจากรัฐ
ผ่านการขอคืน "ภาษีมูลค่าเพิ่ม" ที่ไม่มีจริง
---

สรุปข่าวสั้นทันเหตุการณ์วันนี้

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 เจ้าหน้าที่ CIB + ปอศ. + สรรพากร
บุก 11 จุดพร้อมกันใน ตาก / เชียงใหม่ / ลำปาง / กรุงเทพฯ

เป้าหมายคือเครือข่ายการโกง VAT
ที่ต่อยอดจาก “รุ่นพ่อ” ไปสู่ “รุ่นลูก”

Phase 1 พ่อ = ความเสียหาย 1,100 ล้าน
Phase 2 ลูก = พัฒนาต่อยอดอีกกว่า 1,000 ล้าน
รวมแล้ว 2,100 ล้านบาทที่หายไป

ว่าแต่เขาโกงกันยังไง ?
---

เขาโกง VAT กันยังไง?
คำตอบคือ โกงโดยการส่งออกไปนอกประเทศ

ศัพท์เทคนิคเรียกว่า
กลโกงแบบ Carousel Fraud

แต่อ่านไม่ออก เรียกแบบไทยละกันว่า
"ส่งออกแบบหลอกๆ แล้วมาหลอกรัฐอีกที"

Step ตามนี้

1. ตั้งบริษัทเยอะ ๆ ช่วยกันสร้างรายการ
เปิดกันให้มากที่สุด จะได้มีทั้ง "ผู้ซื้อและผู้ขาย"

2. สร้างธุรกรรมหลอกๆ แต่บวกราคาเพิ่ม
ซื้อขายกันเอง แกล้งส่งเอกสารไปมา
แต่ของมักไม่มีจริง เน้นขายเอายอดให้ดูเยอะ

3. จุดสำคัญ "ปั่นราคาให้สูงขึ้นทุกทอด
ราคาที่เพิ่มขึ้น จะถูกคิด VAT 7% ไปเรื่อย ๆ
ดังนั้นราคายิ่งสูง → VAT ยิ่งสูงขึ้นไป
และจะไปมียอดสูงสุดจนถึงไม้สุดท้าย

4. บริษัทสุดท้าย = ผู้ส่งออก
การ“ส่งออก” ไปต่างประเทศ
ได้รับสิทธิ์เสีย VAT ในอัตรา 0%
นั่นแปลว่า ภาษีซื้อ (VAT) ที่เคยจ่ายมา
"ขอ คืน ได้" ทั้งหมดเลยจ้า

5. ก็ยื่น “ขอคืน VAT” เต็มจำนวน

อ้างว่าจ่ายภาษีซื้อมารัว ๆ
สุดท้ายรัฐก็ต้อง “คืนเงิน" ให้

ปัญหาคือ ทำไมรัฐไม่รู้ ?
คำตอบ คือ เขาเนียนกันขึ้นเรื่อย ๆ
---

เอาปลอมใส่จริง ก็น่าจะจริงสิน่า

ก่อนหน้านี้แค่ปลอมใบกำกับภาษี
ขอคืนกันแบบปลอม ๆ หลอกแบบง่ายไป

แต่เดี๋ยวนี้มิจจี้เขาพัฒนาแล้ว

บริษัทจริงมีหน้าร้านจริง มียอดส่งออกจริง
แต่เอาธุรกรรมปลอมไปยัดในกองธุรกรรมจริง

เหมือนซ่อนใบไม้ใบเดียวที่หลงเหลือไว้ในป่า
อะไรอะ ไม่ใช่แล้ว มันคือการเนียนไปอีกขั้น

ธุรกรรมปลอมถูกซ่อนอยู่ใน “กองธุรกรรมจริง”
ทำให้การตรวจเจอความผิดปกติยากขึ้น

กว่าจะเจอก็สายเสียแล้ว เฮ้อ
แต่ยังไม่จบ เศร้ากว่านี้่อีกนิดได้ไหม

เพราะเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก
เมื่่อก่อนเขาก็โกงกัน 3,000 ล้านบาทมาแล้ว
---

เรื่องนี้ทำให้นึกถึง
คดีโกง VAT มูลค่า 3,000 ล้านบาท
เมื่อประมาณเกือบ ๆ 10 ปีที่ผ่านมา

อันนั้นก็ใช้หลักการแบบนี้ เหมือนกัน
เพียงแต่มีการร่วมมือของ "คนใน"
ทำให้อะไร ๆ ก็ง่าย สะดวก และรวดเร็ว

แต่คดีล่าสุดนี้ เหมือนจะใช้แค่ช่องโหว่เดียวกัน
แต่เพิ่มความซับซ้อนให้ตรวจสอบไม่ทันการมากกว่า

อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างก็ยังทำเหมือนเดิม
และก็พังเหมือนเดิมจากระบบเดิม ๆ

เพราะอะไรนะ ?
---

ทำไมเรื่องนี้ถึงเกิดซ้ำวน?
เหมือนวังน้ำวนวนเชี่ยวไปเรื่อย ๆ

เดาเล่น ๆ มาจาก 3 เรื่องหลัก คือ

1. ใบกำกับภาษีแบบกระดาษ
ปลอมง่าย ขายบิลง่าย คล่องจัด
ตรวจย้อนหลังยากแบบมหาศาล

โดนเจอทีก็หนักอยู่
แต่หลายคนก็รู้ว่าเสี่ยงยังขอลอง

2. แยกระบบ

ด้วยความเคารพจากใจ
หน่วยงานรัฐข้อมูลไม่เชื่อมกัน

แยกบริษัท แยกยื่นภาษี แยกส่งออก
รู้ตัวอีกทีเขาก็หลอกไปเสียแล้ว

3. งานที่หนักเกินไป

ต่อให้ไม่มีคนใน แต่กำลังตรวจไม่พอ
ใช้ระบบการตรวจสอบแบบ "สุ่มตรวจ"
ก็๋แปลว่ามีโอกาสที่จะหลุดรอดได้

บ่นมานาน เอาทางแก้บ้างดิ
โอเค จัดไปครับ
---

แก้ยังไง

1. เลิกกระดาษ
e-Tax Invoice & e-Receipt แบบ 100% ดูสิ
ทุกอย่างเชื่อมข้อมูลกัน ตรวจสอบกันได้

2. เชื่อมข้อมูลรัฐ
หน่วยงานสำคัญ ใช้ข้อมูลร่วมกันได้ไหม
เพื่อสร้างการวิเคราะห์ความเสี่ยงอัตโนมัติ

3. ตรวจสอบข้ามประเทศ
ส่งออกจริง ต้องตรวจสอบได้
อันนี้อยู่ที่ความร่วมมือระหว่างประเทศละ

4. เพิ่มอำนาจถ่วงดุล ระบบแจ้ง + สินบนนำจับ
อย่าให้อำนาจใหญ่อยู่ที่ใครคนใดคนหนึ่ง
คนที่แจ้งเบาะแส ได้รับเงินรางวัลจูงใจ
รับรองมันกว่านี้อีกเยอะแล้วครับผม
---

ออกตัวทิ้งท้ายอีกที

ทั้งหมดนี้เขียนจากข้อมูลที่ค้นคว้ามา
อาจจจะมีตกหล่นไปบ้างในบางประเด็น

แต่คิดว่าน่าจะทำให้เข้าใจมากขึ้นครับ
ขอบคุณครับ

https://www.facebook.com/photo/?fbid=10162484886428450&set=a.284039943449
.....


ปอศ.-สรรพากร ทลายเครือข่าย โกงภาษีมูลค่าเพิ่ม รวบลูกสาวตัวการใหญ่ เข้าคุกตามรอยพ่อ พบทำรัฐเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท หลังลุยค้น 11 จุด 4 จังหวัด
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_10019533