“การที่รัฐสภาจะพยายามยืนว่า สสร.มาจากการเลือกของประชาชน สวนความเห็นศาลรัฐธรรมนูญ ผมว่านี่มันสำคัญไม่แพ้การได้แก้รัฐธรรมนูญเลย” สว.บัสเปิดประเด็นบนเพจ Tewarit Bus Maneechai ของเขา “หรือถ้าไม่มั่นใจ ก็ถามประชามติครั้งแรกไปด้วยเลย”
คือในการทำประชามติครั้งแรก มีสองคำถาม เท่ากับรวมการทำประชามติสองครั้งแรกไว้ด้วยกัน ได้ตามที่ ตลก.รธน.ทั่นสั่งไว้ คำถามแรกว่า “ท่านเห็นด้วยกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไหม คำถามที่สอง ท่านเห็นว่าหากทำใหม่ สสร.ควรมาจากการเลือกตั้งโดยตรงไหม”
ถ้าเสียงประชามติให้ทำ รธน.ใหม่ โดยใช้ สสร.จากการเลือกตั้งโดยตรง คำสั่ง ตลก.ก็หมดความหมาย “มันคือยันหลักการ เรียกว่า รัฐธรรมนูญฉบับวัฒนธรรมก็ได้ ว่าอำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน ศาลรัฐธรรมนูญจะมาดักทางไม่ได้”
ยิ่งถ้าเสียงสนับสนุนแก้ รธน.โดย สสร.จากการเลือกตั้งมีมากกว่า ๑๖ ล้าน การเพิ่มหมวด ๑๕ “ว่าด้วยการจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่” ซึ่ง ชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเสนอไว้ก่อนไปเป็นฝ่ายค้าน ก็จะง่ายขึ้น
“สว.ก็คงค้านยาก ในเมื่อประชาชนแสดงมติแล้ว” เทวฤทธิ์ถึงกับย้ำว่า “ไม่ใช่รัฐสภาเป็นผู้บอกว่า สสร.มาจากการเลือกของประชาชนโดยตรง หากแต่ประชาชนผู้ทรงอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญเป็นคนบอกเองว่าต้องเป็นแบบนี้” แล้วก็
“การไปหา สสร.ทางอ้อมเพราะกลัวจะมีคนร้องและจะทำให้ล่าช้านั้น ผมว่ายังไงก็คุ้มที่จะล่าช้า ดีกว่าดันไปเรื่อยๆ สุดท้ายเราอาจต้องถอยไม่รู้อะไรอีกในอนาคต”
