
Paul Adithep
11 hours ago
·
สื่อไทยช่วยทำให้ความเกลียดชังต่อชาวเขมรเป็นเรื่อง “ปกติ”
วันก่อนครับ เห็นองค์กรสื่อของไทยออกมาประณามสื่อเขมรว่าบิดเบือนข่าวสาร ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้กับรัฐบาล พร้อมแก้ต่างข้อกล่าวหาที่ว่า สื่อไทย “ขาดจริยธรรมในการรายงานข่าวสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา” โดยทางองค์สื่อไทยชี้แจงว่า
“องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนไทยขอยืนยันว่า สื่อมวลชนไทยมีระบบการกำกับดูแลกันเองทางด้านจริยธรรมที่เข้มแข็ง ยึดมั่นและเคารพในสิทธิเสรีภาพของประชาชนและสื่อมวลชนอย่างเต็มที่ พร้อมยืนยันเจตนารมณ์ในการรายงานข่าวตามหลักจริยธรรม ความเป็นกลาง ความครบถ้วนรอบด้าน ไม่ยุยงให้เกิดความเกลียดชังระหว่างประชาชนทั้ง 2 ประเทศ และต้องการให้เกิดสันติภาพในพื้นที่ชายแดนอย่างแท้จริงและยั่งยืน”
ผมเชื่อนะครับว่ามีสื่อที่ทำหน้าที่ได้ดีอยู่มากมาย แต่ยังมีสื่อไทยอีกไม่น้อยเลยครับที่รายงานความขัดแย้งไทย-เขมรอย่างไม่เป็นกลาง ไม่ครบถ้วนรอบด้าน และมีส่วนขยายความเกลียดชังระหว่างทั้ง 2 ประเทศ
เหมือนอย่างวันก่อนที่มีนักวิชาการอ้างว่า ไทยไม่เคยให้สัตยาบันข้อตกลงวอชิงตัน ไทยจึงยังมีสิทธิเหนือพระตะบอง เสียมราฐ และศรีโสภณ ปรากฏว่า MGR Online (t.ly/WaR_Z) ก็เอาโพสต์ของนักวิชาการรายนี้ไปลงทั้งดุ้น เช่นเดียวกับ ไทยโพสต์ (t.ly/XvTcU) ที่อ้างชื่อนักวิชาการกลุ่มเดียวกัน และเนื้อหาทำนองเดียวกัน (ทวงคืนเกาะกง-พระตะบอง-เสียมราฐ)
ทั้งๆ ที่เรื่องนี้สามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ง่ายๆ จากเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา หรือหานักประวัติศาสตร์สักคนมาช่วยตรวจสอบข้ออ้างดังกล่าว แต่สื่อทั้งสองเลือกที่จะไม่ทำ ไม่มีความพยายามที่จะถ่วงน้ำหนักข้อมูลใดๆ มันจึงขาดทั้งการทำหน้าที่เบื้องต้นในฐานะสื่อ ขาดความเป็นกลาง และความครบถ้วนรอบด้าน กลายเป็นการสร้างมายาคติปลอมๆ ว่าไทยยังมีอธิปไตยเหนือดินแดนบางส่วนในเขมรปัจจุบันยิ่งยุยงให้ผู้อ่าน “ฮึกเหิม” และอยากทวงสิทธิ (ที่ไม่มีอยู่จริง)
หรือเหตุการณ์ล่าสุดที่ชาวเน็ตไทยใช้เอไอทำภาพกล่าวหาว่าโฆษกกองทัพเขมรมีสัมพันธ์สวาทกับฮุนเซ็น สื่อไทยก็เอาไปเล่นต่ออย่างสนุกสนาน ทั้ง MGR Online (t.ly/mF0TH) เรื่องเล่าเช้านี้ (t.ly/O0tLE) CH7HD (t.ly/q56S1) คมชัดลึก (https://www.facebook.com/komchadluek/posts/1208688601298766) Nation TV (https://www.facebook.com/watch/?ref=saved&v=1920566502026114)
แม้ส่วนใหญ่จะยอมรับว่าเป็นภาพที่ทำขึ้นโดยเอไอ (ยกเว้น MGR ที่บอกว่า “ยังไม่ยืนยัน”) แต่ทุกรายก็ยังนำเสนอภาพโดยไม่มีการปิดบังใดๆ ทั้งๆ ที่สื่อสามารถรายงานข่าวดังกล่าวได้ โดยไม่จำเป็นต้องแพร่กระจายภาพที่รู้อยู่แล้วว่าเป็นความเท็จสู่สาธารณะเพิ่มเติม (เชื่อว่าถ้าเปลี่ยนจาก “มาลี” เป็นคนไทยสักคน สื่อไทยคงไม่ใช้มาตรฐานการปฏิบัติเดียวกัน)
นอกจากนี้ สื่อกระแสหลักบางรายยังให้พื้นที่ “ชาวบ้าน” ในการแสดงความเกลียดชังต่อชาวเขมรได้อย่างเต็มที่ เช่น ปล่อยให้ด่าชาวเขมรว่า “ไอ้พวกเขมรหัวค…” (สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว https://www.facebook.com/watch/?v=1302002161282163)
การกระทำของสื่อข้างต้นไม่ต่างกับการช่วยรับรองพฤติกรรมที่แสดงถึงอคติและความเกลียดชังต่อชาวเขมรว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ ไม่ต้องสนหลักมนุษยธรรม จริยธรรม หรือกฎหมายข้อใด ไม่ผิดไม่ติดคุก เผลอๆ ทำแล้วอาจดังได้ออกสื่ออีก
ตอนนี้เราจึงเห็นการทำภาพเอไอใส่ร้ายชาวเขมรอย่างแพร่หลาย โดยเป้าหมายไม่ได้จำกัดอยู่แต่บุคลากรในกองทัพเขมรเท่านั้น ประชาชนชาวเขมรทั่วไปที่แสดงความเห็นเข้าข้างประเทศตัวเอง (ซึ่งนักชาตินิยมไทยก็ควรจะเข้าใจได้ว่าเกิดจากอะไร) ก็โดนกันถ้วนหน้า
เรื่องเหล่านี้ คนไทยที่เชื่อในหลักมนุษยธรรมย่อมรู้อยู่แล้วว่าผิด แต่นักชาตินิยมล้นเกินที่เชื่อว่าตัวเองกำลังทำสิ่งที่ถูกต้องในนามของชาติอยู่ก็ต้องพึงสังวรณ์ไว้ว่า ในระดับนานาชาติ การเหยียดเชื้อชาติเป็นเรื่องที่ผิด การสร้างหลักฐานเท็จเพื่อใส่ความผู้อื่นไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง
การส่งเสริมให้ใช้ขบวนรถทัวร์ชาวเน็ตไทยไปถล่มชาวเขมรโดยไม่ได้ถกเถียงกันด้วยเหตุผลไม่ได้ทำให้คุณมีความชอบธรรมเหนือกว่าอีกฝ่าย อย่างกรณีที่อินฟลูฯ ชาวเขมรออกมาเรียกร้องสันติภาพและการยุติสงครามด้วยวิธีทางการทูต แม้ว่าเค้าจะยืนยันว่าไทยยิงก่อน ถ้าคุณไม่เห็นด้วยก็ไม่มีสิทธิไปเหยียดเชื้อชาติของเค้า หรือไปทำภาพเอไอมาใส่ร้ายเค้า
หากมองอย่างเป็นกลาง คนทั่วไปย่อมเห็นว่าชาวเน็ตไทยคงไม่สามารถโต้แย้งข้ออ้างของอินฟลูฯ ชาวเขมรได้จึงใช้วิธีการเหยียดหยามและใส่ความแทน นำไปสู่การสรุปความแบบรวบรัดว่า ไทยเองนั่นแหละที่เป็นฝ่ายก้าวร้าว และยิ่งทำให้ข้ออ้างของอินฟลูฯ ชาวเขมรมีน้ำหนักมากขึ้นโดยที่เค้าไม่ต้องโต้แย้งอะไร
และเมื่อความเกลียดชังต่อชาวเขมรถูกทำให้เป็น “เรื่องปกติ” จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เห็นคนไทยจำนวนมากออกมาสนับสนุนการเลือกปฏิบัติต่อชาวเขมรในประเทศไทย การทำลายชื่อเสียงของคนเขมรที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเริ่มต้นความขัดแย้งด้วยวิธีการสกปรก การเรียกร้องให้ถล่มปราสาทตาควายเพื่อขับไล่ทหารเขมร การบุกยึดพื้นที่ที่ไทยไม่มีสิทธิใดๆ ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ เรื่อยไปจนถึงการยึดครองเขมรทั้งประเทศและขับไล่ชาวเขมรออกจากแผ่นดินเกิด (ethnic cleansing: https://www.facebook.com/slowerlife/posts/1313399140144531)
สุดท้ายครับ จากหลักฐานที่ปรากฏ สื่อไทยมีส่วนอย่างยิ่งในการปล่อยข้อมูลเท็จเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างไทยกับเขมร และมีส่วนช่วยขยายบาดแผลความเกลียดชังระหว่างสองชาติ องค์กรสื่อไทยจึงน่าจะลองหันกลับมาสำรวจตัวเองอีกสักรอบครับ เผื่อว่าตอนที่ร่างแถลงการณ์วันก่อนอาจจะมองตกมองหล่นไปบ้าง และหวังว่าประโยคที่ว่า “สื่อมวลชนไทยมีระบบการกำกับดูแลกันเองทางด้านจริยธรรมที่เข้มแข็ง” จะเป็นความจริงครับ
https://www.facebook.com/photo/?fbid=31260416863542084&set=a.106211759389335