
Sarawut Hengsawad
August 21
·
ในวงสนทนาเมื่อคืนกับมิตรสหายและท่านศาสดา-ธเนศ วงศ์ยานนาวา เรานินทาเอไอกันหลายเรื่องอยู่หลายชั่วโมง ขอทดความคิดจากทุกๆ คนเก็บไว้แบ่งปันกัน
1. อ.ธเนศบอกว่า ระวังด้วยเพราะ "ความรู้" ของเอไอส่วนใหญ่เป็นความรู้ของคนขาว ถ้ารับมาแบบไม่เอ๊ะและใช้ไปเรื่อยๆ เราก็จะถูกครอบงำวิธีคิดโดยไม่รู้ตัว
2. กระแสพัฒนาเอไอมีคนได้ประโยชน์กระจุกนึง แต่ผลกระทบนั้นอาจกระจายไปในวงกว้าง เช่น คนโดนแย่งงาน รวมถึงสิ่งแวดล้อม
3. เอไออาจไม่ได้ใช้น้ำในลักษณะน่าเป็นห่วง แต่พลังงานที่ใช้มหาศาล คนที่ใช้จะได้ประโยชน์จากมัน แต่คนไม่ใช้จะได้รับผลกระทบ เพราะมีคนดึงทรัพยากรไปใช้
4. ทุกการใช้งานที่เราทำงานสะดวกขึ้นมีรายจ่ายของโลกและคนอื่นๆ ควรมีนโยบายบังคับจัดการเรื่องนี้ยังไงบ้าง
5. เอไอท้าทายการกำกับความคิดและกำหนดตัวตนของประชาชนโดยการศึกษาภาครัฐ เพราะเด็กๆ จะเข้าถึงความรู้แบบอื่นที่รัฐกำกับดูแลยาก
6. แต่เด็กๆ และประชาชนส่วนใหญ่ก็ยังโตมากับบทเรียนหลัก ประวัติศาสตร์ และเรื่องเล่าหลักจากตำราของรัฐอยู่ (รัฐประชาชาติยังเอาอยู่)
7. เอไอทำให้เรา "ได้คำตอบ" เสมอ เราจะเสียความสามารถในการเฝ้ารอและความไม่แน่ใจไป
8. ความไม่แน่ใจมันเปิดโอกาสให้เราคิดหาความเป็นไปได้อื่นและฝึกความอดทนด้วย
9. เด็กๆ จะเชื่อพ่อแม่ครูอาจารย์น้อยลงไหม เพราะคำตอบจากเอไอนั้นครบถ้วน ง่าย และฉลาดกว่าคนรอบตัวเขา
10. การท่องเที่ยวก็เปลี่ยนไป เราอาศัยข้อมูลเป๊ะๆ ที่เอไอรวบรวมมาให้จากรีวิว เรา "หลง" ยากขึ้น ไปที่เดียวกันซึ่งเป็นที่ยอดฮิต จะหลงไปเจออะไรแปลกๆ น้อยลง
11. หากพลาดจะรู้สึกแย่กับตัวเอง เช่น ถ้าไปกินข้าวร้านไม่อร่อยจะรู้สึกแย่มาก เพราะมีโอกาสหาข้อมูลและรีวิวแบบชัดๆ แล้วจากเอไอ เรารับมือกับความไม่แน่นอนได้แย่ลง
12. วิธีอ่านหนังสืออาจเปลี่ยนไป อยากได้อะไรที่ตรงประเด็นมากขึ้น พรรณาน้อยลง สรุปมาเป็นบุลเล็ต กระชับสั้น
13. เมื่อวิธีอ่านเปลี่ยนไป วิธีเขียนก็เปลี่ยนไปด้วย (เหมือนโพสต์นี้)
14. ถ้าเราป้อนข้อมูลเท็จเข้าไปมากพอและนานพอ มันจะถูกทำซ้ำๆๆๆๆ จนกลายเป็นข้อมูลที่ถูกนำไปใช้ จนกลายเป็นความจริง เช่น คุณธเนศอาจไม่เคยพูดเรื่องนี้เลย แต่ถูกผลิตซ้ำๆ สุดท้ายคนรุ่นหลังจะเข้าใจว่าคุณธเนศพูด เพราะมันไปอยู่ในแหล่งข้อมูลของเอไอแล้ว
15. เดี๋ยวนี้เวลาอะไรเจ๋งๆ ดีๆ จะสันนิษฐานว่า "เอไอป่าววะ" เท่ากับว่าเราด้อยค่าความสามารถมนุษย์อยู่เหมือนกัน
16. เอไอและหุ่นยนต์ตอบโจทย์การทดแทนแรงงานในประเทศที่คนเกิดน้อย ประชากรน้อย เช่น ยุโรป ญี่ปุ่น แต่ในไทยอาจเป็นอีกเรื่อง คนอาจตกงานได้เพราะคนเยอะ (แม้อัตราเกิดลดก็ตาม)
17. เอไอช่วยเยียวยาจิตใจคนจำนวนนึงจนอยากคุยกับมันมากกว่าแฟน พ่อแม่ พี่น้อง
18. ถ้าบริษัทเทคทำรายได้เยอะ ภาครัฐยิ่งอำนวยความสะดวก แทนที่จะชะลอหรือกำกับ ความเหลื่อมล้ำมีโอกาสสูงขึ้น
19. ประเทศเล็กจะยิ่งเสียเปรียบ เพราะได้แต่เป็นผู้ใช้
20. ตระหนักเสมอว่ามีคนไม่ได้ใช้เอไออีกเยอะมากในประเทศนี้ ซึ่งอาจจะเป็นครึ่งนึงของประเทศก็เป็นได้ ฉะนั้น ประเด็นเอไอยังไม่ใช่ประเด็นของคนส่วนใหญ่ในประเทศ
โปรดระวังการเป็น "คนช่วยขายของ" ให้เอไอทั้งหลาย ยิ่งพูดถึงมันก็ยิ่งช่วยพ่อค้าเทคทั้งหลายขายของ (โพสต์นี้ด้วยสินะ)
เขียนแล้วเหนื่อย แอบคิดว่าถ้าอัดเสียงไว้แล้วให้เอไอสรุป มันจะทำได้ดีกว่าที่ผมทำเยอะเลย แต่นี่แหละ เรายังพยายามบอกว่า เราสำคัญและมีความสามารถอยู่ ทั้งที่มันเก่งกว่าหลายอย่างแล้ว
#นิ้วกลมบันทึก
·
ในวงสนทนาเมื่อคืนกับมิตรสหายและท่านศาสดา-ธเนศ วงศ์ยานนาวา เรานินทาเอไอกันหลายเรื่องอยู่หลายชั่วโมง ขอทดความคิดจากทุกๆ คนเก็บไว้แบ่งปันกัน
1. อ.ธเนศบอกว่า ระวังด้วยเพราะ "ความรู้" ของเอไอส่วนใหญ่เป็นความรู้ของคนขาว ถ้ารับมาแบบไม่เอ๊ะและใช้ไปเรื่อยๆ เราก็จะถูกครอบงำวิธีคิดโดยไม่รู้ตัว
2. กระแสพัฒนาเอไอมีคนได้ประโยชน์กระจุกนึง แต่ผลกระทบนั้นอาจกระจายไปในวงกว้าง เช่น คนโดนแย่งงาน รวมถึงสิ่งแวดล้อม
3. เอไออาจไม่ได้ใช้น้ำในลักษณะน่าเป็นห่วง แต่พลังงานที่ใช้มหาศาล คนที่ใช้จะได้ประโยชน์จากมัน แต่คนไม่ใช้จะได้รับผลกระทบ เพราะมีคนดึงทรัพยากรไปใช้
4. ทุกการใช้งานที่เราทำงานสะดวกขึ้นมีรายจ่ายของโลกและคนอื่นๆ ควรมีนโยบายบังคับจัดการเรื่องนี้ยังไงบ้าง
5. เอไอท้าทายการกำกับความคิดและกำหนดตัวตนของประชาชนโดยการศึกษาภาครัฐ เพราะเด็กๆ จะเข้าถึงความรู้แบบอื่นที่รัฐกำกับดูแลยาก
6. แต่เด็กๆ และประชาชนส่วนใหญ่ก็ยังโตมากับบทเรียนหลัก ประวัติศาสตร์ และเรื่องเล่าหลักจากตำราของรัฐอยู่ (รัฐประชาชาติยังเอาอยู่)
7. เอไอทำให้เรา "ได้คำตอบ" เสมอ เราจะเสียความสามารถในการเฝ้ารอและความไม่แน่ใจไป
8. ความไม่แน่ใจมันเปิดโอกาสให้เราคิดหาความเป็นไปได้อื่นและฝึกความอดทนด้วย
9. เด็กๆ จะเชื่อพ่อแม่ครูอาจารย์น้อยลงไหม เพราะคำตอบจากเอไอนั้นครบถ้วน ง่าย และฉลาดกว่าคนรอบตัวเขา
10. การท่องเที่ยวก็เปลี่ยนไป เราอาศัยข้อมูลเป๊ะๆ ที่เอไอรวบรวมมาให้จากรีวิว เรา "หลง" ยากขึ้น ไปที่เดียวกันซึ่งเป็นที่ยอดฮิต จะหลงไปเจออะไรแปลกๆ น้อยลง
11. หากพลาดจะรู้สึกแย่กับตัวเอง เช่น ถ้าไปกินข้าวร้านไม่อร่อยจะรู้สึกแย่มาก เพราะมีโอกาสหาข้อมูลและรีวิวแบบชัดๆ แล้วจากเอไอ เรารับมือกับความไม่แน่นอนได้แย่ลง
12. วิธีอ่านหนังสืออาจเปลี่ยนไป อยากได้อะไรที่ตรงประเด็นมากขึ้น พรรณาน้อยลง สรุปมาเป็นบุลเล็ต กระชับสั้น
13. เมื่อวิธีอ่านเปลี่ยนไป วิธีเขียนก็เปลี่ยนไปด้วย (เหมือนโพสต์นี้)
14. ถ้าเราป้อนข้อมูลเท็จเข้าไปมากพอและนานพอ มันจะถูกทำซ้ำๆๆๆๆ จนกลายเป็นข้อมูลที่ถูกนำไปใช้ จนกลายเป็นความจริง เช่น คุณธเนศอาจไม่เคยพูดเรื่องนี้เลย แต่ถูกผลิตซ้ำๆ สุดท้ายคนรุ่นหลังจะเข้าใจว่าคุณธเนศพูด เพราะมันไปอยู่ในแหล่งข้อมูลของเอไอแล้ว
15. เดี๋ยวนี้เวลาอะไรเจ๋งๆ ดีๆ จะสันนิษฐานว่า "เอไอป่าววะ" เท่ากับว่าเราด้อยค่าความสามารถมนุษย์อยู่เหมือนกัน
16. เอไอและหุ่นยนต์ตอบโจทย์การทดแทนแรงงานในประเทศที่คนเกิดน้อย ประชากรน้อย เช่น ยุโรป ญี่ปุ่น แต่ในไทยอาจเป็นอีกเรื่อง คนอาจตกงานได้เพราะคนเยอะ (แม้อัตราเกิดลดก็ตาม)
17. เอไอช่วยเยียวยาจิตใจคนจำนวนนึงจนอยากคุยกับมันมากกว่าแฟน พ่อแม่ พี่น้อง
18. ถ้าบริษัทเทคทำรายได้เยอะ ภาครัฐยิ่งอำนวยความสะดวก แทนที่จะชะลอหรือกำกับ ความเหลื่อมล้ำมีโอกาสสูงขึ้น
19. ประเทศเล็กจะยิ่งเสียเปรียบ เพราะได้แต่เป็นผู้ใช้
20. ตระหนักเสมอว่ามีคนไม่ได้ใช้เอไออีกเยอะมากในประเทศนี้ ซึ่งอาจจะเป็นครึ่งนึงของประเทศก็เป็นได้ ฉะนั้น ประเด็นเอไอยังไม่ใช่ประเด็นของคนส่วนใหญ่ในประเทศ
โปรดระวังการเป็น "คนช่วยขายของ" ให้เอไอทั้งหลาย ยิ่งพูดถึงมันก็ยิ่งช่วยพ่อค้าเทคทั้งหลายขายของ (โพสต์นี้ด้วยสินะ)
เขียนแล้วเหนื่อย แอบคิดว่าถ้าอัดเสียงไว้แล้วให้เอไอสรุป มันจะทำได้ดีกว่าที่ผมทำเยอะเลย แต่นี่แหละ เรายังพยายามบอกว่า เราสำคัญและมีความสามารถอยู่ ทั้งที่มันเก่งกว่าหลายอย่างแล้ว
#นิ้วกลมบันทึก