วันพฤหัสบดี, สิงหาคม 28, 2568

“พิพัฒน์” พ่อค้าจากบุรีรั มย์ ถูกสั่งฟ้องคดี ม.112 ที่พัทลุง เหตุโพสต์ตั้งคำถามถึงกรณีประหารชีวิต “ชิต บุศย์ เฉลียว” - เคสนี้ มันไม่ใช่แค่พยานมีอคติ ต้องถามว่าอัยการมีอคติด้วยหรือเปล่า


ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
11 hours ago
·
“พิพัฒน์” พ่อค้าจากบุรีรัมย์ ถูกสั่งฟ้องคดี ม.112 ที่พัทลุง เหตุโพสต์ตั้งคำถามถึงกรณีประหารชีวิต “ชิต บุศย์ เฉลียว”
.
.
27 ส.ค. 2568 ที่ศาลจังหวัดพัทลุง พิพัฒน์ วิเศษชุมพล พ่อค้าผลผลิตทางการเกษตรจากบุรีรัมย์ วัย 33 ปี เดินทางไปฟังคำสั่งฟ้องคดีที่เขาถูกกลุ่มแกนนำกลุ่มประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบันกล่าวหา ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) เหตุจากการโพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับกรณีการประหารชีวิต “ชิต บุศย์ เฉลียว” จากเหตุการณ์สวรรคตของรัชกาลที่ 8
.
คดีนี้ พิพัฒน์เดินทางจากบุรีรัมย์ไปรับทราบข้อกล่าวหา ที่ สภ.ควนขนุน จ.พัทลุง พร้อมกับทนายความ เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 2567 หลังได้รับหมายเรียกที่ระบุว่ามี ทรงชัย เนียมหอม แกนนำกลุ่มประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน เป็นผู้กล่าวหา
.
ข้อกล่าวหารระบุเป็นเหตุจากข้อความบนเฟซบุ๊กที่ผู้กล่าวหาอ้างว่าตรวจพบ เมื่อวันที่ 14 เม.ย. 2566 โดยข้อความดังกล่าวเป็นภาพถ่ายจากกรณี “บังเอิญ” ศิลปินที่พ่นสีสเปรย์ข้อความที่กำแพงวัดพระแก้วเมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2566 แต่ภาพดังกล่าวมีการตัดต่อข้อความที่พ่นบนกำแพงให้ต่างไปจากเดิม และผู้โพสต์ข้อความได้เขียนข้อความประกอบ โดยตั้งคำถามเรื่องการฆ่าตัวตายและอุบัติเหตุ พร้อมถามว่า “แล้วประหาร ชิต บุศย์ เฉลียว ทำไมครับ” และกล่าวถึงว่าผู้กระทำดังกล่าวไม่ใช่คนดี
.
พิพัฒน์ได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ก่อนพนักงานสอบสวนให้ปล่อยตัวไป จากนั้นมีการส่งสำนวนคดีให้การพนักงานอัยการภาค 9 ไปเมื่อเดือนตุลาคม 2567 และอัยการมีการนัดฟังคำสั่งเรื่อยมา เดือนละ 1 ครั้ง จนกระทั่งอัยการมีคำสั่งฟ้องคดี และพิพัฒน์ต้องเดินทางจากบุรีรัมย์มาฟังคำสั่งฟ้อง
.
นนทวัฒน์ เกลี้ยงเกลา พนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 4 ภาค 9 ได้เป็นผู้เรียงฟ้องคดีนี้ โดยสรุปกล่าวหาว่า เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2566 ถึงวันที่ 14 เม.ย. 2566 ต่อเนื่องกัน จำเลยได้หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ โดยได้โพสต์ภาพและข้อความลงในเฟซบุ๊กของจำเลย ที่เปิดบัญชีเป็นสาธารณะให้ประชาชนทั่วไปเข้าถึงได้
.
อัยการบรรยายว่าภาพและข้อความดังกล่าว มีความมุ่งหมายให้ผู้อ่านเกิดความเข้าใจเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งสมัยในหลวงรัชกาลที่ 8 ที่ถูกคนร้ายลอบปลงพระชนม์ และต่อมาได้มีการดำเนินคดีต่อนายชิต นายบุศย์ นายเฉลียว และศาลฎีกามีคำพิพากษาให้ลงโทษบุคคลทั้งสามดังกล่าว เป็นการบิดเบือนใส่ร้ายจากบุคคลในสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นการกล่าวร้ายป้ายสีใส่ความสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นการจาบจ้วง ล่วงเกิน ดูหมิ่น หมิ่นประมาท และแสดงความอาฆาตมาดร้ายรัชกาลที่ 9 ผู้เป็นพระราชบิดาซึ่งได้สวรรคตไปแล้ว และรัชกาลที่ 10 พระมหากษัตริย์ผู้เป็นพระราชโอรส อันทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติยศ ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรตามประมวลกฎหมายอาญา
.
อัยการระบุว่าหากจำเลยขอปล่อยตัวชั่วคราวขอให้อยู่ในดุลยพินิจศาล
.
ต่อมาหลังศาลรับฟ้องไว้ ได้มีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวจำเลย โดยให้วางหลักทรัพย์จำนวน 100,000 บาท แต่หากผิดสัญญาประกันให้ปรับเป็นเงิน 200,000 บาท หลักทรัพย์ได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนราษฎรประสงค์ พร้อมกำหนดวันนัดคุ้มครองสิทธิ ในวันที่ 17 ก.ย. 2568 และนัดพร้อมวันที่ 29 ก.ย. 2568
.
สำหรับพิพัฒน์จบการศึกษาด้านวิศวกรรม แต่กลับไปประกอบอาชีพค้าขายผลผลิตทางการเกษตรในจังหวัดบุรีรัมย์ ก่อนหน้านี้เคยไปร่วมกิจกรรมทางการเมืองในวันสำคัญอยู่บ้าง แต่ไม่ได้เป็นแกนนำใด ๆ
.
.
จากการติดตามของศูนย์ทนายฯ พบว่า ทรงชัย เนียมหอม ผู้กล่าวหาในคดีนี้ เป็นผู้แจ้งความคดีมาตรา 112 และ 116 กระจายไปในหลายสถานีตำรวจในหลายจังหวัดทางภาคใต้ อาทิ ในจังหวัดพัทลุง, สงขลา, ตรัง, กระบี่, สุราษฎร์ธานี รวมทั้งในกรุงเทพฯ โดยทราบว่ามีผู้ถูกดำเนินคดีไม่น้อยกว่า 19 คดีแล้ว (แยกเป็นคดีมาตรา 112 จำนวน 17 คดี และคดีมาตรา 116 จำนวน 2 คดี)
.
ส่วนใหญ่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นประชาชนทั่วไป ไม่ได้อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ถูกแจ้งความ ทำให้แต่ละคนมีภาระและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปต่อสู้คดี
.
.
อ่านบนเว็บไซต์จากลิงก์https://tlhr2014.com/archives/77817
https://www.facebook.com/photo/?fbid=1178876287416173&set=a.656922399611567

Atukkit Sawangsuk 7 hours ago
มันไม่ใช่แค่พยานมีอคติ
ต้องถามว่าอัยการมีอคติด้วยหรือเปล่า