วันอาทิตย์, สิงหาคม 03, 2568

ข้อเสนอ อ.ปวิน ถ้าหาทางออกไม่ได้ ต่อปัญหาเรื่องเขตแดนหรือพื้นที่ทับซ้อน ก็ทำเป็นดินแดนพัฒนาร่วมกัน


Pavin Chachavalpongpun
11 hours ago
·
เรื่องข้อพิพาททางพรมแดนและการแย่งชิงปราสาทระหว่างไทย-กัมพูชานั้น ดิชั้นขอเขียนทั้งจากมุมมองทางวิชาการและจากผู้ปฏิบัตินโยบายนะคะ การหาทางออกสำหรับเรื่องนี้ที่ยั่งยืนที่สุดคือการหลีกหนีจากกรอบการแบ่งแยกดินแดนแบบดั้งเดิม และหันมาสู่แนวทางการพัฒนาและแบ่งปันผลประโยชน์ร่วมกัน

1. ประการแรก ต้องยอมรับความจริงที่ว่าข้อพิพาทในพื้นที่เหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับโบราณสถานและประวัติศาสตร์ชาติ จะไม่สามารถแก้ไขได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดด้วยการแบ่งเส้นเขตแดน (delimitation) เพียงอย่างเดียว ด้วยเหตุผลที่ว่าพื้นที่เหล่านี้มักมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และจิตวิญญาณที่ซับซ้อนเกินกว่าจะขีดเส้นแบ่ง การพยายามแบ่งแยกจึงมักนำไปสู่ความรู้สึกสูญเสียและไม่เป็นธรรมของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ซึ่งจะกลายเป็นเชื้อไฟของความขัดแย้งในอนาคต แม้แต่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ก็อาจไม่สามารถให้คำตัดสินที่สามารถยุติข้อพิพาทในระดับจิตวิทยาและวัฒนธรรมได้อย่างแท้จริง เพราะคำตัดสินทางกฎหมายอาจไม่สอดคล้องกับความรู้สึกของประชาชนทั้งสองฝ่าย ดูจากกรณีเขาพระวิหาร เป็นต้น

2. ประการที่สอง การยึดติดกับวาทกรรมเชิงประวัติศาสตร์เกี่ยวกับอาณานิคมและการปลดปล่อย (decolonisation) มักจะเป็นอุปสรรคสำคัญในการหาทางออกที่สร้างสรรค์ วาทกรรมเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะปลุกเร้าอารมณ์ชาตินิยมและสร้างความชอบธรรมให้กับการใช้กำลังหรือการกระทำที่รุนแรง การพูดคุยที่วนเวียนอยู่กับว่าใครเป็นผู้ครอบครองพื้นที่ก่อน หรือใครเป็นผู้ที่เสียเปรียบจากยุคล่าอาณานิคม มีแต่จะทำให้ความขัดแย้งทวีความรุนแรงขึ้นและทำลายโอกาสในการสร้างความร่วมมือ การมองไปข้างหน้าจึงเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าการมองย้อนกลับไปในอดีต

3. ดังนั้น ทางออกที่เหมาะสมที่สุดในทางปฏิบัติคือการใช้แนวคิดเรื่อง "การพัฒนาร่วมและการแบ่งปันผลประโยชน์" (Joint Development and Benefit Sharing) แนวทางนี้เสนอให้ทั้งสองฝ่ายยอมรับสถานะของพื้นที่พิพาทว่าเป็นพื้นที่ที่ยังไม่สามารถกำหนดเขตแดนได้อย่างชัดเจน และแทนที่จะแย่งชิงความเป็นเจ้าของ ก็หันมาบริหารจัดการพื้นที่ร่วมกันเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนทั้งสองประเทศ แนวทางนี้จะช่วยปกป้องวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของชุมชนตามแนวชายแดนไม่ให้ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งทางการเมือง นอกจากนี้ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับโบราณสถานได้ โดยการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมเพื่อบริหารจัดการมรดกทางวัฒนธรรมร่วมกัน ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ร่วมกัน ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้และผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้กับประชาชนทั้งสองฝ่ายได้อย่างเท่าเทียมไม่มากก็น้อย และเปลี่ยนพื้นที่ที่เป็นชนวนของความขัดแย้งให้กลายเป็นพื้นที่แห่งความร่วมมือและสันติภาพอย่างแท้จริงในระยะยาว อ้อ การเจรจาเรื่องพรมแดนควรทำแบบสุขุม ไม่โฉ่งฉ่าง เพราะถ้าทำแบบที่ทำอยู่ คือ in the open ก็จะโดนไฟชาตินิยมเผาผลาญแบบที่เราเห็น จนไม่สามารถแก้ปัญหาได้สักทีค่ะ

...ดิชั้นเขียนข้อเสนอนี้ตั้งแต่ทำหนังสือเล่มนี้กับ อจ Charnvit Kasetsiri และทูตกัมพูชา Pou Sothirak ให้เราจำไว้เลยค่ะ ไอ้วาทกรรม "ตารางนิ้วนึงก็เสียไม่ได้" ไม่สามารถเอามาใช้แก้ไขปัญหาข้อพิพาททางพรมแดนได้ - ever!
 
https://www.facebook.com/photo?fbid=9763086027126406&set=a.104469196321519

Somrit Luechai
11 hours ago
·
ข้อเสนอ อ.ปวิน
ถ้าหาทางออกไม่ได้
ต่อปัญหาเรื่องเขตแดนหรือพื้นที่ทับซ้อน
ก็ทำเป็นดินแดนพัฒนาร่วมกัน
ข้อเสนอ อ.สมฤทธิ์
ถ้าแก้ไขก็ไม่ได้
ทำเป็นพื้นที่พัฒนาร่วมกันก็ไม่ได้
ปล่อยมันเป็นปัญหาอย่างนั่นแหละ
ไม่ต้องไปแก้มัน
ให้ลูกหลานในอนาคตมาแก้
ดีกว่าที่จะต้องไปรบกันครับ