วิดีโอ 10 นาทีนี้จะส่งผลต่อการทูตไทย-จีนอย่างไร? ชวนชมผลงาน ‘Listen to Indigenous People’ ที่ถูกถอดจากหอศิลป์กรุงเทพฯ - ใครกระจอก จีนหรือไทย ?!?

GROUNDCONTROL
12 hours ago
·
วิดีโอ 10 นาทีนี้จะส่งผลต่อการทูตไทย-จีนอย่างไร?
ชวนชมผลงาน ‘Listen to Indigenous People’ ที่ถูกถอดจากหอศิลป์กรุงเทพฯ
.
วันนี้ (9 สิงหาคม) กลายเป็นที่รับรู้กันทั่วโลกว่า ภายใต้แรงกดดันจากสถานทูตจีน หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครต้องถอดผลงานศิลปะบางชิ้นออกจากนิทรรศการ 'ดาราภิวัตน์ ■ ภูมิทัศน์เงา' (Constellation of Complicity) นิทรรศการนี้รวมผลงานจากศิลปินในเมียนมา อิหร่าน รัสเซีย ซีเรีย ชุมชนพลัดถิ่น และพื้นที่ที่มีข้อเรียกร้องด้านวัฒนธรรมและการปกครองตนเอง เพื่อสะท้อนความเชื่อมโยงของระบอบอำนาจนิยมทั่วโลก ที่ไม่ได้ดำรงอยู่แยกกัน แต่เชื่อมโยงกัน พัฒนาเป็นระบบ และมักได้รับการยอมรับอย่างเงียบงัน
.
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ผลงานที่ถูกนำออกจากการจัดแสดงก็คือ งานศิลปะเชิงติดตั้งโดยศิลปินสหสื่อชาวทิเบต ขณะที่ผลงานอีกหลายชิ้นถูกปรับเปลี่ยน โดยเซนเซอร์คำว่า 'ฮ่องกง' 'ทิเบต' และ 'อุยกูร์' รวมทั้งชื่อของศิลปิน หลังจากเจ้าหน้าที่สถานทูตจีนเข้าเยี่ยมชมนิทรรศการร่วมกับเจ้าหน้าที่กรุงเทพฯ และเรียกร้องให้ปิดงาน
.
ตามคำให้การของไซ ▇▇▇ ศิลปินผู้ร่วมคัดสรรนิทรรศการและผู้ก่อตั้ง 'เมียนมา พีซ มิวเซียม' เขาได้เดินทางออกนอกประเทศแล้ว หลังทราบว่าตำรวจไทยกำลังติดตามตัว อย่างไรก็ตาม สถานีตำรวจปทุมวันให้ข้อมูลกับรอยเตอร์สว่า ไม่ได้รับรายงานเรื่องนี้
.
อย่างไรก็ตาม Doc Tenzin ศิลปินทรานสต์ชาวธิเบตเจ้าของผลงานที่ถูกนำออก ไม่ได้โทษความผิดกับหอศิลปกรุงเทพฯ นัก เขาเชื่อว่าหอศิลปฯ ได้ทำดีที่สุดแล้วเพื่อจัดการสถานการณ์นี้
.
ผลงานวิดีโอ 'Listen to Indigenous People (A Trans Tibetan Scholar and Survivor Speaks on the Dalai Lama)' ซึ่งถูกนำออก สามารถรับชมได้ทางยูทูบของเขาเอง
.
ในวิดีโอ มีการเล่าเรื่องโดยแดร็กควีนให้เด็ก ๆ ฟัง และหยิบเหตุการณ์ที่ดาไลลามะ 'ให้เด็กดูดลิ้น' มาพูดถึง เพื่อชี้ให้เห็นว่า เมื่อโลกทัศน์แบบวัฒนธรรมทิเบตมาปะทะหรือถูก 'แปล' สู่โลกทัศน์จากวัฒนธรรมอื่น จะเกิดความต่างอย่างไร ทั้งหมดนี้ชวนให้ผู้ชมลองมองปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมนั้นจากสายตาของคนในวัฒนธรรมนั้นเอง แล้วเปรียบเทียบกับโลกทัศน์ที่ถูกประกอบสร้างผ่านรายงานหรือถ้อยคำที่แพร่กระจายทั่วไป
.
ผลงานยังเชื่อมโยงมิติการต่อสู้ของคนข้ามเพศและชุมชนชาวปาเลสไตน์ ขยายขอบเขตการรับรู้ของผู้ชมให้กว้างขึ้นไปอีก ตัวอย่างเล็ก ๆ นี้สะท้อนให้เห็นว่า นิทรรศการทั้งหมดกำลังพยายามทำอะไร
.
การปิดกั้นผลงานศิลปะในนิทรรศการครั้งนี้ อาจยิ่งทำให้ข้อเสนอของมันชัดเจนขึ้น ว่าระบอบอำนาจนิยมบนโลกเชื่อมโยงกันอย่างไร
.
ชมผลงานนี้ได้ที่ https://youtu.be/D3vbXduNFZo?si=irKKL9k0bvTYmpoB

https://www.facebook.com/photo?fbid=813528877681623&set=a.204432178591299