วันศุกร์, มิถุนายน 20, 2568

มีคนสงสัยสงสัยว่า แทนที่กลไกรัฐสภาจะไปฟ้องศาลว่านายกฯขายชาติ เบื้องต้นควรทำหน้าที่ตัวเองด้วยการตรวจสอบก่อนไหม ตั้งคำถาม เอาข้อเท็จจริงมาว่ากันก่อน เพื่อให้ชัดลงไปก่อนว่าที่ว่าผิดนั้นผิดยังไง


Noi Thamsathien
5 hours ago
·
เราสงสัยว่า แทนที่กลไกรัฐสภาจะไปฟ้องศาลว่านายกฯขายชาติ เบื้องต้นควรทำหน้าที่ตัวเองด้วยการตรวจสอบก่อนไหม รัฐสภาน่าจะทำได้ ถ้าสว.ไม่ทำ ฝ่ายสส.น่าจะทำ
คือเราลองนึกภาพเรื่องแบบนี้เกิดในตปท. กลไกรัฐสภาน่าจะทำหน้าที่
สเตปแรกคือสอบสวน ตั้งคำถาม เอาข้อเท็จจริงมาว่ากันก่อน โดยเฉพาะประเด็นโปรโตคอล เจตนา ฯลฯ เพื่อให้ชัดลงไปก่อนว่าที่ว่าผิดนั้นผิดยังไง ตอนนี้มีแต่คนวิจารณ์เต็มเมือง หลายอันมีเหตุผล หลายอันเว่อ รวมทั้งที่ปกป้องดัวย มันต้องมีกลไกอันใดสักอย่างทำหน้าที่นี้ และไม่ควรจะไปศาล
เวลานี้เราได้เห็นนายกออกมาแถลงกับสาธารณะ ขอโทษที่คิดไม่ถึงว่าจะมีการอัดเสียง คือมันเป็นการขอโทษกับปัญหาทางเทคนิคนะ แต่แม้กระทั่งปัญหาทางเทคนิคมันก็ยังมีประเด็น อย่างนายกบอกว่าโทรหนนี้ใช้โทรศัพท์ส่วนตัว คำถามคือการโทรแบบนี้ ในประเด็นการต่อรองเรื่องใหญ่อย่างนี้ มันใช้มือถือส่วนตัวโทรได้เหรอ การต่อรองแบบนี้มันควรต้องเป็นการโทรที่มีคนมอนิเตอร์ จนท.ความมั่นคงต้องประกบ มึล่ามของตัวเอง มีการบันทึกฝั่งตัวเองในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งหรือไม่ การใช้มือถือส่วนตัวโทรราวกับโทรหาเพื่อน มันหลุดโปรโตคอล แบบนี้มันทำให้การประท้วงที่ตามมามันทำได้แบบจืดๆ
แล้วสิ่งที่ต่อรองแลกเปลี่ยนมันต้องอยู่ในกรอบ ถ้ามีจนทอยู่ด้วยมันจะได้รู้ว่าอะไรทำได้ไม่ได้
ถ้ามีการสอบสวนแบบนี้ ซึ่งมันควรทำโดยกลไกรัฐสภา อย่างน้อยมันจะได้วางบรรทัดฐานว่าต่อไปผู้นำไทยจะติดต่อผู้นำประเทศใดจะได้มึบรรทัดฐาน คนทำจะได้รู้ตัวด้วยว่าที่ทำไปพลาดยังไงตรงไหน เพราะขณะนี้เกิดอาการเห็นไม่ตรงกัน เราว่าที่ทำไปแล้ว เผลอๆจนท.กระทรวงต่างประเทศกับสภาความมั่นคงคงจะงงว่าจะไปยังไงต่อ มันควรจะมีการทำอะไรที่วางแบบอย่าง ส่วนเรื่องใครอยากให้ออก/ยุบสภา ฯลฯ นั่นอีกเรื่อง คิดว่า
ผู้นำไทยหลายคนคิดว่า เมื่อมาเป็นผู้นำแล้วจะทำอะไรก็ได้ มีอำนาจเสียอย่าง ใช้ความเคยชินของตัวเองสร้างบรรทัดฐานใหม่ รัฐสภาก็น่าจะมีบทบาทช่วยวางบรรทัดฐานที่ควรจะเป็นดัวย ไม่งั้นเราจะเจอผู้นำที่เข้ามาพร้อมแอทติจูดว่าเป็นผู้นำแล้วทำอะไรก็ได้

https://www.facebook.com/noi.thamsathien/posts/3015202538646247