
การปิดช่องแคบฮอร์มุซ จะกลายเป็นไพ่ตายของอิหร่าน ในความขัดแย้งกับอิสราเอลได้หรือไม่ ?
บีบีซีนิวส์ แผนกภาษาเปอร์เซีย
18 มิถุนายน 2025
การโจมตีด้วยขีปนาวุธกันระหว่างอิสราเอลและอิหร่านทำให้เกิดความกังวลว่าอิหร่านอาจพยายามปิดเส้นทางเดินเรือช่องแคบฮอร์มุซ (Strait of Hormuz) ซึ่งเป็นจุดคอขวดของการขนส่งน้ำมันที่สำคัญที่สุดในโลก
น้ำมันดิบประมาณหนึ่งในห้าของโลกถูกขนส่งผ่านช่องแคบนี้ ซึ่งจุดที่แคบที่สุดกว้างเพียง 40 กิโลเมตร
ผู้บัญชาการกองทัพเรืออิหร่าน ระบุว่า อิหร่านอาจพิจารณาปิดช่องแคบดังกล่าว
เซอร์ อเล็กซ์ ยังเกอร์ อดีตหัวหน้าหน่วยข่าวกรองลับเอ็มไอซิกซ์ (MI6) ของสหราชอาณาจักร บอกกับบีบีซีว่า ฉากทัศน์ที่เลวร้ายที่สุดในทัศนะของเขา มีการปิดช่องแคบดังกล่าวรวมอยู่ด้วย
"การปิดช่องแคบแห่งนี้จะถือเป็นหายนะทางเศรษฐกิจ เมื่อพิจารณาถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อราคาน้ำมัน"

ทหารอิหร่านเข้าร่วม 'วันอ่าวเปอร์เซียแห่งชาติ' ในช่องแคบฮอร์มุซ
น้ำมันมากแค่ไหนถูกขนส่งผ่านช่องแคบฮอร์มุซ ?
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (Energy Information Administration - EIA) ประมาณการว่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2023 มีน้ำมันราว 20 ล้านบาร์เรล/วัน ถูกขนส่งผ่านช่องแคบฮอร์มุซ นี่เทียบเท่ากับมูลค่าการค้าพลังงานที่ขนส่งผ่านเส้นทางทะเลเกือบ 600,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี
การหยุดชะงักของเส้นทางเดินเรือดังกล่าวอาจทำให้การขนส่งน้ำมันทั่วโลกล่าช้าลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันทันที
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่า ผลที่ตามมาซึ่งอาจร้ายแรงกว่านั้นคือ การทวีความรุนแรงของความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน โดยการปิดช่องแคบดังกล่าวอาจเป็นการดึงประเทศอื่น ๆ รวมถึงสหรัฐฯ ซึ่งต้องพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันจากประเทศในอ่าวเปอร์เซีย เข้ามาในความขัดแย้งด้วย
ช่องแคบฮอร์มุซ แคบขนาดไหน ?
น้ำมันมากแค่ไหนถูกขนส่งผ่านช่องแคบฮอร์มุซ ?
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (Energy Information Administration - EIA) ประมาณการว่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2023 มีน้ำมันราว 20 ล้านบาร์เรล/วัน ถูกขนส่งผ่านช่องแคบฮอร์มุซ นี่เทียบเท่ากับมูลค่าการค้าพลังงานที่ขนส่งผ่านเส้นทางทะเลเกือบ 600,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี
การหยุดชะงักของเส้นทางเดินเรือดังกล่าวอาจทำให้การขนส่งน้ำมันทั่วโลกล่าช้าลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันทันที
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่า ผลที่ตามมาซึ่งอาจร้ายแรงกว่านั้นคือ การทวีความรุนแรงของความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน โดยการปิดช่องแคบดังกล่าวอาจเป็นการดึงประเทศอื่น ๆ รวมถึงสหรัฐฯ ซึ่งต้องพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันจากประเทศในอ่าวเปอร์เซีย เข้ามาในความขัดแย้งด้วย
ช่องแคบฮอร์มุซ แคบขนาดไหน ?

แผนที่แสดงช่องทางการเดินเรือบริเวณช่องแคบฮอร์มุซ
ช่องแคบฮอร์มุซ เป็นช่องแคบระหว่างอิหร่านและโอมาน โดยมีทางเข้าและทางออกที่กว้างประมาณ 50 กม. และจุดที่แคบที่สุดตรงกลางกว้างเพียง 40 กม.
อย่างไรก็ตาม ช่องแคบนี้มีความลึกพอสำหรับเรือขนาดใหญ่เพียงแค่บริเวณตอนกลางของช่องแคบเท่านั้น
แผนภูมิการเดินเรือทางทะเลได้กำหนดช่องทางขาเข้าและขาออกที่ปลอดภัย รวมถึงพื้นที่กันชนด้านข้างไว้เพื่อป้องกันการชนกันระหว่างเรือที่แล่นทั้งสองช่องทาง โดยการกำหนดเกณฑ์ทั้งหมดนี้ก็เพื่อการเดินเรือบรรทุกน้ำมันขนาดยักษ์โดยเฉพาะ ทำให้โดยรวมแล้วเรือขนาดใหญ่ต้องเดินเรือไปตามช่องทางที่มีความกว้างเพียงประมาณ 10 กม.
เมื่อเรือบรรทุกน้ำมันแล่นเข้าสู่อ่าวเปอร์เซีย เรือจะเข้าใกล้เกาะทูนบ์ (Tunb) ใหญ่และเล็ก ซึ่งเป็นดินแดนที่เป็นข้อพิพาทระหว่างอิหร่านและประเทศในแถบอาหรับ
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่า การดำเนินการทางทหารเป็นวิธีที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดในการขัดขวางการเดินเรือ ซึ่งเคยเกิดขึ้นในช่วงสงครามอิหร่าน-อิรัก เมื่อปี 1980 ถึง 1988

อิหร่านตั้งอยู่ที่ซีกบนของภาพถ่ายดาวเทียมของช่องแคบฮอร์มุซ โดยมีเกาะเกชม์ (Qeshm) และประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อยู่ทางทิศใต้
หลักการเชิงป้องกันของอิหร่าน
นักวิเคราะห์ต่างกล่าวว่าสำหรับอิหร่าน การปิดช่องแคบฮอร์มุซถือเป็นรูปแบบหนึ่งของการ "อำนาจเชิงป้องกัน" ซึ่งเปรียบได้กับการมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง
ขณะที่ประชาคมโลกคัดค้านโครงการนิวเคลียร์ทางการทหารของอิหร่านมาอย่างยาวนาน มหาอำนาจต่าง ๆ ก็ได้ออกมากล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า พวกเขาจะไม่อนุญาตให้รัฐบาลอิหร่านใช้ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของตนเองในเชิงยุทธศาสตร์เพื่อปิดกั้นแหล่งพลังงานของโลก
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า อิหร่านอาจสามารถปิดช่องแคบนี้ได้เพียงชั่วคราว แต่นักวิเคราะห์จำนวนมากก็มั่นใจเช่นกันว่า สหรัฐฯ และพันธมิตรจะสามารถฟื้นฟูการจราจรทางทะเลได้อย่างรวดเร็วด้วยการใช้กำลังทางการทหาร
อิหร่านอาจปิดช่องแคบฮอร์มุซได้ด้วยวิธีใดได้บ้าง ?

กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (Islamic Revolutionary Guard Corps - IRGC) มีเรือเร็วที่สามารถใช้ปิดช่องแคบฮอร์มุซได้
รายงานของสถาบันวิจัยนโยบายสาธารณะของรัฐสภาสหรัฐฯ (US Congressional Research Service) ในปี 2012 ระบุว่า อิหร่านอาจใช้แนวทางค่อยเป็นค่อยไปโดยมีขั้นตอนต่าง ๆ ในการปิดช่องแคบฮอร์มุซ ยกตัวอย่างเช่น
- ประกาศห้ามเดินเรือในช่องแคบฮอร์มุซ โดยไม่ระบุผลลัพธ์ที่จะตามมาหากมีการละเมิด
- ประกาศว่าเรือที่แล่นผ่านอาจถูกตรวจสอบหรือถูกยึด
- การยิงปืนเตือนใส่เรือ
- การกำหนดเป้าไปที่เรือบางลำด้วยกำลังทหาร
- การวางทุ่นระเบิดทางทะเลในช่องแคบฮอร์มุซและอ่าวเปอร์เซีย
- การใช้เรือดำน้ำและขีปนาวุธเพื่อกำหนดเป้าหมายไปที่เรือพาณิชย์และเรือรบ

อาเดรียนเด (Adriande) เรือบรรทุกน้ำมันของกรีซ ถูกโจมตีโดยอิหร่านในปี 1987 ระหว่างสงครามอิหร่าน-อิรัก
ในสงครามอิหร่าน-อิรัก อิหร่านได้นำขีปนาวุธซิลค์เวิร์ม (Silkworm) มาใช้ในการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันและวางทุ่นระเบิดทางทะเลในน่านน้ำอ่าวเปอร์เซีย โดยทุ่นระเบิดดังกล่าวลูกหนึ่งได้สร้างความเสียหายให้กับเรือ USS Samuel B Roberts และทำให้กองทัพสหรัฐฯ ตอบโต้
ทั้งนี้ ในตอนนั้นอิหร่านไม่สามารถปิดช่องแคบฮอร์มุซทั้งหมดได้ แต่ประเทศก็ได้เพิ่มเบี้ยประกันการเดินเรือให้สูงขึ้น และทำให้เกิดความแออัดของการเดินเรือที่บริเวณทางออกของอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งทำให้มีค่าใช้จ่ายสูงมากตามมา
ในสงครามอิหร่าน-อิรัก อิหร่านได้นำขีปนาวุธซิลค์เวิร์ม (Silkworm) มาใช้ในการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันและวางทุ่นระเบิดทางทะเลในน่านน้ำอ่าวเปอร์เซีย โดยทุ่นระเบิดดังกล่าวลูกหนึ่งได้สร้างความเสียหายให้กับเรือ USS Samuel B Roberts และทำให้กองทัพสหรัฐฯ ตอบโต้
ทั้งนี้ ในตอนนั้นอิหร่านไม่สามารถปิดช่องแคบฮอร์มุซทั้งหมดได้ แต่ประเทศก็ได้เพิ่มเบี้ยประกันการเดินเรือให้สูงขึ้น และทำให้เกิดความแออัดของการเดินเรือที่บริเวณทางออกของอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งทำให้มีค่าใช้จ่ายสูงมากตามมา
ความสามารถทางการทหารของอิหร่าน
สองวันก่อนที่อิสราเอลจะทำการโจมตีทางอากาศที่กรุงเตหะราน ซึ่งสังหาร พลตรีฮอสเซน ซาลามี ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน (IRGC) ในเวลานั้น โดยก่อนหน้าการโจมตี เขาได้ไปเยี่ยมหน่วยทหารเรือที่ประจำการอยู่ในช่องแคบฮอร์มุซ
เขากล่าวถึงอ่าวเปอร์เซียและพื้นที่โดยรอบว่าเป็นเขตป้องกันที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของอิหร่าน โดยเขาชี้ไปที่เรือยิงขีปนาวุธความเร็วสูงที่สามารถเดินทางได้ 10 กิโลเมตรในเวลาไม่ถึงสามนาที
สองวันก่อนที่อิสราเอลจะทำการโจมตีทางอากาศที่กรุงเตหะราน ซึ่งสังหาร พลตรีฮอสเซน ซาลามี ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน (IRGC) ในเวลานั้น โดยก่อนหน้าการโจมตี เขาได้ไปเยี่ยมหน่วยทหารเรือที่ประจำการอยู่ในช่องแคบฮอร์มุซ
เขากล่าวถึงอ่าวเปอร์เซียและพื้นที่โดยรอบว่าเป็นเขตป้องกันที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของอิหร่าน โดยเขาชี้ไปที่เรือยิงขีปนาวุธความเร็วสูงที่สามารถเดินทางได้ 10 กิโลเมตรในเวลาไม่ถึงสามนาที

พลเอกฮอสเซน ซาลามี ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม ถูกสังหารในการโจมตีด้วยขีปนาวุธของอิสราเอลในกรุงเตหะรานเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.
พลเอกซาลามี กล่าวว่าเรือโจมตีเร็ว เรือรบหนัก และขีปนาวุธเหล่านี้จะถูกนำมาใช้ในปฏิบัติการป้องกันประเทศ นอกจากนี้ เขายังเน้นย้ำว่าทุ่นระเบิดต่อต้านเรือของกองทัพเรือเป็น "อาวุธที่มีความสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในการรบทางน้ำ"
เขาเสริมด้วยว่า โดรนของกองทัพเรือได้รับการพัฒนา "ในแง่ของพิสัย ขีดความสามารถ และความหลากหลายของชนิดภารกิจ"
เชี่ยวชาญคาดการณ์สถานการณ์ข้างหน้าไว้อย่างไรบ้าง ?
ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าวิธีหนึ่งที่มีประสิทธิผลที่สุดของอิหร่านในการหยุดยั้งเรือราว 3,000 ลำที่แล่นผ่านเส้นทางช่องแคบนี้ในแต่ละเดือน ก็คือการวางทุ่นระเบิดโดยใช้เรือโจมตีเร็วและเรือดำน้ำ
กองทัพเรืออิหร่านและกองทัพเรือของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามอาจเปิดฉากโจมตีเรือรบและเรือพาณิชย์ของประเทศต่าง ๆ ได้
อย่างไรก็ตาม เรือรบขนาดใหญ่ของอิหร่านอาจกลายเป็นเป้าหมายที่ง่ายต่อการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลหรือสหรัฐฯ
เรือเร็วของอิหร่านมักถูกติดอาวุธด้วยขีปนาวุธต่อต้านเรือ และประเทศนี้ยังมีเรือผิวน้ำ เรือกึ่งดำน้ำ และเรือดำน้ำอีกด้วย
ปัจจุบัน เว็บไซต์ติดตามทางทะเลที่ใช้ภาพถ่ายดาวเทียม รายงานว่ามีการเคลื่อนไหวของเรือรบอิหร่านบริเวณใกล้พรมแดนทางทะเลตอนใต้ของประเทศ

กองทัพอิหร่านมีเรือรบหลายประเภท รวมถึงเรือความเร็วสูงด้วย
ประเทศใดจะกระทบหนักสุด หากอิหร่านปิดช่องแคบฮอร์มุซ ?
งานวิจัยของบริษัทวิเคราะห์ Vortexa ระบุว่า ซาอุดีอาระเบียส่งออกน้ำมันดิบประมาณ 6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ผ่านช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นปริมาณที่มากกว่าประเทศเพื่อนบ้านทุกประเทศ
จีน อินเดีย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบที่ผ่านช่องแคบฮอร์มุซ รายใหญ่ที่สุด
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ ประมาณการว่าในปี 2022 น้ำมันดิบและคอนเดนเสท (ไฮโดรคาร์บอนเหลวที่มีความหนาแน่นต่ำซึ่งมักพบในก๊าซธรรมชาติ) ประมาณ 82% ที่ออกจากช่องแคบแห่งนี้จะมุ่งหน้าสู่ประเทศในภูมิภาคเอเชีย
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 16 เม.ย. 2025 เพียงสามวันก่อนที่ขีปนาวุธของอิสราเอลจะโจมตีระบบป้องกันทางอากาศของอิหร่าน สำนักข่าวทางการของอิหร่านอย่าง IRNA ได้อ้างคำพูดของประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยุน ซุก-ยอล ที่กล่าวว่า น้ำมันของประเทศเกาหลีใต้ 60% ถูกส่งผ่านช่องแคบฮอร์มุซ
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ ยังระบุด้วยว่า สหรัฐฯ นำเข้าน้ำมันดิบและคอนเดนเสทจากช่องแคบแห่งนี้ประมาณ 700,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งคิดเป็นประมาณ 11% ของการนำเข้าน้ำมันทั้งหมด และคิดเป็น 3% ของการบริโภคน้ำมันเบนซิน
สัดส่วนของน้ำมันที่ยุโรปขนส่งผ่านช่องแคบแห่งนี้โดยรวมคาดว่าน่าจะน้อยกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน
เมื่อพิจารณาจากข้อมูลข้างต้น ดูเหมือนว่าความเป็นไปได้ของการปิดช่องแคบฮอร์มุซจะกระทบต่อประเทศอาหรับและประเทศในภูมิภาคเอเชียมากกว่าสหรัฐฯ หรือมหาอำนาจในยุโรป
ทั้งนี้ ประเทศในภูมิภาคเอเชียหลายชาติมีความสัมพันธ์ที่ดีหรือใกล้ชิดกับอิหร่าน
อิทธิพลของประเทศจีน

โรงกลั่นน้ำมันของจีนแปรรูปน้ำมันจำนวนมากซึ่งถูกขนส่งผ่านช่องแคบฮอร์มุซ
ประเทศจีนเป็นหนึ่งในชาติที่บริโภคน้ำมันที่ผ่านช่องแคบฮอร์มุซมากที่สุดรายหนึ่งของโลก โดยน้ำมันดังกล่าวจำหน่ายโดยอิหร่านในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาดโลก ซึ่งถือเป็นเส้นเลือดใหญ่ที่ช่วยให้กรุงเตหะรานรับมือกับการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ที่ทำให้เศรษฐกิจตกต่ำได้
ในฐานะผู้บริโภคน้ำมันของอิหร่านรายใหญ่ รัฐบาลกรุงปักกิ่งไม่น่าจะยินดีกับราคาน้ำมันที่สูงขึ้น หรือการหยุดชะงักของเส้นทางเดินเรือ โดยจีนอาจใช้วิธีทางการทูตอย่างเต็มที่เพื่อป้องกันการปิดเส้นทางพลังงานที่สำคัญนี้
อนัส อัลฮัจจี หุ้นส่วนบริษัทที่ปรึกษาด้านพลังงาน Outlook Advisors บอกกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซี (CNBC) ว่า การปิดช่องแคบฮอร์มุซอาจส่งผลเสียต่อพันธมิตรของอิหร่านมากกว่าศัตรู
"พวกเขา [อิหร่าน] ไม่ต้องการทำอะไรที่จะเป็นการทำร้ายตัวเองเป็นคนแรก" เขากล่าว

น้ำมันประมาณหนึ่งในห้าของโลกถูกขนส่งผ่านช่องแคบฮอร์มุซ
เส้นทางอื่น ๆ สามารถทดแทนช่องแคบฮอร์มุซได้หรือไม่ ?
การขู่อย่างต่อเนื่องเรื่องการปิดช่องแคบฮอร์มุซทำให้ประเทศผู้ส่งออกน้ำมันในภูมิภาคอ่าวเปอร์เซียต้องพัฒนาเส้นทางส่งออกอื่น ๆ ในช่วงตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ตามรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ ซาอุดีอาระเบียได้เปิดใช้งานท่อส่งน้ำมันตะวันออก-ตะวันตก ซึ่งเป็นท่อส่งน้ำมันยาว 1,200 กิโลเมตร และสามารถขนส่งน้ำมันดิบได้ถึง 5 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ในปี 2019 ซาอุดีอาระเบีย ได้ปรับเปลี่ยนท่อส่งก๊าซธรรมชาติชั่วคราวเพื่อขนส่งน้ำมันดิบ
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้เชื่อมต่อแหล่งน้ำมันภายในประเทศกับท่าเรือฟูไจราห์ ในอ่าวโอมานด้วยท่อส่งน้ำมัน โดยมีกำลังการผลิต 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ในเดือน ก.ค. 2021 อิหร่านได้เปิดตัวท่อส่งน้ำมัน โกเรห์-จัสก์ (Goreh-Jask) ซึ่งตั้งใจจะขนส่งน้ำมันดิบไปยังอ่าวโอมาน ท่อส่งน้ำมันนี้สามารถขนส่งน้ำมันได้ประมาณ 350,000 บาร์เรลต่อวัน แม้ว่ารายงานจะระบุว่าอิหร่านยังไม่ได้ดำเนินการใช้ท่อส่งน้ำมันดังกล่าวก็ตาม
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ ประมาณการว่า เส้นทางขนส่งเหล่านี้สามารถขนส่งน้ำมันได้ราว 3.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือคิดเป็นร้อยละ 15 ของปริมาณน้ำมันดิบที่จัดส่งผ่านช่องแคบฮอร์มุซในปัจจุบัน
https://www.bbc.com/thai/articles/c625352037wo