วันศุกร์, มิถุนายน 20, 2568

สงครามนิติตั้ง เค้าทมิฬ..... มาแล้ว 4 คดีร้อง 'แพทองธาร' ในวันเดียว หลังมีคลิปคุย 'ฮุน เซน'



มาแล้ว 4 คดีร้อง 'แพทองธาร' มรสุมหลังมีคลิปคุย 'ฮุน เซน'

19 มิถุนายน 2568
ประชาไท

จากกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปคุยส่วนตัวเรื่องการปิดชายแดนระหว่าง แพทองธาร และ ฮุน เซน ราว 17 นาที เมื่อ 18 มิ.ย. 68 ได้กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์โดยเฉพาะที่แพทองธาร พูดทำนองว่า แม่ทัพภาคที่ 2 และกองทัพ เป็นฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล และหลังจากนั้น 1 วัน นายกฯ ไทยก็ต้องเจอมรสุมทันที เพราะว่ามีคนไปร้องทั้ง ตร. และองค์กรอิสระ ให้ดำเนินคดีอาญา และถอดถอนออกจากตำแหน่ง รวม 4 คดีในวันเดียว
 
คดีที่ 1 : 'อดีต สว.สมชาย' 'ทนายนกเขา' และ 'คมสัน' แจ้งฐานความผิดความมั่นคง

19 มิ.ย. 2568 เว็บไซต์ มติชนออนไลน์ รายงานวันนี้ (19 มิ.ย.) ที่ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) สมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา นิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา และคมสัน โพธิ์คง นักวิชาการกฎหมาย เข้าแจ้งความดําเนินคดี แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตามประมวลกฎหมายอาญา หมวด 3 ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักร มาตรา 120 ถึง 128 จากกรณีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฯฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา และประธานวุฒิสภากัมพูชา ความยาว 17.06 นาที โดยผู้ร้องอ้างว่ามีพฤติกรรมล่อแหลม ส่งผลทําให้ประเทศชาติเสียหาย

สมชาย เปิดเผยว่า ในนามของกลุ่มประชาชนวันนี้มาดำเนินคดีทางอาญา กับแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งคลิปเสียงนี้ตัวนายกฯ เป็นคนยืนยันเองว่าเป็นของจริง และอ้างว่าเป็นเทคนิคการสนทนา ซึ่งในความเป็นจริงไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เนื่องจากมันมีผลกระทบต่อความมั่นคงภายนอกราชอาณาจักร จึงได้เข้าแจ้งความกับ บช.ก. เนื่องจากเพื่อให้เป็นไปตามขั้นตอนทางสำนวนคดีซึ่งจะมีการส่งให้อัยการสั่งฟ้องต่อไป

นอกจากนี้ อดีต สว. ระบุว่าจะมีการเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง เพราะในบางถ้อยคำเป็นการด้อยค่าแม่ทัพภาค 2 และเปิดเผยความลับหลายส่วนในกรณีของการเปิดและปิดด่านชายแดน อีกทั้งหากฮุน เซน ต้องการทำอะไรก็จะทำให้

สมชาย กล้าวด้วยว่า จะไปยื่นที่สำนักงานปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือไม่เป็นเรื่องในอนาคต ขณะที่ตำรวจต้องดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป พร้อมยืนยันว่าคลิปเสียงดังกล่าวมีผลสะท้อนต่อทางการเมืองอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ ในวันพรุ่งนี้ (20 มิ.ย.) เวลา 10.00 น. จะมีการเข้าเรียกประชุมจากภาคประชาชนที่รักประเทศชาติ เพื่อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก ซึ่งจะมีการนัดแนะสถานที่อีกครั้ง

คดีที่ 2 : กมธ.ทหาร สว. ยื่น ป.ป.ช.-ศาลรัฐธรรมนูญ ละเมิด รธน.หลายมาตรา

เว็บไซต์ มติชนออนไลน์ เมื่อ 19 มิ.ย. 2568 เวลา 11.00 น. ที่รัฐสภา พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา ประธานคณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา แถลงต่อสื่อมวลชน เรียกร้องให้แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง และในวันเดียวกัน พวกเขาจะยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. และศาลรัฐธรรมนูญ ถอดถอนออกจากตำแหน่งนายกฯ จากคลิปเสียงของนายกฯ เข้าข่ายการกระทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญหลายมาตรา โดยเฉพาะ มาตรา 160 ไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง


พลเอก สวัสดิ์ ทัศนา (ที่มา: วุฒิสภา)

พล.อ.สวัสดิ์ ระบุว่า กฎหมายที่แพทองธาร อาจเข้าข่ายละเมิด คือ รัฐธรรมนูญ มาตรา 5 กำหนดว่า บุคคลมีหน้าที่ป้องกันประเทศ พิทักษ์รักษาเกียรติภูมิ ผลประโยชน์ประเทศ และสาธารณสมบัติของแผ่นดิน

รัฐธรรมนูญ มาตรา 52 รัฐต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ เอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งอาณาเขตและเขตที่ประเทศ ไทยมีสิทธิอธิปไตย เกียรติภูมิ และผลประโยชน์ของชาติความมั่นคงของรัฐ และความสงบเรียบร้อย ของประชาชน เพื่อประโยชน์แห่งการนี้ รัฐต้องจัดให้มีการทหาร การทูตและการข่าวกรองที่มีประสิทธิภาพ

รัฐธรรมนูญ มาตรา 164 ในการบริหารราชการแผ่นดิน ครม.ต้องดำเนินการตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ และนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา และปฏิบัติหน้าที่ใช้อำนาจด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต รอบคอบ ระมัดระวังในการดำเนินกิจการต่างๆ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศ และประชาชนส่วนรวม

พล.อ.สวัสดิ์ กล่าวต่อว่า นายกฯ อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายอาญา หมวด 2 ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร และหมวด 3 ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักร ในมาตราต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ฐานกบฏ หรือคบคิดกับบุคคลซึ่งกระทำการเพื่อประโยชน์ของรัฐ ต่างประเทศหรือที่เป็นปรปักษ์ต่อรัฐ หรือร่วมเป็นข้าศึกของประเทศ และมาตรา 257 ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ส่งผลต่อการดำรงตำแหน่งทางการเมือง และตำหนิ แม่ทัพภาคที่ 2 ว่าเป็นคนละฝ่ายกับนายกฯ และฮุน เซน ถือเป็นการสร้างความแตกแยกในชาติ เข้าข่ายไม่ซื่อสัตย์สุจริต ละเมิดจริยธรรมร้ายแรงของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามรัฐธรรมนูญ ม.160 ดังนั้น จึงเรียกร้องให้นายกฯ แพทองธาร ลาออก และยุติการปฏิบัติหน้าที่ทันที

นอกจากการเรียกร้องให้ แพทองธารลาออกแล้ว พล.อ.สวัสดิ์ จะยื่นเรื่องถอดถอนนายกรัฐมนตรี เนื่องจากขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 ไม่ซื่อสัตย์สุจริต และไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง โดยจะไปยื่นถอดถอนต่อศาลรัฐธรรมนูญ และ ป.ป.ช. ในวันเดียวกัน

คดีที่ 3 : 'เรืองไกร' ร้อง กกต. ถอดนายกฯ ไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์

ในวันเดียวกัน เมื่อเวลาประมาณ 13.44 น. สำนักข่าว The Standard รายงานบนสื่อโซเชียลมีเดียว่า ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เดินทางมายื่นหนังสือเพื่อขอให้ กกต.ตรวจสอบแพทองธาร นายกรัฐมนตรี ว่ามีความไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ อันเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) หรือไม่ และเข้าข่ายเป็นเหตุให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 (4) หรือไม่ กรณีมีการเผยแพร่คลิปเสียงสนทนากับสมเด็จ ฮุนเซน ตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา

เรืองไกร กล่าวว่า เหตุผลที่มายื่นหนังสือวันนี้ เพราะมองว่าเป็นเรื่องเร่งด่วน เนื่องจากตรวจสอบแล้วว่าคลิปเสียงคุยระหว่างแพทองธาร และฮุน เซน ประธานวุฒิสภา และนายกฯ ยอมรับว่าเป็นของจริง ถือเป็นหลักฐานสำคัญที่ทำให้ต้องมายื่นร้องเรียนต่อ กกต. ว่าพฤติกรรมดังกล่าวถือว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ ม.170 (4) ระบุว่าเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว เนื่องจากความไม่ซื่อสัตยฺสุจริตเป็นที่ประจักษ์ โดยศาลรัฐธรรมนูญเคยวางแนววินิจฉัยไว้ เหมือนกรณีของเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งสามารถยึดเป็นแนวบรรทัดฐานได้

"ในคลิปเสียงท่านนายกรัฐมนตรีก็ยอมรับแล้ว มีการพูดถึงเจ้าหน้าที่ของเรา มีการเอ่ยชื่อ ตำแหน่งด้วยในลักษณะว่าไม่ใช่พวกเรา ทำให้สังคมตั้งคำถามตรงนี้ ว่าตกลงท่านนายกรัฐมนตรีของเราเป็นพวกกับใคร เป็นพวกทหารของเรา หรือพวกกับเพื่อนบ้าน แล้วคำขอให้เปิดชายแดน เปิดด่านกันเลยนั้น ก็คงต้องรอฟังจากฝ่ายความมั่นคง นายกรัฐมนตรีคงไม่มีหน้าที่จะไปดู ไปรับปากตรงนั้น ซึ่งคำต่างๆ ที่สื่อถอดออกมาก็เป็นตัวอย่างที่ผมนำมาให้ กกต.ดูว่า ในนี้กรณีนี้จะเข้าข่ายว่านายกรัฐมนตรีไปทำการที่ไม่ซื่อสัตย์สุจริต ทำให้เสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่งและเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ตามมาตรฐานจริยธรรมหรือไม่" เรืองไกร กล่าว

เรืองไกร กล่าวต่อว่า นี่ยังไม่ได้พูดถึงการฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรงที่จะเป็นดุลพินิจของ กกต. หรือจะมีการส่งต่อ ป.ป.ช. อีกทางหนึ่ง ทั้งนี้ ตามประมวลกฎหมายอาญาเรื่องความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร กับความมั่นคงที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร เช่น มาตรา 116 และมาตรา 119 ซึ่งไม่ใช่หน้าที่และอำนาจของ กกต. ซึ่งอาจจะมีการรวบรวมพยานหลักฐาน หรือหากมีพรรคการเมือง หรือสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เข้าชื่อยื่นตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญ หรือกลุ่มบุคคลที่จะยื่น ก็ถือเป็นสิทธิ ซึ่งนายกฯ ก็จะต้องเหนื่อยหน่อย

"ท่านเองก็บอกเองว่า เรื่องนี้ทำให้ลำบากที่สุดตั้งแต่ที่เป็นนายกรัฐมนตรีมา ท่านก็ต้องมาชี้แจง แต่ข้อเท็จจริงแทบจะไม่ต้องหายากอะไร มีเยอะมาก โดยเอกสารหลักฐานต่างๆ ผมจะส่งตามมาเพิ่มเติม" เรืองไกร กล่าว


เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ (แฟ้มภาพ ปี 2566)

คดีที่ 4 : 'ศรีสุวรรณ' ร้อง ป.ป.ช. คลิปฮุน เซน เสี่ยงละเมิดหลายมาตรา

ในวันเดียวกัน ที่สำนักงานใหญ่ ป.ป.ช. ศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.เพื่อขอให้ไต่สวน และมีความเห็นกล่าวหาแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ กรณีคลิปสนทนากับฮุน เซน ซึ่งเป็นศัตรูของชาติ ถือเป็นการทำลายเกียรติยศ ศักดิ์ศรี เกียรติภูมิและผลประโยชน์ของชาติ อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในแผ่นดิน

ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากมีการเผยแพร่คลิปการสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยและสมเด็จ ฮุน เซน พฤติการณ์ในแต่ละถ้อยคำที่สนทนากับนายฮุน เซน สะท้อนให้เห็นว่า นายกรัฐมนตรีคำนึงถึงแต่ผลประโยชน์ทางการเมืองเพื่อตนเองเป็นที่ตั้ง นำความลับในการบริหารราชการแผ่นดินไปเอื้อประโยชน์ให้กับศัตรูของชาติ อันถือได้ว่าเป็นปรปักษ์ต่อแผ่นดิน อันอาจทำให้อำนาจอธิปไตยของชาติเสื่อมเสียไปได้ อันเป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119 มาตรา 120 ประกอบมาตรา 128 อันเป็นความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักรโดยชัดแจ้ง

นอกจากนี้ ยังอาจเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 มาตรา 219 ให้ใช้บังคับไว้ในหลายๆ ข้อ เช่น ข้อ 6 ข้อ 7 ข้อ 8 ข้อ 11 ข้อ 17 ข้อ 19 และข้อ 26 ประกอบข้อ 27 อันเกี่ยวกับการไม่พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งเอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งอาณาเขตและเขตที่ประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตย เกียรติภูมิและผลประโยชน์ของชาติ ความมั่นคงของรัฐ การไม่ถือผลประโยชน์ของประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตน ไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบเพื่อตนเอง หรือผู้อื่น หรือมีพฤติการณ์ที่รู้เห็นหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้ตำแหน่งหน้าที่ของตนแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ ไม่กระทำการอันเป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตนกับประโยชน์ส่วนรวม ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม กระทำการอันก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่ง เป็นต้น

ด้วยเหตุดังกล่าว องค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน จึงจำต้องนำความมาร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. เพื่อให้ใช้อำนาจตามกฎหมายในการไต่สวน และมีความเห็นเพื่อนำไปสู่การเอาผิดนายกรัฐมนตรีที่มีพฤติการณ์ในการใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงตามครรลองของกฎหมายต่อไป

https://prachatai.com/journal/2025/06/113358
.....


Kasian Tejapira
18 hours ago
·
สงครามนิติตั้ง...........เค้าทมิฬ
สละยานจานบิน.........ดิ่งด้าว
กัปตันตระกูลชิน........ชักแย่
วาทกรรมผิดก้าว.......พลาดกลิ้งกรรมสนอง