
9/06/2568
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 2568 ที่เรือนจำกลางเชียงราย ทนายความเข้าเยี่ยม “บัสบาส” มงคล ถิระโคตร นักกิจกรรมในจังหวัดเชียงรายวัย 32 ปี ผู้ถูกคุมขังในคดีตามมาตรา 112 หลังถูกศาลอุทธรณ์ลงโทษจำคุกในสามคดีรวมกัน 54 ปี 6 เดือน โดยทุกคดียังอยู่ในระหว่างฎีกา
หลังจากบัสบาสได้เริ่มอดอาหารประท้วงในเรือนจำมาตั้งแต่วันเสาร์ที่ 17 พ.ค. 2568 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดอายุครบ 32 ปีของเขา โดยยังดื่มกาแฟ นม และน้ำ เพื่อต้องการเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนักโทษการเมืองทั้งหมด จนถึงวันที่เข้าเยี่ยมก็เป็นระยะเวลา 21 วัน หรือสามอาทิตย์แล้ว
บัสบาสเริ่มมีอาการอ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามร่างกาย มีอาการปวดท้อง และน้ำหนักลดลงเล็กน้อย แต่เขายืนยันว่ายังพอทนไหว หากต้องการยารักษาโรคหรือมีอะไรเกิดขึ้น เข้าใจว่าเจ้าหน้าที่จะช่วยดูแลได้ โดยในการอดอาหารของเขานั้นไม่ได้มีการวัดค่าน้ำตาลในเลือด แต่เข้าใจว่าจะมีการวัดเมื่ออดทั้งน้ำและอาหาร หรือไม่มีสติสัมปชัญญะ โดยตอนนี้จะมีแพทย์ประจำเรือนจำมาตรวจร่างกายเขาสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
บัสบาสเล่าถึงสถานการณ์ในเรือนจำว่า ขณะนี้ร้านค้าสวัสดิการในแดน 1 ซึ่งเขาถูกคุมขังอยู่ พบว่าสินค้าขาดตลาดไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ต้องขัง อาทิ ไม่มีนมเปรี้ยว นม โยเกิร์ต ซึ่งส่งผลกระทบต่อการอดอาหารของเขา เนื่องจากเขาอดอาหาร แต่ยังดื่มนมและกาแฟอยู่ แต่พอเริ่มไม่มีสิ่งเหล่านี้ให้ทาน ทำให้ดูเหมือนว่าร่างกายอาจจะทรุดตัวเร็วขึ้น
บัสบาสบอกว่าก่อนหน้านี้ ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ทางเรือนจำได้นำเอกสารให้เขากรอกข้อมูล แสดงความจำนงต่อการอดอาหารในเรือนจำ โดยมีช่องต่าง ๆ ให้ติ๊กถึงสิ่งที่ยังรับประทาน และความประสงค์ในการรับความช่วยเหลือทางการแพทย์ต่าง ๆ
เขายังได้พูดคุยกับจิตแพทย์ในเรือนจำ แม้ทางจิตแพทย์จะอยากให้เขาเลิกอดอาหาร แต่เขาก็พยายามยืนยันเหตุผลและอุดมการณ์ของตน ซึ่งจิตแพทย์ก็ได้รับฟัง และบอกให้เขาพยายามดูแลสุขภาพให้ดี
นอกจากนั้นยังมีเพื่อนผู้ต้องขังซึ่งผ่านการอบรมเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ ได้มาช่วยวัดความดัน ชั่งน้ำหนัก วัดรอบเอว ของบัสบาสด้วย
บัสบาสบอกว่า ในแดน 1 เป็นแดนที่มีประชากรน้อยที่สุดในเรือนจำเชียงราย โดยมีนักโทษหมุนเวียนเข้าออกอยู่ประมาณ 280-300 คน ทำให้พอจะรู้จักกันดี จนมีการรวมกลุ่มกัน เรียกแต่ละกลุ่มว่า “บ้าน” ส่วนของเขา ก็มีคนในบ้านเดียวกันคอยช่วยเหลือในช่วงที่อดอาหาร กิจกรรมในแต่ละวันก็จะมีงานทำความสะอาดและนันทนาการ ไม่ได้ทำงานฝึกอาชีพเหมือนแดนอื่น และเขาไม่ได้ร่วมกิจกรรมกลางแจ้งใด จึงไม่ได้ใช้พลังงานมากนัก
บัสบาสบอกว่า เขากินน้ำในแต่ละวันค่อนข้างเยอะ ส่วนการนอน สามารถหลับได้อย่างปกติ อาจเป็นเพราะกินยาแก้โรคซึมเศร้าที่หมอสั่งให้กินทุกวันด้วยก็เป็นได้
บัสบาสเล่าอีกว่า เจ้าหน้าที่ในเรือนจำก็เข้าใจในการแสดงเจตนารมณ์การอดอาหารในครั้งนี้ของเขา แต่ก็คอยแนะนำให้รับประทานอาหารอยู่เสมอ เข้าใจว่ามีการดูแลเขาไม่ห่างสายตา และดูผ่านกล้องวงจรปิดด้วย
ภาพในใจที่บัสบาสใช้ยึดเหนี่ยวในการอดอาหารคือ ภาพของการต่อสู้ เขาไม่อยากอยู่นิ่งเฉย เพราะคนอื่น ๆ ต่อสู้มากกว่าตน การอดอาหารเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่าผู้ต้องขังทางการเมืองไม่ได้เห็นด้วยกับผู้มีอำนาจ และเป็นหนทางที่พอร่วมแสดงออกได้ให้ปล่อยเพื่อน ๆ ผู้ต้องขังทางการเมือง
แม้เขาทราบว่าหนทางประสบความสำเร็จอาจดูริบหรี่ แต่เขาก็อยากสื่อสารให้สังคมรับรู้ว่ายังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ต้องถูกขังทางการเมือง และเป็นการทดสอบความเข้มแข็งหนักแน่นของตัวเขาเองด้วย
“มันเป็นวิธีการที่เจ็บปวด เพื่อพูดให้สังคม คือประชาชนได้รับรู้ว่า เราไม่ยอมจำนน ผมก็ยังไม่รู้ว่าการอดอาหารจะเปลี่ยนอะไรได้บ้าง แค่คิดเพียงว่าทำวันนี้ให้ดีที่สุด” บัสบาสบอก
.
📩 สามารถเขียนจดหมายถึงบัสบาส
📍 จ่าหน้าซอง: “ฝากถึง มงคล ถิระโคตร แดน 1 เรือนจำกลางเชียงราย เลขที่ 222 หมู่ 3 ตำบลดอยฮาง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย 57000”
หรือเขียนจดหมายออนไลน์ผ่านโครงการ Free Ratsadon โดยแอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่ลแนล
https://tlhr2014.com/archives/75863
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 2568 ที่เรือนจำกลางเชียงราย ทนายความเข้าเยี่ยม “บัสบาส” มงคล ถิระโคตร นักกิจกรรมในจังหวัดเชียงรายวัย 32 ปี ผู้ถูกคุมขังในคดีตามมาตรา 112 หลังถูกศาลอุทธรณ์ลงโทษจำคุกในสามคดีรวมกัน 54 ปี 6 เดือน โดยทุกคดียังอยู่ในระหว่างฎีกา
หลังจากบัสบาสได้เริ่มอดอาหารประท้วงในเรือนจำมาตั้งแต่วันเสาร์ที่ 17 พ.ค. 2568 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดอายุครบ 32 ปีของเขา โดยยังดื่มกาแฟ นม และน้ำ เพื่อต้องการเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนักโทษการเมืองทั้งหมด จนถึงวันที่เข้าเยี่ยมก็เป็นระยะเวลา 21 วัน หรือสามอาทิตย์แล้ว
บัสบาสเริ่มมีอาการอ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามร่างกาย มีอาการปวดท้อง และน้ำหนักลดลงเล็กน้อย แต่เขายืนยันว่ายังพอทนไหว หากต้องการยารักษาโรคหรือมีอะไรเกิดขึ้น เข้าใจว่าเจ้าหน้าที่จะช่วยดูแลได้ โดยในการอดอาหารของเขานั้นไม่ได้มีการวัดค่าน้ำตาลในเลือด แต่เข้าใจว่าจะมีการวัดเมื่ออดทั้งน้ำและอาหาร หรือไม่มีสติสัมปชัญญะ โดยตอนนี้จะมีแพทย์ประจำเรือนจำมาตรวจร่างกายเขาสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
บัสบาสเล่าถึงสถานการณ์ในเรือนจำว่า ขณะนี้ร้านค้าสวัสดิการในแดน 1 ซึ่งเขาถูกคุมขังอยู่ พบว่าสินค้าขาดตลาดไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ต้องขัง อาทิ ไม่มีนมเปรี้ยว นม โยเกิร์ต ซึ่งส่งผลกระทบต่อการอดอาหารของเขา เนื่องจากเขาอดอาหาร แต่ยังดื่มนมและกาแฟอยู่ แต่พอเริ่มไม่มีสิ่งเหล่านี้ให้ทาน ทำให้ดูเหมือนว่าร่างกายอาจจะทรุดตัวเร็วขึ้น
บัสบาสบอกว่าก่อนหน้านี้ ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ทางเรือนจำได้นำเอกสารให้เขากรอกข้อมูล แสดงความจำนงต่อการอดอาหารในเรือนจำ โดยมีช่องต่าง ๆ ให้ติ๊กถึงสิ่งที่ยังรับประทาน และความประสงค์ในการรับความช่วยเหลือทางการแพทย์ต่าง ๆ
เขายังได้พูดคุยกับจิตแพทย์ในเรือนจำ แม้ทางจิตแพทย์จะอยากให้เขาเลิกอดอาหาร แต่เขาก็พยายามยืนยันเหตุผลและอุดมการณ์ของตน ซึ่งจิตแพทย์ก็ได้รับฟัง และบอกให้เขาพยายามดูแลสุขภาพให้ดี
นอกจากนั้นยังมีเพื่อนผู้ต้องขังซึ่งผ่านการอบรมเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ ได้มาช่วยวัดความดัน ชั่งน้ำหนัก วัดรอบเอว ของบัสบาสด้วย
บัสบาสบอกว่า ในแดน 1 เป็นแดนที่มีประชากรน้อยที่สุดในเรือนจำเชียงราย โดยมีนักโทษหมุนเวียนเข้าออกอยู่ประมาณ 280-300 คน ทำให้พอจะรู้จักกันดี จนมีการรวมกลุ่มกัน เรียกแต่ละกลุ่มว่า “บ้าน” ส่วนของเขา ก็มีคนในบ้านเดียวกันคอยช่วยเหลือในช่วงที่อดอาหาร กิจกรรมในแต่ละวันก็จะมีงานทำความสะอาดและนันทนาการ ไม่ได้ทำงานฝึกอาชีพเหมือนแดนอื่น และเขาไม่ได้ร่วมกิจกรรมกลางแจ้งใด จึงไม่ได้ใช้พลังงานมากนัก
บัสบาสบอกว่า เขากินน้ำในแต่ละวันค่อนข้างเยอะ ส่วนการนอน สามารถหลับได้อย่างปกติ อาจเป็นเพราะกินยาแก้โรคซึมเศร้าที่หมอสั่งให้กินทุกวันด้วยก็เป็นได้
บัสบาสเล่าอีกว่า เจ้าหน้าที่ในเรือนจำก็เข้าใจในการแสดงเจตนารมณ์การอดอาหารในครั้งนี้ของเขา แต่ก็คอยแนะนำให้รับประทานอาหารอยู่เสมอ เข้าใจว่ามีการดูแลเขาไม่ห่างสายตา และดูผ่านกล้องวงจรปิดด้วย
ภาพในใจที่บัสบาสใช้ยึดเหนี่ยวในการอดอาหารคือ ภาพของการต่อสู้ เขาไม่อยากอยู่นิ่งเฉย เพราะคนอื่น ๆ ต่อสู้มากกว่าตน การอดอาหารเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่าผู้ต้องขังทางการเมืองไม่ได้เห็นด้วยกับผู้มีอำนาจ และเป็นหนทางที่พอร่วมแสดงออกได้ให้ปล่อยเพื่อน ๆ ผู้ต้องขังทางการเมือง
แม้เขาทราบว่าหนทางประสบความสำเร็จอาจดูริบหรี่ แต่เขาก็อยากสื่อสารให้สังคมรับรู้ว่ายังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ต้องถูกขังทางการเมือง และเป็นการทดสอบความเข้มแข็งหนักแน่นของตัวเขาเองด้วย
“มันเป็นวิธีการที่เจ็บปวด เพื่อพูดให้สังคม คือประชาชนได้รับรู้ว่า เราไม่ยอมจำนน ผมก็ยังไม่รู้ว่าการอดอาหารจะเปลี่ยนอะไรได้บ้าง แค่คิดเพียงว่าทำวันนี้ให้ดีที่สุด” บัสบาสบอก
.
📩 สามารถเขียนจดหมายถึงบัสบาส
📍 จ่าหน้าซอง: “ฝากถึง มงคล ถิระโคตร แดน 1 เรือนจำกลางเชียงราย เลขที่ 222 หมู่ 3 ตำบลดอยฮาง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย 57000”
หรือเขียนจดหมายออนไลน์ผ่านโครงการ Free Ratsadon โดยแอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่ลแนล
https://tlhr2014.com/archives/75863