iLaw
14 hours ago
·
นับถึง 18 มกราคม 2568 ก็เป็นเวลาหนึ่งปีเต็มต่อเนื่องกัน ที่มงคล ถิระโคตร หรือบาส ชาวเชียงรายวัย 31 ปี ถูกจองจำด้วยมาตรา 112 ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกของเขา เขาถูกคุมขังมาแล้วหลายครั้ง ได้ประกันตัวบ้างไม่ได้บ้าง จนกระทั่งมาในรอบนี้ซึ่งน่าจะเป็นรอบที่นานที่สุดเพราะมีคำพิพากษาของศาลออกมาแล้วให้จำคุกรวม 54 ปี
.
บาสเป็นเจ้าของสถิติที่ไม่มีใครอยากถือและไม่มีใครอยากทำลาย คือ สถิติผู้ต้องโทษตามมาตรา 112 ที่สูงที่สุด แต่ตัวเขาอาจจะทำลายสถิตินี้เองในวันข้างหน้า
.
บาส เป็นคนที่มีบุคลิก "เฉพาะตัว" เขาพูดช้า พูดทีละคำ และพูดคำซ้ำๆ วนไปมา เขาถูกวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและอยู่ระหว่างการรักษา ต้องกินยาต่อเนื่อง ซึ่งระหว่างอยู่ในเรือนจำก็ต้องกินยาตลอด ซึ่งผลจากการกินยาส่วนหนึ่งก็ทำให้บาสมีอาการเบลอๆ ช้าๆ กว่าคนปกติ
.
ก่อนจะสนใจและแสดงออกทางการเมือง บาสเติบโตมาในครอบครัวที่สอนให้ใช้ชีวิตและทำมาหากิน สมัยม.1 เขาต้องทำงานที่อู่ซ่อมรถ ต่อมาช่วงม.2 ก็ทำงานในร้านอาหาร บาสเรียนระดับปวช. ด้านวิจิตรศิลป์ และจบม.6 จากระบบการศึกษานอกระบบ (กศน.) ก่อนจะทำมาหากินโดยการขายเสื้อวงดนตรีร็อคทางโลกออนไลน์
.
ชีวิตวัยรุ่นของบาส ไม่ได้สนใจการเมือง จนกระทั่งเขาเล่าว่า "ครั้งหนึ่งผมเคยหลุดพูดอะไรบางอย่างกับคนรู้จักแล้วเขาบอกว่า พูดแบบนั้น ตายได้นะ ผมก็แบบ เฮ้ย ทำไมมันขนาดนั้น ก็เลยยิ่งอยากรู้ยิ่งหาอะไรอ่านมากขึ้น”
.
ในช่วงการเมืองร้อนแรงระหว่างการชุมนุมเรียกร้องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ปี 2563-2564 บาสติดตามสถานการณ์ เข้าร่วมการชุมนุม และโพสเฟซบุ๊กส่วนตัวซ้ำๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเฟซบุ๊กของเขาไม่ได้มีคนติดตามหรือคนกดไลค์มากมาย เขาโพสถึงพระมหากษัตริย์ทั้งรัชกาลที่แล้ว และรัชกาลปัจจุบันของเขาไปเรื่อยๆ โดยไม่ได้เป็นที่รับรู้วงกว้าง ไม่มีใครรู้จักตัวตนของเขา
.
"ผมรู้เรื่องมาตรา 112 ว่ามันมีอยู่ แต่ผมก็ตัดสินใจปราศรัยประเด็นเกี่ยวกับสถาบันฯ อย่างตรงไปตรงมา เพราะผมมีความเชื่อในโลกสมัยใหม่ เรื่องทุกเรื่องมันต้องพูดได้ วิจารณ์ได้ ผมเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว ไม่พูดตอนนี้ก็ไม่รู้จะพูดตอนไหนแล้ว" บาสกล่าว
.
จนกระทั่งในปี 2564 ระหว่างที่ผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งถูกจับกุมคุมขัง และกำลังอดอาหารเรียกร้องสิทธิประกันตัว บาสนั่งรถโดยสารจากเชียงรายมานั่งอดอาหาร "เงียบๆ" อยู่คนเดียวที่หน้าศาลอาญา เพื่อร่วมเรียกร้องสิทธิประกันตัวกับคนในเรือนจำ ตอนแรกไม่มีใครรู้จักเขา แต่เมื่อสื่อเริ่มรายงานการมานั่งอยู่ของเขา ตำรวจจึงต้องเอาเขาออกจากบริเวณนั้นให้ได้
.
บาสถูกตำรวจจับกุมหลังมานั่งอยู่หน้าศาลอาญาเพียงสามวัน และถูกตั้งข้อหาย้อนหลังไปถึงข้อความ และรูปภาพบนเฟซบุ๊กที่เขาโพสต่อเนื่องในช่วง 1-2 ปีก่อนหน้านั้น เขาถูกตั้งข้อหาหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ตามมาตรา 112 สามคดีรวม 29 ข้อความ และศาลตัดสินแล้วให้มีโทษจำคุกรวม 54 ปี
.
ในสองคดีแรกแม้ว่าบางข้อความของบาสนั้นมีถ้อยคำหยาบคาย และในทางกฎหมาย คือ "สู้คดียาก" แต่บาสก็ตัดสินใจถึงแนวทางการต่อสู้คดีเองว่า เขายอมรับว่าเป็นผู้โพสข้อความทั้งหมดตามที่ถูกกล่าวหา โดยจะขอยืนยัน "ปฏิเสธ" ไม่ยอมรับสารภาพ และเชื่อว่าสิ่งที่เขาโพสนั้นเป็นการแสดงความคิดเห็นตามปกติที่ประชาชนควรจะทำได้ ศาลต้องสืบพยานคดีนี้ลงรายละเอียดเนื้อหา จึงสั่งพิจารณาคดีเป็นการลับ ด้านทนายความของบาสก็เพิ่มข้อต่อสู้ว่า มาตรา 112 คุ้มครองพระมหากษัตริย์ในปัจจุบัน ไม่ได้คุ้มครองรัชกาลที่เก้าที่เป็นอดีตพระมหากษัตริย์ ซึ่งศาลจังหวัดเชียงรายเห็นด้วยกับข้อต่อสู้ของทนายความ จึงลงโทษเหลือเพียง 14 ข้อความ และยกฟ้องไปบางส่วน แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ลงโทษข้อความที่กล่าวถึงรัชกาลที่เก้าด้วย รวมเป็น 25 จาก 27 ข้อความ และกลายเป็นสถิติคดีมาตรา 112 ที่มีโทษสูงที่สุดเท่าที่เคยบันทึกไว้ได้
.
ก่อนเข้าเรือนจำ บาสยืนยันว่าตัวเองเข้มแข็ง ไม่กลัวคุก และพร้อมจะสู้ หลังเข้าเรือนจำได้สักพักหนึ่งบาสกล่าวว่า “คิดถึงพ่อแม่ที่สุด กลัวว่าถ้าติดนานไป เขาจะเป็นอะไรก่อนไหม เราจะออกไปทันไหม รู้สึกเป็นปมในใจตลอดเวลา ถ้าพ่อเป็นอะไรขึ้นมา แล้วไม่มีใครอยู่บ้าน ครั้งที่แล้วเขาก็ขาชาเดินแทบไม่ได้ ต้องพยายามพาตัวเองขับรถไปโรงพยาบาลที่อยู่ห่างไปมากๆ”
.
สถานการณ์ในเรือนจำของบาสก็ไม่ได้ดีนัก เมื่อเขาถูกคุมขังในจังหวัดเชียงราย แม้จะเป็นบ้านเกิดของเขาที่ไม่ห่างจากพ่อแม่ แต่ตั้งแต่มีสถานการณ์โควิด 19 เรือนจำก็ไม่ได้เปิดให้ญาติเข้าเยี่ยมได้ จนถึงต้นปี 2568 ทนายความยังต้องเข้าเยี่ยมบาสผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ และไม่มีทนายความที่จังหวัดเชียงรายที่สามารถไปเยี่ยมได้อย่างต่อเนื่อง และยังไม่มีนักโทษการเมืองคนอื่นอยู่เป็นเพื่อนบาสด้วย หนึ่งปีเต็มที่ผ่านมา บาสจึงต้องดูแลข้าวของและอาหารการกินด้วยตัวเองเป็นหลัก
.
บาสยืนยันจะยื่นคดีของเขาต่อศาลฎีกา ทำให้คดียังไม่สิ้นสุดและไม่มีโอกาสได้อภัยโทษ เขาเคยคิดว่า เขาอาจจะต้องรออีก 53 ปีกว่าจะได้กลับออกมาอีกครั้ง
.
แต่ชีวิตของเขาก็ยังไม่ง่ายแค่นั้น เมื่อระหว่างอยู่ในเรือนจำเขายังถูกตำรวจเข้าแจ้งข้อหาเพิ่มอีกจากโพสเฟซบุ๊กอีก 3 ข้อความและตั้งเป็นคดีใหม่อีกคดีหนึ่ง ทำให้เรายังไม่รู้ว่าโทษรวมทั้งหมดของบาสจะไปจบที่ตรงไหน
.
อ่านเรื่องราวของบาสเพิ่มเติมได้ทาง
https://www.ilaw.or.th/articles/9974
https://tlhr2014.com/archives/71450
https://tlhr2014.com/archives/72144
ดูข้อมูลผู้ที่อยู่ในเรือนจำด้วยคดีมาตรา 112
https://www.ilaw.or.th/days-in-prison
https://www.facebook.com/photo?fbid=1013910704115882&set=a.625664036273886
iLaw
17 hours ago
·
นับถึง 18 มกราคม 2568 เป็นเวลาหนึ่งปีเต็มต่อเนื่องกัน ที่มงคล ถิระโคตร หรือบาส ชาวเชียงรายวัย 30 ปี ถูกจองจำด้วย #มาตรา112 เขาถูกคุมขังมาแล้วหลายครั้ง ได้ประกันตัวบ้างไม่ได้บ้าง จนกระทั่งมาในรอบนี้ซึ่งเป็นรอบที่นานที่สุดเพราะมีคำพิพากษาของศาลออกมาแล้วให้จำคุกรวม 54 ปี
บาสเป็นเจ้าของสถิติที่ไม่มีใครอยากถือและไม่มีใครอยากทำลาย คือ สถิติผู้ต้องโทษตามมาตรา 112 ที่สูงที่สุด แต่ตัวเขาอาจจะทำลายสถิตินี้เองในวันข้างหน้า
สถานการณ์ในเรือนจำของบาสก็ไม่ได้ดีนัก เมื่อเขาถูกคุมขังในจังหวัดเชียงราย ตั้งแต่มีสถานการณ์โควิด 19 เรือนจำก็ไม่ได้เปิดให้ญาติเยี่ยมได้ จนถึงต้นปี 2568 ทนายความยังต้องเข้าเยี่ยมบาสผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ และไม่มีทนายความที่จังหวัดเชียงรายที่สามารถไปเยี่ยมได้อย่างต่อเนื่อง และยังไม่มีนักโทษการเมืองคนอื่นอยู่เป็นเพื่อนบาสด้วย หนึ่งปีเต็มที่ผ่านมา บาสจึงต้องดูแลข้าวของและอาหารการกินด้วยตัวเองเป็นหลัก
บาสยืนยันจะยื่นคดีของเขาต่อศาลฎีกา ทำให้คดียังไม่สิ้นสุดและไม่มีโอกาสได้อภัยโทษ และระหว่างนี้เขายังถูกแจ้งข้อหาเพิ่มอีก ทำให้โทษของเขาไม่ได้หยุดแค่นั้น
https://www.facebook.com/watch/?v=569604525904897