วันอาทิตย์, มิถุนายน 12, 2565

“ดินแดงเดือดอีกครั้ง” เป็น “วิธีการที่ไม่นำไปสู่ชัยชนะ” กระนั้นหรือ

จนได้ เดินไล่ตู่ จากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ลงเอยที่ “ดินแดงเดือดอีกครั้ง” เมื่อตำรวจ คฝ.ตั้งรับด้วยเชิงรุกเกินเหตุ ใช้ทั้งกระสุนยางและแก๊สน้ำตา แค่จะปิดกั้นไม่ให้ผ่านไปแถวๆ บ้านเจ้านาย ราบ.๑

“ประชาชนส่วนใหญ่ที่มาชุมนุมก็แยกย้ายกันกลับ” เมื่อเวลา ๖ โมง ๑๐ นาที “บางส่วนกระจายตัวไปทางแยกดินแดง ซึ่งหากเลี้ยวซ้ายไปทางถนนวิภาวดี ก็จะไปยัง ราบ 1 ซึ่งเป็นที่ตั้งบ้านพักของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่อยู่ยาวมาตั้งแต่ครั้งรับราชการทหาร”

เรื่องมันเป็นอย่างนี้ “บริเวณแยกดินแดงมีตำรวจชุดควบคุมฝูงชน พร้อมรถเครื่องเสียง รถฉีดน้ำ และอุปกรณ์ควบคุมฝูงชนตั้งแถวปิดถนนวิภาวดีขาออก” วัยรุ่นประมาณ ๖๐-๘๐ คน ยังรวมตัวกันอยู่ที่แยกดินแดง พอเจอแนวกั้น เหมือนท้าทายอย่างเคยครั้งก่อน

“ผู้ชุมนุมบางส่วนขว้างปาสิ่งของไปทางแถวของตำรวจ บางส่วนปาประทัดลงบนถนนตกด้านหน้าแถวของตำรวจแต่ไม่ถึงตัวตำรวจ...ด้านตำรวจที่บริเวณแยกดินแดงจะประกาศเดินแถว พร้อมรถฉีดน้ำ ทีละ ๑๐ เมตร สองครั้ง”

พอราวๆ ทุ่มนึง “ตำรวจตั้งแถวปิดล้อมทั้งสองฝั่ง...ถือโล่และปืนยิงกระสุนยาง โดยใช้รถกระบะตำรวจเปิดไฟฉุกเฉินเป็นพาหนะหลัก” พอทุ่มครึ่ง “รถกระบะตำรวจบรรทุกตำรวจเต็มคัน ปิดถนนเพื่อเคลื่อนที่เข้าเคลียร์พื้นที่จากทางบริเวณแยกดินแดงมุ่งหน้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ”

๒๐.๔๗ น. The Reporters รายงาน “ตำรวจใช้แก๊สน้ำตานัดแรก ยิงลงด้านหน้าไซต์ก่อสร้างเอกชนใกล้แยกใต้ทางด่วนดินแดง ถนนราชวิถี” เป็นผลให้ “มีประชาชนจำนวนหนึ่ง และเด็กทารก ๑ รายได้รับผลกระทบจากแก๊สน้ำตา”

แน่ละฝ่ายผู้ชุมนุม (วัยรุ่น) ขว้างปา “ก้อนหิน ลูกแก้ว และขวดแก้ว ไปยังแนวของเจ้าหน้าที่ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะยิงกระสุนยาง” ครั้นสี่ทุ่ม 'สำนักข่าวราษฎร' ไล้ฟ์ว่า “เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้าพยายามจับและค้นตัว 'จอย' ซึ่งเป็นสื่ออิสระ”

เบี้ยร่ายปลายทางช่วงนั้น รายงานของสื่ออิสระต่างๆ ทั้งทางทวิตภพ และเฟชบุ๊ค มีคลิปที่แชร์กันเยอะ ตำรวจยิงใส่กลุ่มคนที่ถือกล้องถือไมค์ “กล้องอยู่หน้ามึงแท้ ๆ ยิงอัดกล้อง อีสัส พวกเหี้ย” Arsa.Plodaek@plodaek บริภาษณ์

ด้าน MOAKK III @MOA_KK ก็ว่า “นับถือใจพี่ๆ กลุ่มนี้มาก พอตำรวจยิงปุ๊ปเดินเข้าไปถามเลยมึงยิงประชาชนทำไม!!! อิพวกหมารับใช้นาย #ม็อบ ๑๑ มิถุนา ๖๕” ขณะนักข่าวเวิ้ร์คพ้อยท์ Wasinee P. @WPabuprapap แจ้งว่า

“ภาพจาก@opol999 บริเวณ #ดินแดง แสดงวิถีการยิงของ จนท.ขนานกับพื้น ขัดหลักการการใช้อาวุธแบบ Non-lethal ที่ต้องกดวิถีลงต่ำ” ตำรวจเจาะจงยิงกระสุนยางใส่ผู้ชุมนุมในวิถีร้ายแรงที่อาจทำให้ถึงตายได้

แต่อีกด้านหนึ่งบนสนามไซเบอร์ มีโพสต์ของ โปลิศไทยแลนด์บอกว่า “ถึงเวลาทำความสะอาดขยะสังคม” ซึ่ง Wiroj 77@wirojlak ตั้งปุจฉา “ไม่แน่ใจว่าเพจนี้เป็นเพจของตำรวจหรือไม่ แต่การโพสต์เหมารวมตีตราประชาชน เป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจ”

ทาง สมบัติ บุญงามอนงค์ บก.ลายจุด พูดถึงการชุมนุมนี้ทำนองให้ข้อคิดว่า การชุมนุมเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงต้องให้ “ข้อเรียกร้องมีเหตุมีผล และวิธีการที่สอดคล้องกับสถานการณ์” Noppakow kongsuwan @SAHINOP รับลูก

ว่า “การแนะนำแบบนี้น่าสนใจ” การต่อสู้ทางการเมืองรอบนี้ ๒ ปีกว่า และรอบใหญ่ตั้งแต่ปี ๕๓ ก็นับได้มากกว่า ๑๐ ปี “วิธีการที่ไม่นำไปสู่ชัยชนะ ควรได้รับการพิจารณาว่าควรดำเนินต่อไปหรือไม่” ดังว่า ปรากฏการณ์ ชัชชาติมาดีแล้ว

กระทั่ง วันชัย สอนศิริ “วุฒิสภาสายเชลียร์” (คำของ Thanapol Eawsakul) ยังเป็น เห็บกระโดด หนีหมากำลังจะตายซาก ฉะนั้นการตามแนวชัชชาติ ใช้กิริยาสุภาพนอบน้อมกับการเบ่งเก่งของตำรวจ น่าจะเป็นการเดินที่ถูกทาง

ทว่าการสุภาพนอบน้อมของชัชชาติกับ ป. มันต่างกับสถานการณ์ที่วัยรุ่นม็อบเจอกับตำรวจ คฝ. “ถ้าให้ #ชัชชาติ มาเจรจา พบกันครึ่งทาง การชุมนุมที่ #ดินแดง จะเกิดขึ้นได้อย่างสงบ” Pipob @pipob69 ว่าปัญหาอยู่ที่

“ความจริงการชุมนุมที่ #ดินแดง ครั้งแรก ๆ ไม่ได้รุนแรง แต่มันรุนแรงขึ้นเพราะนโยบาย zero-tolerance ไม่ยอมให้มีการชุมนุมโดยเด็ดขาด เข้ามาตั้งขบวนขวาง ขับรถชนเด็ก ยิงก๊าซน้ำตา...การเปลี่ยนวิธีชุมนุมจะช่วยอะไร” เหตุผลนี้ฟังได้

“นโยบายเหมารวม ปิดกั้นการชุมนุมทั้งหมด...ไม่ตรงตามหลักการสากล”

(https://www.facebook.com/Prachatai/posts/10159075944501699 และ https://www.matichon.co.th/politics/news_3394793)