วันจันทร์, มิถุนายน 20, 2565

ตำรวจ คฝ.ชั้นผู้น้อยจากภูธรโอด “ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่ายานพาหนะขนส่ง...แทบไม่เคยมี” ไม่เหมือน ก.ท่องเที่ยว ชงข้าราชการเที่ยวได้วันทำงาน

จนได้ ตำรวจ คฝ.จับกุมเยาวชนจาก #ม็อบ19มิถุนา65 แยกดินแดงเอาไปจำนวนหนึ่ง อ้างว่า เรายึดวัตถุเคมี วัตถุอันตรายได้เยอะอยู่ เนื่องเพราะเมื่อเวลาราว ๑๗.๓๓ น. มีผู้ชุมนุมกลุ่มย่อยปาปะทัดยักษ์ใส่ฝั่งตำรวจ ซึ่งเคลื่อนเข้ายุติการชุมนุม

ไทยโพสต์ บรรยายสภาพการณ์ว่าเป็นการ “กลับมาป่วน...สร้างความรุนแรง...และดูเหมือนว่าท่าทางจะลากยาวเป็นรายวันอีกครั้ง” ข้อหลังเป็นไปได้ แต่ข้อแรกๆ มุสา เมื่อการปาปะทัดเกิดขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ใช้วิธีผนึกกำลังดันฝูงชน

การป้ายสีให้ร้ายผู้ชุมนุมเช่นนี้ สื่อปฏิกิริยาดูจะจุดไฟรนก้นรัฐบาลของตนให้เพิ่มงบประมาณการปราบปรามประชาชนมากขึ้น ด้วยการเสนอข่าวประกอบว่า ตำรวจ คฝ.ที่มาปฏิบัติการสามเหลี่ยมดินแดงช่วงนี้ เกณฑ์จากหน่วยภูธร

และ “จัดงบประมาณสนับสนุนมาเพียงภูธรจังหวัดละ ๒๐,๐๐๐ บาท เฉลี่ยหัวละไม่ถึง ๕๘ บาท เอาแค่ค่าข้าวก็แทบไม่พอกินแล้ว” อีกทั้ง “ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่ายานพาหนะขนส่ง...แทบไม่เคยมีการสนับสนุนงบประมาณใดๆ จากหน่วยเหนือ”

ไทยโพสต์อ้างว่าได้รับการร้องเรียนจากเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยในกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค ๑ ๒ ๗ และ ตชด. ซึ่งถูกสั่งให้เข้ามาเสริมกำลังนครบาล ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชน เพิ่มจากเดิมกองร้อยละ ๑๕๐ นาย เป็น ๑๗๐ นาย

“นอกจากนี้ยังเพิ่ม ชุดปฏิบัติการตอบโต้โดยให้แต่ละภูธรจังหวัดจัดกำลังจังหวัดละ ๓ ชุด ชุดละ ๑๒ นาย เข้ามาเสริมอีก” เท่ากับว่าเบ็ดเสร็จตอนนี้ใช้กำลังตำรวจจากภูธรมาปราบม็อบในกรุงครั้งละ ๓๗๖ นาย ไทยโพสต์คำนวณสาระตะ

แล้วบอกด้วยว่า “ภูธรจังหวัดหนึ่งมีโรงพักอยู่ในสังกัด ๑๕ โรงพัก การที่จะทำให้มีกำลังพลเพียงพอสำหรับชุด คฝ.และชุดตอบโต้ จะต้องเอากำลังตำรวจมาโรงพักละ ๒๕ นาย ลำพังในปัจจุบันแทบจะไม่มีกำลังเพียงพอในการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่อยู่แล้ว”

สตช.จะเต้นตามไหม คิดว่าไม่ เพราะหน่วยงานที่รับงบประมาณเต็มๆ กับการปราบปรามประชาชนฝ่ายเห็นต่าง ทั้งหน่วย คฝ. (ชุดสีน้ำเงินเข้ม-กรมท่า) และกองปราบฯ (ชุดสีกากี) ได้รับงบประมาณโดยตรงและโดยเต็มอยู่แล้ว คงไม่เจียดให้

ไม่เหมือนกระทรวงท่องเที่ยว ซึ่งเวลานี้รับหน้านโยบายเปิดประเทศหาเงินของรัฐบาลประยุทธ์เต็มพิกัด แต่การจะมีนักท่องเที่ยวแน่นขนัด เหมือนเมื่อครั้งมหามิตรมังกรปล่อยประชากรออกมาจับจ่ายผ่อนคลายความเครียด ยังไม่ได้

นักท่องเที่ยวที่เข้ามากันระลอกนี้มีแต่อินเดียกับมาเลเซียนำร่อง เทียบไม่ติดกับคราวก่อนโควิดซึ่งนักท่องเที่ยวจีนทะลักเข้ามากินบุฟเฟ่ต์ การท่องเที่ยวจึงคิดหาวิธีทำให้คุ้มกับการเปิดประเทศ ครั้นจะชวน ไทยเที่ยวไทยเหมือนก่อน ยากส์

รู้ๆ กันที่ผ่านมากว่าสามสี่ปี ระดับรากหญ้าอดอยากปากแห้งกันทั่ว หลังจากที่เจอสภาพข้าวยากหมากแพงก่อนหน้านั้นอีกสามสี่ปี รัฐมนตรีพิพัฒน์ รัชกิจประการ เลยหัวใส เอางบประมาณรัฐมาใช้เป็น อัฐยายซื้อขนมยาย ดีกว่า เปิดให้ข้าราชการออกเที่ยว

“ข้าราชการ พนักงานของรัฐ สามารถเดินทางไปเที่ยวในต่างจังหวัดได้ในวันธรรมดาโดยไม่ถือเป็นวันลาได้สูงสุด ๒ วัน ในช่วงเดือนกรกฎาคม - ธันวาคม ๒๕๖๕” หรือจะหยุดติดกันสองวันไปทำงานนอกสถานที่ควบเสาร์-อาทิตย์ รับเงินเดือนตามปกติ

เรียกว่าโครงการ รัฐทัวร์ทั่วไทย เพื่อ “ส่งเสริมการเดินทางของข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐ” ตามข่าว ฐานเศรษฐกิจที่ Jessada Denduangboripant ว่า “แล้วอย่างนี้ ข้าราชการไทยจะไม่รักประยุทธได้ยังไงครับ” ใจดีเสียขนาดนี้

เรื่องงบประมาณไม่ต้องห่วง กู้ได้ เห็นเขาบอกว่าประเทศเรามีทองสำรองอยู่ในคลังเยอะแยะ ทำให้รัฐบาลภูมิปัญญา จปร.หาเงินไม่เป็นไม่เป็นไร กู้ตะบี้ตะบันมาได้ ๗-๘ ปี กู้ต่ออีกสี่ซ้าห้าปี ขนหน้าแข้งไม่ร่วง

(https://www.thansettakij.com/economy/529467 และ https://www.thaipost.net/columnist-people/163893/)