แหม เกรงใจเขามาตั้ง ๕ ปี แล้วจู่ๆ
มาออกคลิปว่าเลิกแล้ว จะให้เชื่อง่ายๆ ได้อย่างไร หนูไม่ใช่สลิ่มนะถึงจะเป็นได้หลายสี
‘พ่อของฟ้า’ เค้ายังบอก “ผมเชื่อว่ายังมีพรรคบางพรรคที่บอกไม่เอาคุณประยุทธ์
แต่อยากจะจับมือกับ ‘พลังประชารัฐ’ เพื่อชูตัวเองขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี”
จากดีเบทของเดอะสแตนดาร์ด ที่ ธนาธร
จึงรุ่งเรืองกิจ พรรคอนาคตใหม่ ตอบถ้อย ‘กรีดน้อย’
ปชป. ที่ไอโอ คสช. คุยว่า “ลากมาตบกลางไฟแดงหน้าหัน”
จากการอภิปรายของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แคนดิเดทนายกฯ พรรคประชาธิปัตย์
“ทำไมคุณธนาธรจะต้องรื้อฟื้นคดีคุณทักษิณซึ่งตัดสินโดยศาลในรัฐบาลซึ่งมาจากเครือข่ายของพรรคคุณทักษิณ”
หลังจากที่เกริ่นไปแล้วว่า ไม่เคยพูดพรรคอนาคตใหม่เป็นเครือข่ายทักษิณ “คุณธนาธรสงสัยว่าผมจะสนับสนุนคุณประยุทธ์
ความจริงผมอัดคลิปนี้ก่อนวันที่จะไปดีเบท”
ที่บอกให้ฟังกันช้าๆ ชัดๆ “๕
ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจย่ำแย่ ประเทศเสียหายมามากพอแล้ว” ก็นับว่ามีน้ำอดน้ำทนอยู่ตั้งนานมากเลยเชียว
เอ๊ะแต่ตอนรัฐบาลยิ่งลักษณ์น้ำท่วมต่อเนื่องมาจากสมัยรัฐบาลตนไฉนไม่ยอมลดราวาศอก
ซ้ำเมื่อเขาถอย ยอมยุบสภาให้เลือกตั้งใหม่ ไหงดันคว่ำบาตรเสียอีก
ลองวิเคราะห์ดูอีกที สงสัยม้าร์คเปลี่ยนท่าทีเพราะ ‘ไอทู้บ’
ปรับลุคแน่เลย ทำเก๋ไก๋ให้ดูหนุ่มเป็นคนรุ่นใหม่กับเขาบ้าง
แต่ชาวบ้านยังเหย ปรับไม่ขึ้น ลุคไหนก็เป็นได้แค่ตัวตลกเท่านั้นแหละ เทียบ ‘ป๊ะ’ เสรี ยังไม่ติดฝุ่นเลย
ขานั้นอภิปรายเนิบๆ จวกรัฐบาลทหารซื้อเรือดำน้ำ
รถถัง อ้างรอใช้สงครามโลกครั้งที่ ๓ คนออกไอเดียไม่รู้จะอยู่ถึงไหม พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์
เตมียเวส อ้าแขนพร้อมร่วมรัฐบาลกับฝ่ายประชาธิปไตย ใครชนะคะแนนให้เป็นผู้นำไป
ก่อนผละโพเดี้ยม ป๊ะหักมุมเสียจนผู้ร่วมอภิปรายคนอื่นๆ
แทบตกปะรำ “ตนเองขอแค่รัฐมนตรีกลาโหมก็พอ” ทำเอาคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์
แคนดิเดทพรรคเพื่อไทย อั้นไว้ไม่อยู่ปล่อยก๊าก
และเหนืออื่นใด สฤณี อาชวานันทกุล
ให้ข้อคิดไว้ใช้กับลุคต่างๆ อย่างเหมาะเหม็ง #จะสร้างภาพยังไงก็ลบความเลวในอดีตไม่ได้
ที่ว่า ‘ราคาของความสงบ’
แค่สี่ปีนับแต่พฤษภา ๕๗ ถึงพฤษภา ๖๑ มีคนถูก
คสช.ข่มขู่คุกคามอย่างน้อย ๑,๑๓๘ ราย มีการแทรกแซงกิจกรรมสาธารณะ ๒๖๔ รายการ
อย่างน้อยประชาสังคม ๖๖ กลุ่มถูกปิดกั้น ถูกดำเนินคดีข้อหาชุมนุมเกินห้าคน ๓๗๘ คน
โดนคดีฝ่าฝืน พรบ.ชุมนุมสาธารณะ ๒๑๔ ราย
คดียุยงปลุกปั่น กม.อาญามาตรา ๑๑๖ ๙๒ คน และในช่วงทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ๖๐
คสช.จับผู้ที่ต้องการแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์ไป ๑๑๓ คน ส่วนใหญ่โทษฐานขัดคำสั่งคณะรัฐประหาร
รวมแล้วในช่วงเวลาที่ คสช.ใช้อำนาจเผด็จการเหนียวแน่น
มีพลเรือนถูกนำตัวไปดำเนินคดีในศาลทหาร ละเมิดหลักการนิติธรรมสากล
และย่ำยีสิทธิมนุษยชนถึง ๒,๔๐๘ ราย นั่นไม่ใช่ความทรงจำ
แต่เป็นรอยช้ำที่ต้องชำระสะสาง
ทางด้านพรรคการเมืองที่โดนเตะตัดขาต้องเสียสิทธิ์ไปแล้ว
อดอภิปรายดีเบทกับใครๆ ก็ไม่ยั่น ลุกขึ้นได้ออกวิ่งต่อด้วยจุดหมายเส้นชัยเดิม
ไม่ได้แก่ตนขอให้ได้กับขบวนการ จาตุรนต์ ฉายแสง พร้อมหน้าแกนนำ ทษช. ประกาศออกเดินสายรณรงค์
“ที่จะทำให้เกิดประชาธิปไตยในบ้านเมือง แก้ปัญหาเศรษฐกิจ
หยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช. และส่งเสริมให้เกิดรัฐบาลประชาธิปไตย”
ต่อไปไม่หยุดยั้งจนกระทั่งถึงวันเลือกตั้ง แม้นว่าแกนนำทั้ง ๙ คน “ยืนยันจะไม่ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใด”
ตั้งความหวังว่า
“ประชาชนที่สนับสนุนพรรคไทยรักษาชาติ จะสนับสนุนพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยให้จัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ
แม้บางคนจะบอกเป็นปาฏิหารย์ แต่ถ้าจะช่วยกันปาฏิหารย์ก็จะเกิดขึ้น”
จึงต้องย้ำคำเขียนของ
ประจักษ์ ก้องฯ @bkksnow แห่งคณะรัฐศาสตร์ มธ.
ซ้ำแล้วซ้ำอีก “เป็นไปได้ที่การเลือกตั้งครั้งนี้จะเกิด ‘สึนามิทางการเมือง’ ปชช.ออกมาเลือกตั้งถล่มทลาย ทำให้ผลการเลือกตั้งอาจไม่เป็น ‘หวยล็อค’ ซึ่งเคยเกิดขึ้นแล้วในการเลือกตั้งมาเลเซีย
2018 #เลือกตั้ง62”
(ขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจากหน้าทวิตเตอร์ Deep Blue Sea @WassanaNanuam)
