เก็บไว้ไม่ได้แล้วละ กกต.ไทย ไม่เพียงแค่ ‘มั่ว’ "แต่ผู้จัดการเลือกตั้งไม่สามารถควบคุมกลโกงต่างๆ ได้"

แม้นว่าตัวเลขไม่ทางการล่าสุดขณะเขียนนี่ จากผลนับคะแนนได้ ๙๕ เปอร์เซ็นต์ เพื่อไทยนำ พปชร. ก็ต้องยอมรับกันถ้วนทั่วว่า ไม่มีการเลือกตั้งครั้งใด ประเทศไหนสะเด็ดดวงเท่านี้ การนับคะแนนไม่เพียงแค่ ‘มั่ว’ (#ผมไม่มีเครื่องคิดเลข)

แต่ผู้จัดการเลือกตั้งไม่สามารถควบคุมกลโกงต่างๆ ได้ เผลอๆ พวกผู้ตรวจฯ ของ กกต.ทั้งหลายนั่นละ ‘เล่นเอง’

ยกตัวอย่างกรณีคล้าสสิคที่สุดเห็นจะเป็นการพลิกผันของคะแนนพรรคเพื่อไทยจากอันดับหนึ่งไปเป็นอันดับสอง แบบว่า “เออไอ้สัส นับไปนับมา คะแนนมึงลดได้ด้วย” (ขออภัยใช้สำนวนถึงใจของ ‘อกาลิโก‏ @loving_friday’)

 

เขาทำกร๊าฟฟิคให้ดู ตอน ห้าทุ่ม ๑๓ นาฑี (คืนวันที่ ๒๔ มีนา) คะแนนเพื่อไทยได้ ๗ ล้าน ๓ แสน ๗ หมื่นกว่า พอถึงเวลา ๓๔ นาฑีหลังเที่ยงคืน คะแนนลดลงไปเหลือ ๗ ล้าน ๒ แสน ๑ หมื่น หายไป ๑ แสน ๖ หมื่นได้ยังไง

คำตอบทางหนึ่งเทียบดูจากเขตเลือกตั้งที่ ๙ หลักสี่ “พรรคพลังประชารัฐ นายสิระ เจนจาคะ กลับมาพลิกชนะ พรรคเพื่อไทย​ นายสุรชาติ​ เทียนทอง​ แต่พบปัญหาในการนับคะแนน เนื่องจากจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์ มีน้อยกว่าบัตรลงคะแนน”

(รายละเอียดยิบดูได้จาก https://www.khaosod.co.th/election-2019/news_2344222)

แล้วก็พรรค พปชร.นี่ละ ที่ชลบุรี หัวคะแนนโดนแจ้งความว่า “มีการชักชวนชาวบ้านไปลงคะแนนเสียงในพื้นที่ ต.มาบไผ่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ในช่วงที่กำลังลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง” กรณีนี้มีเคล็ดเอาฮาเล็กน้อย เผื่อไว้ตอนท้ายๆ อาจช่วยหายเศร้าได้

คือ คู่กรณีทั้งฝ่ายที่ฟ้องร้อง และฝ่ายที่ต้องหา นามสกุล ‘เนื่องจำนงค์’ เกือบทั้งนั้น มีนายพายุ เนื่องจำนงค์ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กับนายสมชาย เนื่องจำนงค์ ผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่ แจ้งความเอาผิดต่อ หัวคะแนนของนายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ อดีต ส.ส.ต้น ผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ”

อย่างไรก็ดีผลการเลือกตั้ง ๘ เขตของเมืองชล ข่าวว่า พปชร.คว้าไป ๕ เขต ที่เหลืออีก ๓ เขตโดนพรรคอนาคตใหม่แทรกได้แบบหน้าแตกเป็นริ้วไปเลยเชียว โดยเฉพาะเขต ๖ เป็นการ ‘ล้มช้าง’ ทำให้นายอิทธิพล คุณปลื้ม จ้าวพ่อท้องถิ่นสอบตก

(https://www.matichon.co.th/region/news_1422986)

 

อีก ‘ช้าง’ ที่โดน อนค.ล้ม ก็ที่พิษณุโลก จากรายงานผลหลังปิดหีบโดย ‘ผู้จัดการออนไลน์’ ๕ เขตเลือกตั้ง เพื่อไทยได้ ๒ พลังประชารัฐได้ ๒ และอนาคตใหม่แทรกเข้าไปอีก ๑ ด้วยการที่นายปดิพัทธ์ สันติภาดา หรืออ๋อง เบอร์ ๒ ล้มตัวแสบของพรรค ปชป. นพ.วงรค์ เดชกิจวิกรม คว่ำไม่เป็นท่า

(https://mgronline.com/local/detail/9620000029405)

กลับมาเรื่องเศร้า ผลงานอัปยศทั้งหลายแหล่ของ กกต. เบื้องต้นแน่นอนฟันธงได้ว่าขาดสมรรถภาพ ไม่ควรได้รับการคัดสรรมาทำหน้าที่นี้ เบื้องกลางและเบื้องปลายอาจจะเป็นที่ทำตามสั่งของ คสช.เสียจนเละ และจับได้ไล่ไม่ทันชั้นเชิงชั่วของพวกหนุน คสช.

เรื่อง #ผมไม่มีเครื่องคิดเลข นี่ ‘พี้ค’ สุดๆ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง แถลงสรุปผลเมื่อตอนสามทุ่มจะครึ่ง คืนวันที่ ๒๔ หลายประเด็น จู่ๆ ก็หยุดกลางคัน เมื่อไม่สามารถตอบคำถามผู้สื่อข่าวได้ว่า จากผลคะแนนจะหาจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อได้อย่างไร

“ตอนนี้ผมไม่มีเครื่องคิดเลขอยู่ ในมือถือหนูมีเครื่องคิดเลข กรุณาคิดให้แทนผมได้มั้ยครับ” ทั่นประธานฯ บอก แล้วยุติการแถลง นัดใหม่อีกครั้งวันที่ ๒๕ มีนาคม ให้ไปพบกันที่สำนักงาน กกต. แต่พวกประชากรออนไลน์ไม่เล่นด้วย

“คุณอย่าหนีไปนอนครับ ไม่มีเครื่องคิดเลข แต่คนทั้งประเทศเขามีครับ นับผลเลือกตั้งบ้าน มีบอกผลข้ามคืนด้วย ไม่ใช่สอบโอเน็ตครับ” เจ้าของนาม ‘ดีแลน ลุน’ จัดการคำนวณให้ ได้ความว่าคราวนี้มีผู้ไปใช้สิทธิ์ ๖๕.๙๖% (น้อยจัง) จำนวน ๓๓,๗๔๙,๖๒๖ คน (จากผู้มีสิทธิ์ทั้งสิ้น ๕๑ ล้าน ๒ แสน)

(http://www.thairath.co.th/content/1528611)

อันนั้น ‘sirote klampaiboon’ ชี้ว่าเป็น ‘เรื่องที่น่าเสียใจ’ เพราะเปอร์เซ็นต์น้อยกว่าจำนวนคนไปใช้สิทธิ์ล่วงหน้า ทว่าเขาเหน็บอย่าง ‘sarcastic’ สุดแสบเซี้ยวว่าข้อน่ายินดี “คือหลายเขตคนไปลงคะแนนเกินกว่า ๒๐๐% ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขต ชื่นชม กกต. #ไม่มีเครื่องคิดเลข”

มิน่ารายงานของ กกต.หลายแห่งหลายกรณีไม่สมเหตุสมผลเลยแม้แต่นิด ดังเช่นที่ชัยภูมิบอกว่าจำนวนบัตรเสียมากกว่าจำนวนผู้ไปใช้สิทธิ (สองแสนเก้าต่อสองแสนสี่) แถมมีบัตรที่ไม่ได้กาเลือกผู้ใดอีกเกือบสองแสน

 

ที่สุรินทร์ก็เหมือนกัน เขต ๓ จำนวนผู้มีสิทธิ์ แสนห้า แต่มีคะแนนลงที่นั่น ๒ แสน ๗ หมื่น แบบเดียวกับอุบลฯ คนไปใช้สิทธิ์เกือบ ๙ แสนจากจำนวนผู้มีสิทธิ์ล้านสาม แต่ไหงมีบัตรดีแค่หมื่นสี่ บัตรเสีย ๔ แสน ๗ หมื่น กับที่ไม่กาชื่อใครอีก ๔ แสน ๖ หมื่น มีแต่คนถามว่าเป็นไปได้อย่างไร

พอถึงเรื่องบัตรคะแนนจากนิวซีแลนด์ไปถึงไทยไม่ทันปิดหีบ กลายเป็นบัตรเสีย ๑,๕๐๐ ใบ เดิมว่าส่งวันที่ ๒๒ แต่ถึงเช้าวันที่ ๒๔ เพราะเครื่องบินดีเลย์ ตอนนี้เปลี่ยนใหม่ สถานทูตแถลงเป็นลายลักษณ์อักษร ว่าส่งบัตรขึ้นเครื่องตั้งแต่วันที่ ๑๘ มีนา กำหนดถึงไทยวันที่ ๑๙ มีนา

หีบบัตรไปเลี้ยวลดอยู่ที่ไหนตั้ง ๕ วัน สถานทูตไม่เกี่ยว แต่ กกต.ก็ยังทำเฉย เอกชัย ไชยนุวัติ เลยช่วยเสาะ ‘search’ ให้โดยใช้แอ็พพลิเกชั่นติดตามเที่ยวบิน ทีจี ๔๙๒ จากอ็อคแลนด์ถึงกรุงเทพฯ ทุกๆ เที่ยวตั้งแต่ ๑๙-๒๓ มีนา ไม่มีเที่ยวไหน ‘ดีเลย์’ เลย

ถึงจุดนี้ได้เวลาแล้วละ ต้องร่วมกันรณรงค์ ‘ถอดถอน’ กกต. เสียที ดังที่ @themomentumco แจ้งว่า ณ เวลา ๑๒.๒๒ น. (วันที่ ๒๕ มีนา) มีผู้ร่วมลงชื่อทาง change.org กันแล้วกว่าแสนราย คุณล่ะไปร่วมลงกับเขาหรือยัง

เชิญเลยที่นี่ https://www.change.org/p/OKtxcCXg0SM